ศูนย์ข่าวหาดใหญ่-บึ้มกลางเมืองหน้าสหกรณ์ตำรวจปัตตานี เด็กชายวัย 9 ขวบ ยืนซื้อไอศกรีมหน้าร้านถูกแรงระเบิดอัดดับคาที่ ตำรวจ ชาวบ้าน เจ็บอีก 19 ราย ไฟลุกไหม้รถยนต์และรถจักรยานยนต์เสียหายรวม 6 คัน เจ้าหน้าที่เชื่อแนวร่วมกลุ่ม "มะซอเร ดือรามะ" ก่อเหตุ "มาร์ค"ไล่ "เหลิม" ลงใต้ บอกไม่ต้องห่วงงานสภาฯ
เมื่อเวลา 13.45 น.วานนี้ (21 มี.ค.) พ.ต.อ.ต่วยเดร์ จุฑานันท์ ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิด และเพลิงไหม้บริเวณถนนสุวรรณมงคล ต.อาเนาะรู เขตเทศบาลเมืองปัตตานี จึงประสานรถดับเพลิงและชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดไปที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นเส้นทางบริเวณจุดเกิดเหตุ ขณะที่รถดับเพลิงได้เร่งฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ซึ่งใช้เวลา 10 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงรีบลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลปัตตานี ในจำนวนนี้ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุที่หน้าร้านเบอร์เกอรี่ 1 ราย สภาพถูกแรงระเบิดจนเสื้อผ้าขาด และตามลำตัวมีสะเก็ดระเบิด ทราบชื่อคือ ด.ช.นิโซเฟียน นิสะนิ อายุ 9 ปี
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 18 ราย ได้แก่ 1.ร.ต.ต.สุชาติ สมเอียด 2.นายสุภลักษณ์ กาลเมฆ 3.นางแวรอกีเยาะ เหมาะสมาน 4.นางรอฮานิง เหมาะสมาน 5.นายฉัตรชัย กัมลา 6.นายซัมซูดิง ตาเยะ 7.นาย อันวา เจ๊ะลี 8.นางแวลีเมาะ เจะเราะ 9.นายอาฮามะ เวาะเยะ 10.นายอดิศร แวอีซอ 11.นายอนันต์ เยี่ยมคำนวณ 12.นายนิแซ นิสะนิ 13.นางฐิติรัตน์ ศรีษะน้อย 14.น.ส.สุไรดา มูนะ 15.นางวัลภา พรหมแก้ว 16.นางอุบล สุขสมบูรณ์ 17.นางศิริพร เครือแปรง และ18.นางยุพดี บุญสนอง
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า เป็นอาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้น ปลูกติดกัน 20 ห้อง ซึ่งตึกทั้งหมดเป็นที่ตั้งของสหกรณ์ตำรวจปัตตานี สำนักงานคุมประพฤติปัตตานี ร้านค้าต่างๆ และบ้านพักของประชาชน โดยจุดเกิดเหตุนั้นอยู่หน้าสหกรณ์ตำรวจปัตตานี แรงระเบิดทำให้กระจก ฝ้าเพดาน และผนังตึกแตกได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ แรงระเบิดยังทำให้เกิดเพลิงไหม้รถยนต์ จำนวน 2 คัน และรถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน ได้รับความเสียหายไปด้วย และพบซากรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซึ่งเป็นรถที่คนร้ายซุกระเบิด สภาพถูกแรงระเบิดจนเหลือแต่ซากเศษเหล็ก
จากการสอบสวนทราบว่า บริเวณที่เกิดเหตุเป็นตลาดเปิดท้ายของขาย แต่วันนี้มีร้านจำหน่ายสินค้าไม่มาก ก่อนเกิดเหตุขณะที่พ่อค้า และประชาชนกำลังเดินซื้อของ ส่วนผู้ตาย และพ่อแม่กำลังยืนสั่งไอศกรีมอยู่หน้าร้าน ห่างจากรถจักรยานยนต์ซุกระเบิดประมาณ 2 เมตร ปรากฏว่า คนร้ายได้กดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ซุกไว้ในรถจักรยานยนต์ น้ำหนักประมาณ 3 กก. จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บดังกล่าว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบของ นายมะซอเร ดือรามะ ต้องการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่
**"บิ๊กโอ๋"หอบสื่อลงพื้นที่ยะลา
เวลา 07.30 น.ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 (บน.6) พล.อ.อ.สุุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ได้นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ จ.ยะลา โดยเดินทางไปที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อเยี่ยมชมกิจกรรมเปิดโปงแผนปฎิบัติการขบวนการบีอาร์เอ็น คอร์ดิเน็ต และรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมจาก พล.ท.อุดมเดช ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.รักษาความมั่นคงภายในภาค 4
