ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าหน้าที่ขยายผลเข้าช่วยเหลือกลุ่มมุสลิมชาวโรฮิงญาได้อีก 139 คน ขณะถูกนำมาพักไว้นพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อรอส่งไปยังประเทศที่ 3
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (13 ม.ค.) เจ้าหน้าที่จากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า นำโดย พ.อ.จรัล เอี่ยมฐานนท์ เสนาธิการกรมทหารราบที่ 51 ร่วมกับ นายจำลอง ไกรดิษฐ์ นายอำเภอสะเดา พ.ต.อ.กฤษฎา พลีธัญญวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา พ.ต.อ.พีระพงษ์ ฉายอรุณ ผกก.สภ.ปาดังเบซาร์ และ พ.ต.อิทธิพล พรหมดวง ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้
เข้าช่วยเหลือกลุ่มมุสลิมชาวโรฮิงญา ได้อีก 139 คน แยกเป็นชาย 63 คน หญิง 2 คน และเด็ก 74 คน ซึ่งถูกนำมาพักไว้บริเวณบ่อนไก่เก่าหลังวัดต้นแซะ ซอยเทศบาล 8 เขตเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ และจับกุมผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลได้ 3 คน เป็นชาวพม่า 2 คน และคนไทยอีก 1 คน แจ้งข้อหาหลบหนีเข้าเมือง และกักขังหน่วงเหนี่ยว
โดยชาวมุสลิมโรฮิงญากลุ่มนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลมาจากการเข้าช่วยเหลือมุสลิมชาวโรฮิงญา 2 กลุ่ม จำนวน 704 คน ที่ถูกนำมากักตัวไว้ในพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ และ ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 10 และ 11 มกราคม ที่ผ่านมา และทราบว่า ยังมีชาวโรฮิงญาอีกบางส่วนที่ถูกนำมากักตัวไว้ จึงได้วางแผนติดต่อล่อซื้อจากการนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งใน ต.ปาดังเบซาร์ จำนวน 3 คน กระทั่งทราบแหล่งที่พัก จึงได้นำกำลังเข้าช่วยเหลือ ส่วนสถานที่ที่ใช้สำหรับกักตัวนั้น ทราบว่าเป็นของนางรสา ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเชิญตัวมาสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง
จากการสอบสวนทราบว่า มุสลิมชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมือง เพื่อรอเดินทางไปยังประเทศที่ 3 และบางส่วนถูกทางการมาเลเซียผลักดันกลับเข้ามา โดยเจ้าหน้าที่จะทำการคัดแยก และสอบสวนว่าในจำนวนนี้มีการถูกล่อลวงจากขบวนการค้ามนุษย์ด้วยหรือไม่ ก่อนที่จะผลักดันกลับภูมิลำเนาต่อไป พร้อมกับจะเร่งสืบสวนขยายผล เพราะชื่อว่าน่าจะมีกลุ่มมุสลิมชาวโรฮิงญาอีกบางส่วนที่ยังคงถูกนำมาพักไว้บริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อรอส่งไปยังประเทศที่ 3 และส่งขายให้แก่เรือประมง
