ชาวโรฮิงญาซึ้งใจคนไทยช่วยเหลือไม่ขาดสาย ขอพรให้ผู้ช่วยเหลือชีวิตเจริญก้าวหน้า

นราธิวาส - ชาวนราธิวาสร่วมบริจาคเงิน สิ่งของ เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม และอาหารแห้งแก่ชาวโรฮิงญา ขณะที่เด็กชายวัย 14 ปีกล่าวขอพรให้ผู้ใจบุญบริจาคสิ่งของทุกท่านมีความเจริญก้าวหน้าในชีวิต เผยซาบซึ้งในน้ำใจของคนไทย หากประเทศพม่าเป็นเหมือนเมืองไทยทุกคนคงไม่หลบหนีออกจากประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเยาวชนชาวโรฮิงญา จำนวน 18 คน ที่ถูกส่งตัวมาพักอาศัยชั่วคราวที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.นราธิวาส เป็นเวลา 4 วันมาแล้วว่า ล่าสุด วันนี้ (18 ม.ค.) นายนัสรันทร์ สาแลมา ผอ.โรงเรียนอัครศาสน์วิทยา และตัวแทนอิหม่าม อ.ยี่งอ รวมทั้งชาวไทยพุทธ และมุสลิม ได้ทยอยเดินทางนำเงิน เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม และอาหารแห้ง ซึ่งมีมากถึง 4 คันรถกระบะ มามอบให้แก่นายโมหามัส ซากี หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.นราธิวาส

โดยนำไปแจกจ่ายให้การช่วยเหลือเยาวชนชาวโรฮิงญาใช้ในการดำรงชีวิต ซึ่งทุกคนเริ่มมีสีหน้าที่สดใส แต่บางคนมีอาการป่วยเป็นไข้จากสภาพร่างกายที่ยังอ่อนเพลีย ซึ่งเป็นผลพวงในขณะนั่งเรือหลบหนีมาจากรัฐยะไข่ ลอยลำกลางทะเลมานาน 2 เดือน ซึ่งขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.นราธิวาส ได้ประสานขอความช่วยเหลือไปยังสำนักงานสาธารณสุข จ.นราธิวาส มาตรวจสุขภาพเยาวชนทั้ง 18 คน ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจกจ่ายยาให้รับประทานเพื่อบรรเทาอาการป่วยแล้ว แต่ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ ในเรื่องของสุขภาพจิตที่พบว่าเยาวชนทั้ง 18 คน ยังคงมีสุขภาพจิตที่ไม่ดีนัก

จากการสอบถามพบว่า ส่วนใหญ่ยังจดจำภาพอันเลวร้ายติดตาที่เจ้าหน้าที่รัฐยะไข่กระทำต่อสมาชิกในครอบครัวจนเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ ซึ่งจุดนี้ถือว่าไม่เลวร้ายสามารถหายได้หากความช่วยเหลือต่างๆ หลั่งไหลเข้ามา สุขภาพจิตของเยาวชนทั้ง 18 คนจะค่อยๆ ปรับสภาพ และหายเป็นปกติในที่สุด นอกจากนี้ ความมีน้ำใจของชาวนราธิวาสที่หลั่งไหลมาให้เยาวชนชาวโรฮิงญาทั้ง 18 คนอย่างไม่ขาดสาย เป็นภาพที่น่าประทับใจในชีวิต

ทั้งนี้ ผู้ที่ให้การช่วยเหลือ และเยาวชนชาวโรฮิงญาที่เป็นผู้ได้รับการช่วยเหลือต่างพากันร้องไห้ที่บริเวณชายคาของเรือนนอน เมื่อ ด.ช.มูหามัด ซาแบร อายุ 14 ปี เป็นผู้นำละหมาดขอพรเจ้าพระเจ้าให้ดลบันดาลให้ผู้ใจบุญมีความเจริญก้าวหน้าในชีวิต รวมทั้งขอพรจากพระเจ้าช่วยคุ้มครองรักษาชีวิตพ่อและแม่ที่ต้องพลัดพรากจากกัน อย่าได้มีภัยอันตราย และขอให้พบหน้ากันโดยเร็ววัน โดย ด.ช.มูหามัด ซาแบร อายุ 14 ปี ได้เปิดเผยผ่านล่ามพอสรุปใจความว่า ขอให้ทางการไทยช่วยเหลือชาวโรฮิงญาโดยเร็ว เพื่อให้ตน และครอบครัวที่พลัดพรากจากกันเป็นเวลานานกว่า 2 เดือนได้พบหน้ากัน และขอขอบคุณน้ำใจคนไทยทุกคนที่ให้การช่วยเหลือ ไม่คิดว่าคนไทยจะมีน้ำใจเช่นนี้ หากประเทศพม่าเป็นเหมือนเมืองไทย ทุกคนคงไม่หลบหนีออกจากประเทศ