พังงา - ตำรวจท้ายเหมือง จ.พังงา ร่วมกับตำรวจตระเวนชายแดน 425 (ตะกั่วป่า) จับกุมโรฮิงญาหนีตายขึ้นฝั่งที่ท้ายเหมืองได้ 112 คน เผยออกจากเมืองยะไข่กว่า 1,000 คนด้วยเรือ 7 ลำ มุ่งหน้าไปมาเลเซีย แต่เรือขัดข้องถูกคลื่นซัดเข้าฝั่งไทยที่ท้ายเหมืองเสียก่อน
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2555 ร.ต.ท.ชัยยุทธ บุญใหญ่ พงส.เวร สภ.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ได้รับแจ้งจากชาวประมงชายฝั่งว่า พบชาวโรฮิงญาจำนวนกว่าร้อยคนนั่งเรือหัวโทงติดเครื่องยนต์มุ่งขึ้นฝั่งที่ชายหาดทะเลท้ายเหมือง บริเวณหน้าวิทยาลัยการอาชีพท้ายเหมือง หมู่ที่ 9 ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.กุณฑล ฉลาดแพทย์ ผกก.สภ.ท้ายเหมือง กำลังตำรวจจาก สภ.ท้ายเหมือง และตำรวจตระเวนชายแดน 425 (ตะกั่วป่า)
ถึงที่เกิดเหตุบริเวณชายหาดทะเลท้ายเหมือง พบชาวโรฮิงญากำลังกระโดดจากเรือขึ้นฝั่ง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุม นับจำนวนทั้งสิ้น 112 คน ทั้งหมดเป็นผู้ชาย มีอายุต่ำสุด 18 ปี อายุสูงสุด 40 ปี โดยตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติพม่าหลบหนีเข้ามา และพักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมกับจัดหาอาหา รและน้ำดื่มให้รับประทานอย่างทั่วถึง
เจ้าหน้าที่จึงนำผู้ต้องหาทั้งหมดส่ง พงส.เวร สภ.ท้ายเหมือง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ก่อนทำการส่งตัวบุคคลต่างด้าวสัญชาติพม่าดังกล่าวให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดพังงาดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 5, 54 ประกอบประกาศกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 2 มิถุนายน 2541 เพื่อผลักดันออกนอกประเทศต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้นผ่านทาง น.ส.นา หะยีอาโด อยู่บ้านเลขที่ 32 ม.8 ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ซึ่งมีบรรพบุรุษเป็นชาวโรฮิงญาทราบว่า ชาวโรฮิงญากลุ่มนี้เดินทางมาจากรัฐยะไข่ ประเทศพม่า โดยเริ่มออกเดินทางตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2555 มีจำนวนกว่า 1,000 คน ด้วยเรือจำนวน 7 ลำ ตั้งใจจะเดินทางไปประเทศมาเลเซีย แต่เรือลำนี้ถูกคลื่นซัดจนไม่รู้ทิศทาง และลอยมาถึงฝั่งบริเวณชายหาดท้ายเหมือง เรือก็เกิดขัดข้องจึงพากันกระโดดจากเรือขึ้นฝั่ง และผู้อพยพทั้งหมดยังได้วิงวอนว่าขอให้เจ้าหน้าที่ทางการไทยอย่าได้ส่งพวกเขากลับไปยังประเทศพม่าอีกเลย เพราะส่งไปพวกเขาก็ต้องตาย เขาขอตายอยู่ในเมืองไทยดีกว่า