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวก่อนเข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า การนำแผนปฏิบัติการขบวนการบีอาร์เอ็น คอร์ดิเน็ต จำนวน 11 สถานีมาสาธิตในวันนี้ เป็นของจริงทั้งหมด ส่วนเรื่องการพูดคุยก็พูดคุยไป การดำเนินการในเรื่องความมั่นคง การดูแลทรัพย์สินและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ก็ดำเนินการไป ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับการพูดคุยเพื่อสร้างสันติภาพในพื้นที่
ส่วนกรณีที่ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการพูดคุยกับขบวนการบีอาร์เอ็นในวันที่ 28 มี.ค.นี้ เป็นการพูดคุยยกแรกเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมา เป็นเพียงแค่การพูดคุยตกลงกันว่าได้มีการคุยกันแล้วในระดับหนึ่ง ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญไทย ส่วนกรณีจะมีการแบ่งแยกประเทศนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีเด็ดขาด
**"มาร์ค"ไล่"เหลิม"ลงใต้
ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ยังไม่ยอมลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ต้องถามนายกรัฐมนตรี เพราะนายกฯ เคยกำชับร.ต.อ.เฉลิม ไปแล้ว แต่เมื่อเป็นแบบนี้ นายกฯ ก็ต้องพิจารณาว่า สมควรที่จะมอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม ทำเรื่องนี้ต่อหรือไม่ ซึ่งพวกตนยินดีให้ ร.ต.อ.เฉลิม ไปดูแล 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยไม่ต้องมาชี้แจงในสภาฯ ก็ได้ เพราะเวลาที่ชี้แจงก็ไม่ค่อยพูดตามข้อเท็จจริงเท่าไร เพราะ ร.ต.อ.เฉลิม มีข้ออ้างอยู่เรื่อย ตามจริงประกาศให้ชัดเลยว่า จะไม่ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และต้องถามนายกฯ ว่า เมื่อเขาไม่พร้อมแล้วจะไปบังคับเขาทำไม และจะยังคงมอบหมายงานให้คนที่ไม่พร้อมมาทำงานหรือไม่
เมื่อเวลา 13.45 น.วานนี้ (21 มี.ค.) พ.ต.อ.ต่วยเดร์ จุฑานันท์ ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิด และเพลิงไหม้บริเวณถนนสุวรรณมงคล ต.อาเนาะรู เขตเทศบาลเมืองปัตตานี จึงประสานรถดับเพลิงและชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดไปที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นเส้นทางบริเวณจุดเกิดเหตุ ขณะที่รถดับเพลิงได้เร่งฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ซึ่งใช้เวลา 10 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงรีบลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลปัตตานี ในจำนวนนี้ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุที่หน้าร้านเบอร์เกอรี่ 1 ราย สภาพถูกแรงระเบิดจนเสื้อผ้าขาด และตามลำตัวมีสะเก็ดระเบิด ทราบชื่อคือ ด.ช.นิโซเฟียน นิสะนิ อายุ 9 ปี
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 18 ราย ได้แก่ 1.ร.ต.ต.สุชาติ สมเอียด 2.นายสุภลักษณ์ กาลเมฆ 3.นางแวรอกีเยาะ เหมาะสมาน 4.นางรอฮานิง เหมาะสมาน 5.นายฉัตรชัย กัมลา 6.นายซัมซูดิง ตาเยะ 7.นาย อันวา เจ๊ะลี 8.นางแวลีเมาะ เจะเราะ 9.นายอาฮามะ เวาะเยะ 10.นายอดิศร แวอีซอ 11.นายอนันต์ เยี่ยมคำนวณ 12.นายนิแซ นิสะนิ 13.นางฐิติรัตน์ ศรีษะน้อย 14.น.ส.สุไรดา มูนะ 15.นางวัลภา พรหมแก้ว 16.นางอุบล สุขสมบูรณ์ 17.นางศิริพร เครือแปรง และ18.นางยุพดี บุญสนอง
