xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ค้าน้ำมันในภูเก็ตขอ อบจ.ทบทวนเก็บภาษีน้ำมัน อ้างทำชาวบ้านเดือดร้อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชมรมผู้ค้าน้ำมันจังหวัดภูเก็ต ขอ อบจ.ทบทวนการจัดเก็บภาษีน้ำมันเชื้อเพลิง ระบุซ้ำซ้อนกับทางกรมสรรพสามิต และกรมสรรพากรที่จัดเก็บอยู่แล้ว ขณะที่ รองนายก อบจ.แจงไม่มีการเก็บภาษีเพิ่ม แต่เป็นการรับโอนภาระการจัดเก็บมาจากทางกรรมสรรพสามิต ที่มีการส่งมอบงานมาให้ อบจ.จัดเก็บเอง เชื่อเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน

เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (2 ต.ค.) นายมานะ รัตนยันต์ ประธานชมรมผู้ค้าน้ำมันจังหวัดภูเก็ต และสมาชิกฯ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังจากได้มีการประชุมหารือจากกรณีที่ผู้ค้าน้ำมันในจังหวัดภูเก็ต ได้รับหนังสือแจ้งจากทางองค์การบริหารจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) ว่า จะมีการเก็บภาษีบำรุงองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งกำหนดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 เป็นต้นไป ซึ่งทางชมรมฯ มีความเห็นว่า สำหรับภาษีน้ำมันนั้นทางกรมสรรพสามิตได้ดำเนินการจัดเก็บอยู่แล้ว นอกจากนี้ ทางกรมสรรพากรก็มีการเก็บภาษีจากหัวจ่ายน้ำมันจากภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และยังมีภาษีบำรุงท้องที่อีกส่วนหนึ่งด้วย ดังนั้น การที่ อบจ.ภูเก็ต จะมีการเก็บภาษีบำรุง อบจ.เพิ่มขึ้นมาอีกนั้น ก็จะถือเป็นการซ้ำซ้อน และเป็นการผลักภาระให้แก่ผู้บริโภค คือ ประชาชนผู้ใช้น้ำมัน

ทาง ชมรมฯ มีความเห็นร่วมกันว่าอยากจะให้ทาง อบจ.ภูเก็ตได้มีการพิจารณาทบทวนในเรื่องนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ ในส่วนของชมรมฯ นั้นมีความยินดี และสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมของทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่ไม่อยากให้มีการดำเนินการที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อพี่น้องประชาชน

นายมานะ กล่าวอีกว่า ในส่วนของตัวเลขที่ อบจ.จะให้จัดเก็บนั้นยังไม่มีการกำหนดตัวเลขที่ชัดเจน แต่เท่าที่ทราบ ในส่วนของ อบจ.อื่นๆ ที่มีการจัดเก็บอยู่บ้างแล้วยู่ที่ลิตรละประมาณ 3-5 สตางค์ ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายๆ กับการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผู้เข้าพักโรงแรมที่ให้ผู้ประกอบการเป็นคนจัดเก็บ และนำส่งให้แก่ทาง อบจ. ในส่วนของน้ำมันก็เช่นเดียวกัน เป็นการมอบให้ทางผู้ค้าจัดเก็บ และนำส่งให้แก่ อบจ. ซึ่งในส่วนของผู้ค้าเองนั้นคงไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ภาระจะตกอยู่กับผู้บริโภค เนื่องจากปัจจุบัน น้ำมันเชื้อเพลิงที่จำหน่ายในภูเก็ตนั้นก็แพงกว่าที่อื่นๆ อยู่แล้วประมาณลิตรละ 40-50 สตางค์ อันเป็นปัจจัยมาจากการขนส่ง

อย่าง ไรก็ตาม หลังจากนี้ก็จะได้ส่งหนังสือไปให้แก่ทาง อบจ.ภูเก็ต เพื่อให้ทบทวนเรื่องดังกล่าว แต่หากยังคงยืนยันเช่นเดิมทางผู้ประกอบการก็พร้อมที่จะดำเนินการให้

ด้านนายชวลิต ณ นคร รองนายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นที่ทางผู้ประกอบการเข้าใจว่า อบจ.ภูเก็ตจะมีการจัดเก็บภาษีน้ำมันเชื้อเพลิง และเป็นการซ้ำซ้อนกับทางกรมสรรพสามิต และกรมสรรพากร ว่า น่าจะเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน จริงๆ แล้วไม่ได้มีการเก็บภาษีเพิ่มแต่อย่างใด แต่เป็นการรับโอนภาระการจัดเก็บมาจากทางกรรมสรรพสามิต ซึ่งได้มีการส่งมอบงานการจัดเก็บภาษีบำรุง อบจ.จากการค้าน้ำมัน และยาสูบมาให้ อบจ.จัดเก็บเอง จากเดิมที่ทางกรรมสรรพสามิตจัดเก็บ และนำส่งให้แก่ทาง อบจ. ซึ่งก็จะได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการค้าน้ำมันต่อไป
นายมานะ รัตนยันต์ ประธานชมรมผู้ค้าน้ำมันจังหวัดภูเก็ต

กำลังโหลดความคิดเห็น