ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือมุสลิมชาวโรฮิงญาได้อีก 307 คน ขณะถูกนำมาพักไว้ในโกดังบ้านด่านนอก เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อรอส่งไปยังประเทศที่ 3 ส่วนความคืบหน้าการช่วยเหลือชาวโรฮิงญา 397 คน เมื่อวานนี้ได้ดำเนินคดีผู้ต้องหาไปแล้ว 8 คน และจะเชิญตัวมาสอบสวนอีก 2 คน
ความคืบหน้าหลังจากเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือมุสลิมชาวโรฮิงญา จำนวน 397 คน ที่ถูกขบวนการค้ามนุษย์นำมากักขังไว้บริเวณป่าสวนยางแนวตะเข็บชายแดนไทย-มาเลเซียพื้นที่บ้านชายควน ม.4 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อวานี้ (10 ม.ค.) เพื่อรอส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านมาเลเซีย และบางส่วนขายเป็นแรงงานเรือประมง
ล่าสุด วันนี้ (11 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จ.สงขลา พร้อมฝ่ายปกครอง และตำรวจได้ช่วยเหลือกลุ่มมุสลิมชาวโรฮิงญาได้อีก 307 คน แยกเป็นชาย 230 คน หญิง 31 คน เด็กชาย 22 คน และเด็กหญิง 25 คน ขณะที่ถูกนำมาพักไว้ภายในโกดังสุดซอย 3 ไทย-จังโหลน พื้นที่บ้านด่านนอก ม.7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งอยู่ติดชายแดนไทย-มาเลเซีย และได้มีการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อมาดำเนินการตรวจสอบคัดแยกว่าเป็นการหลบหนีเข้าเมือง หรือถูกบังคับล่อลวง และตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่
พ.ต.ต.ธนูศิลป์ ดวงแก้วงาม สารวัตรตรวจคนเข้าเมือง จ.สงขลา เปิดเผยว่า จากข้อมูลในเบื้องต้นพบว่า ชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ส่วนใหญ่สมัครใจที่จะเดินทางเข้ามาเองโดยใช้ไทยเป็นทางผ่านเพื่อเดินทางไปยังประเทศที่ 3 และเป็นคนละกลุ่มกับชาวโรฮิงญาที่ถูกกักขังอยู่ในพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการสอบสวนขยายผลไปยังกลุ่มผู้ที่ลักลอบนำพาชาวโรฮิงญากลุ่มนี้เข้ามา เนื่องจากเป็นการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายก่อนที่จะดำเนินการผลักดันกลับประเทศ
ทางด้านความคืบหน้าชาวมุสลิมชาวโรฮิงญา 397 คน ที่ถูกกักขังไว้ในพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา และเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือออกมาได้เมื่อวานนี้ (10 ม.ค.) ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้คัดแยกไปควบคุมไว้ 4 แห่ง ทั้งที่ ตม.ปาดังเบซาร์ สภ.ปาดังเบซาร์ สภ.สะเดา และ สภ.คลองแงะ เพื่อรอผลักดันกลับประเทศ
ส่วนความคืบหน้าด้านคดี พ.ต.อ.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาซึ่งทำหน้าที่ดูแลชาวโรฮิงญาดำเนินคดีแล้ว 8 คน เป็นชาวพม่า 4 คน ชาวโรงฮิงญา 2 คน และคนไทย 2 คน โดยแจ้งข้อหานำพาเข้า และให้ที่พักพิง พร้อมมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง นอกจากนี้ จะเชิญตัวผู้ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยอีก 2 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นนักการเมืองท้องถิ่นใน ต.ปาดังเบซาร์ มาสอบสวนในฐานะที่เป็นเจ้าของสถานที่กักขังว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่