ยะลา - กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เผยโครงสร้างเปอร์มูดอ มีบีอาร์เอ็นชักใยเบื้องหลัง โดยคัดเลือกเยาวชนเข้ามาฝึกเป็นแนวร่วมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบัน มีประมาณ 3,000 คน ทั้งนี้ เปอร์มูดอที่ผ่านการฝึกจะติดปีกเป็นอาร์เคเค หรือฝ่ายทหารก่อเหตุแนวหน้า
วันนี้ (22 มี.ค.) จากกรณีที่รัฐบาลไทยมีการลงนามเพื่อเริ่มต้นการพุดคุยสันติภาพ ที่ประเทศมาเลเซีย โดยมีสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กับขบวนการบีอาร์เอ็น โคออดิเนต ซึ่งมีนายฮาซัน ตอยิบ เป็นแกนนำ และจะมีการพบปะพุดคุยอีกครั้งในวันที่ 28 มี.ค.นี้ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเจรจาถูกตัวหรือไม่ และยังมีกลุ่มเปอร์มูดอบารูที่ไม่ยอมเข้าร่วมกระบวนการพูดคุยในครั้งนี้
ด้าน พ.อ.สมเดช โยธา นายทหารปฏิบัติการ กอ.รมน.ภาค 4 สน. เปิดเผยถึงโครงสร้างของเปอร์มูดอ ว่า เปอร์มูดอ ก็เป็นส่วนหนึ่งของบีอาร์เอ็น ซึ่งเป็นส่วนเริ่มแรกในการจัดตั้งขบวนการ เนื่องจากขบวนการบีอาร์เอ็นต้องขับเคลื่อนด้วยเยาวชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขบวนการจะต้องมีเยาวชนเข้ามาสนับสนุนในการปฏิบัติอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้น เปอร์มูดอนี้จะเป็นส่วนหลักที่พยายามชักชวน และดึงเยาวชนเข้ามาเป็นสมาชิกของบีอาร์เอ็น
ทั้งนี้ ขบวนการบีอาร์เอ็นจะคัดเลือกเด็กที่เก่ง มีความเคร่งครัดในศาสนาเพื่อจะเข้ามาฝึกตามขั้นตอน ปัจจุบันนี้ บีอาร์เอ็นพยายามเอาเปอร์มูดอประมาณ 30,000 คน เข้ามาอยู่ในระบบตลอดเวลา เพราฉะนั้น บางคนที่ผ่านขั้นตอนเป็นเปอร์มูดอแล้วก็จะไปเป็นฝ่ายทหาร หรืออาร์เคเค บางส่วนจะเป็นฝ่ายมวลชน หรือเป็นสมาชิกหลักต่อไป
การฝึกขั้นตอนเปอร์มูดอนี้จะเป็นขั้นตอนหลังจากชักชวน หรือซุมเป๊าะแล้ว ก็จะเป็นการฝึกร่างกาย มีการทดสอบปฏิบัติ และการบ่มเพาะไปเรื่อย โดยใช้เวลาประมาณ 2 ปี หลังจากนั้น ก็จะคัดเลือกคนที่เก่ง หรือเฉลียวฉลาดไปเป็นเปอร์มูดอชั้นสูง หรือเปอร์กาเดส จากนั้นก็จะกลับไปเป็นนักจัดตั้ง ส่วนคนที่มีร่างกายแข็งแรงก็จะไปฝึกเป็นทหาร หรืออาร์เคเค ส่วนคนทั่วไป หรือร่างกายไม่แข็งแรงก็จะมาเป็นฝ่ายมวลชน
พ.อ.สมเดช โยธา นายทหารปฏิบัติการ กอ.รมน.ภาค 4 สน. กล่าวว่า ผู้ก่อความไม่สงบหลักๆ ก็คือ เป็นกลุ่มของอาร์เคเค ส่วนเปอร์มูดอจะเป็นกำลังสนับสนุนสร้างความรุนแรง เช่น การไปลวงเป้าหมาย หาข้อมูลข่าวสาร โครงสร้างอาร์เคเคก็จะคัดจากเปอร์มูดอไปฝึกต่ออีกเป็นเวลา 45 หรือ 30 วัน แล้วแต่สถานการณ์ หลังจากนั้น ก็จะบรรจุตามพื้นที่ ซึ่งพวกนี้จะมีประมาณ 3,000 คน และใน 3,000 คนนี้ ทางเจ้าหน้าที่ก็มีการสืบสวนติดตามจากการจับกุมคนที่มามอบตัว ซึ่งพอจะทราบว่าแต่ละส่วนอยู่ในพื้นที่ใดบ้าง ปัจจุบันมีกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ โดยแบ่งเป็นหน่วยตามสายงาน
“ส่วนการหารายได้นั้น ทางขบวนการใช้เศรษฐกิจพึ่งพาตัวเอง เก็บเงินจากสมาชิกวันละบาท หลังจากนั้น จะเป็นการบริหารจัดการของขบวนการเอง จะไม่ขอเงินจากต่างประเทศ เนื่องจากเป็นองค์กรลับ ถ้าส่งมาจากต่างประเทศก็จะรู้ว่าใครเป็นใคร” พ.อ.สมเดช โยธา กล่าว