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า เป็นอาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้น ปลูกติดกัน 20 ห้อง ซึ่งตึกทั้งหมดเป็นที่ตั้งของสหกรณ์ตำรวจปัตตานี สำนักงานคุมประพฤติปัตตานี ร้านค้าต่างๆ และบ้านพักของประชาชน โดยจุดเกิดเหตุนั้นอยู่หน้าสหกรณ์ตำรวจปัตตานี แรงระเบิดทำให้กระจก ฝ้าเพดาน และผนังตึกแตกได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ แรงระเบิดยังทำให้เกิดเพลิงไหม้รถยนต์ จำนวน 2 คัน และรถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน ได้รับความเสียหายไปด้วย และพบซากรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซึ่งเป็นรถที่คนร้ายซุกระเบิด สภาพถูกแรงระเบิดจนเหลือแต่ซากเศษเหล็ก
จากการสอบสวนทราบว่า บริเวณที่เกิดเหตุเป็นตลาดเปิดท้ายของขาย แต่วันนี้มีร้านจำหน่ายสินค้าไม่มาก ก่อนเกิดเหตุขณะที่พ่อค้า และประชาชนกำลังเดินซื้อของ ส่วนผู้ตาย และพ่อแม่กำลังยืนสั่งไอศกรีมอยู่หน้าร้าน ห่างจากรถจักรยานยนต์ซุกระเบิดประมาณ 2 เมตร ปรากฏว่า คนร้ายได้กดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ซุกไว้ในรถจักรยานยนต์ น้ำหนักประมาณ 3 กก. จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บดังกล่าว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบของ นายมะซอเร ดือรามะ ต้องการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่
**"บิ๊กโอ๋"หอบสื่อลงพื้นที่ยะลา
เวลา 07.30 น.ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 (บน.6) พล.อ.อ.สุุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ได้นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ จ.ยะลา โดยเดินทางไปที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อเยี่ยมชมกิจกรรมเปิดโปงแผนปฎิบัติการขบวนการบีอาร์เอ็น คอร์ดิเน็ต และรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมจาก พล.ท.อุดมเดช ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.รักษาความมั่นคงภายในภาค 4
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวก่อนเข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า การนำแผนปฏิบัติการขบวนการบีอาร์เอ็น คอร์ดิเน็ต จำนวน 11 สถานีมาสาธิตในวันนี้ เป็นของจริงทั้งหมด ส่วนเรื่องการพูดคุยก็พูดคุยไป การดำเนินการในเรื่องความมั่นคง การดูแลทรัพย์สินและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ก็ดำเนินการไป ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับการพูดคุยเพื่อสร้างสันติภาพในพื้นที่
ส่วนกรณีที่ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการพูดคุยกับขบวนการบีอาร์เอ็นในวันที่ 28 มี.ค.นี้ เป็นการพูดคุยยกแรกเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมา เป็นเพียงแค่การพูดคุยตกลงกันว่าได้มีการคุยกันแล้วในระดับหนึ่ง ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญไทย ส่วนกรณีจะมีการแบ่งแยกประเทศนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีเด็ดขาด
**"มาร์ค"ไล่"เหลิม"ลงใต้
ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ยังไม่ยอมลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ต้องถามนายกรัฐมนตรี เพราะนายกฯ เคยกำชับร.ต.อ.เฉลิม ไปแล้ว แต่เมื่อเป็นแบบนี้ นายกฯ ก็ต้องพิจารณาว่า สมควรที่จะมอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม ทำเรื่องนี้ต่อหรือไม่ ซึ่งพวกตนยินดีให้ ร.ต.อ.เฉลิม ไปดูแล 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยไม่ต้องมาชี้แจงในสภาฯ ก็ได้ เพราะเวลาที่ชี้แจงก็ไม่ค่อยพูดตามข้อเท็จจริงเท่าไร เพราะ ร.ต.อ.เฉลิม มีข้ออ้างอยู่เรื่อย ตามจริงประกาศให้ชัดเลยว่า จะไม่ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และต้องถามนายกฯ ว่า เมื่อเขาไม่พร้อมแล้วจะไปบังคับเขาทำไม และจะยังคงมอบหมายงานให้คนที่ไม่พร้อมมาทำงานหรือไม่