ยะลา - รมว.กลาโหม เผยการเจรจากับกลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็น มีเป้าหมายเพื่อให้เกิดความสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยืนยันจะไม่มีการแบ่งแยกดินแดนเด็ดขาด
วันนี้ (21 มี.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมือง จ.ยะลา พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งได้นำคณะสื่อมวลชนจากส่วนกลางลงพื้นที่มาทำความเข้าใจ และดูแผนการจัดตั้งกลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็น เนื่องจากข่าวสารในพื้นที่ที่ส่วนกลางได้รับอาจมีการขาดตกข้อมูลสำคัญ จึงอยากให้สื่อจากส่วนกลางได้รับทราบข้อมูลที่แท้จริง พร้อมกับมีการติดตามความคืบหน้าในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่
โดย พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า การนำแผนปฏิบัติการขบวนการ BRN-Coordinate จำนวน 11 สถานี มาสาธิตในวันนี้ เป็นของจริงทั้งหมด ส่วนเรื่องการเจรจาก็เจรจาไป การดำเนินการในเรื่องความมั่นคง การดูแลทรัพย์สิน และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ก็ดำเนินการไป ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับการพูดคุยเพื่อสร้างสันติภาพในพื้นที่
ส่วนกรณีที่ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่จะมีการพูดคุยกับขบวนการบีอาร์เอ็น ในวันที่ 28 มี.ค.56 นี้ เป็นการเจรจายกแรกเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมา เป็นเพียงแค่การพูดคุยตกลงกันว่าได้มีการคุยกันแล้วในระดับหนึ่งภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญไทย ส่วนกรณีจะมีการแบ่งแยกประเทศนั้น ขอยืนยันว่า ไม่มีเด็ดขาด ดังนั้น การเจรจาปล่อยให้กระบวนการดำเนินกันต่อไป ซึ่งวัตถุประสงค์ของทั้ง 2 ฝ่ายเหมือนกัน คือ เพื่อให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดสันติภาพ อย่าเพิ่งไปคาดเดาว่าผลจะเป็นแบบไหน
เพราะฉะนั้น ปล่อยให้การเจรจาดำเนินการตามกระบวนการก่อน แล้วค่อยมาสรุปผลกัน ส่วนการดูแลพื้นที่ในระหว่างที่มีการเปิดการเจรจากันนั้น ทางด้านหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ และหน่วยงานด้านการพัฒนา และหน่วยงานที่ดูแลด้านกฎหมายได้มีผลการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดในทุกพื้นที่เหมือนเดิม เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่อย่างสงบสุขนั่นเอง
“ส่วนที่จะพุดคุยในวันที่ 28 มีนาคม 56 นี้ อยากเห็นกลุ่มหลายกลุ่มออกมาพูดคุยกัน ทั้งนี้ ในส่วนที่เป็นกลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มปฏิบัติการขบวนการ BRN-Coordinate ก็อยากเห็นกลุ่มเล็กๆ มาร่วมเจราจาด้วย เพราะการเจรจานั้นต้องใช้ระยะเวลา ซึ่งที่สุดนั้นก็นำมาเพื่อความสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั่นเอง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าว
