xs
xsm
sm
md
lg

อบจ.14 จว.ใต้จับมือเก็บภาษีคลังน้ำมัน เผยรายได้เพิ่มปีละกว่าร้อยล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายมนตรี เพชรขุ้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี
สุราษฎร์ธานี - อบจ. 14 จว.ภาคใต้มีมติเห็นชอบจัดเก็บภาษีค้าน้ำมันร่วมกัน โดยจัดเก็บภาษีน้ำมันต้นทางที่คลังน้ำมัน เผยจะทำให้เกิดความเป็นธรรม เป็นการเพิ่มพูนรายได้ของ อบจ. ในการพัฒนาท้องถิ่น คาดรายได้เพิ่ม อบจ.ละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

นายมนตรี เพชรขุ้ม นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี เผยว่า มติที่ประชุมสมาพันธ์องค์การบริหารส่วนจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ มีมติเห็นชอบที่จะดำเนินการจัดเก็บภาษี อบจ.จากการค้าน้ำมันร่วมกัน ตามที่ อบจ.สุราษฎร์ธานี ได้เสนอแนวทางการจัดเก็บภาษีบำรุงองค์การบริหารส่วนจังหวัดจากการค้าน้ำมันในเขตจังหวัด โดยเสนอให้มีการจัดเก็บภาษีน้ำมันต้นทาง ณ คลังน้ำมัน พร้อมได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการจัดเก็บภาษีบำรุง อบจ. จากการค้าน้ำมันระหว่าง อบจ.14 จังหวัดภาคใต้

นายมนตรี กล่าวอีกว่า อบจ.ภาคใต้ที่มีคลังน้ำมัน จะเป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บภาษีไว้แทน และนำส่งค่าภาษีให้แก่ อบจ.ที่ไม่มีคลังน้ำมัน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างแก้กฎหมาย และระเบียบต่างๆ เพื่อสามารถเก็บภาษีจากผู้ค้าส่ง หรือคลังน้ำมันแทนการเก็บจากผู้ค้าปลีก

ทั้งนี้ การจัดเก็บภาษีน้ำมัน กฎหมายให้ อบจ.ทุกจังหวัดมีหน้าที่จัดเก็บภาษีน้ำมันจากผู้ประกอบการ ผู้ค้าปลีก สถานีบริการน้ำมัน ซึ่งในทางปฏิบัติประสบปัญหามาโดยตลอด ไม่สามารถจัดเก็บได้ตามเป้า และไม่คุ้มค่าการออกไปจัดเก็บภาษี ขณะที่การจัดเก็บภาษีจากคลังน้ำมันนั้นจะทำให้เกิดความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี เป็นการเพิ่มพูนรายได้ของ อบจ. ในการพัฒนาท้องถิ่น และอำนวยบริการสาธารณะแก่ประชาชนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะได้ภาษีเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณ และบุคลากร รวมถึงไม่กระทบต่อประชาชนผู้ใช้น้ำมันอีกด้วย และคาดว่าจะมีการกระจายรายได้จากการจัดเก็บภาษีให้แก่จังหวัดต่างๆ ของ 14 จังหวัดภาคใต้ในแต่ละปีนับหลายร้อยล้านบาท รวมที่จัดเก็บได้ที่คลังน้ำมันนับ 1,000 ล้านบาท ซึ่งการจัดเก็บภาษีดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มเก็บภาษีได้ประมาณไม่เกินวันที่ 15 มีนาคมที่จะถึงนี้

สำหรับคลังน้ำมันในเขต อบจ.ภาคใต้นั้นมีอยู่ 5 จังหวัด คือ จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 7 แห่ง สงขลา จำนวน 4 แห่ง ภูเก็ต จำนวน 2 แห่ง ชุมพร จำนวน 2 แห่ง และนครศรีธรรมราช จำนวน 2 แห่ง และการจัดเก็บภาษีจากคลังน้ำมันนั้นให้จัดเก็บภาษีน้ำมันในอัตราลิตรละ 5 สตางค์ การจัดเก็บภาษีก๊าซปิโตรเลียมที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์จัดเก็บในอัตรากิโลกรัมละ 5 สตางค์ และให้ อบจ.ที่มีคลังน้ำมันหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการในอัตราร้อยละ 0.5 ของค่าภาษีที่เก็บได้
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น