พึ่งศาลปกครองสงขลาหยุด “กระเช้าลอยฟ้า”

 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “นวพล บุญญามณี” อดีตนายก อบจ.สงขลา ยื่นหนังสือถึงศาลปกครองจังหวัดสงขลาให้ระงับโครงการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้า ระบุดำเนินการลัดขั้นตอนกฎหมาย ไม่มีการทำประชาพิจารณ์และ EIA

เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (14 ธ.ค.) ที่ศาลปกครองจังหวัดสงขลา ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา นายนวพล บุญญามณี อดีตนายก อบจ.สงขลา พร้อมทั้งทนาย และเครือข่ายพลเมืองสงขลา ได้รวมตัวกันยื่นหนังสือถึงศาลปกครองจังหวัดสงขลา เพื่อขออำนาจศาลสั่งระงับโครงการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลสาบสงขลา ซึ่งดำเนินการโดยนายอุทิศ ชูช่วย นายก อบจ. สงขลา โดยเริ่มมีการปรับปรุงพื้นที่แหลมสนอ่อน อ.เมือง จ.สงขลา เพื่อเตรียมการก่อสร้างสถานีกระเช้าลอยฟ้าแล้วบางส่วนในวันที่ 11 ธ.ค. 2555 ท่ามกลางกระแสต่อต้านของภาคประชาชนในพื้นที่ และต่อมานายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้มีคำสั่งให้ อบจ.สงขลา ระงับการปรับปรุงพื้นที่บริเวณแหลมสนอ่อนก่อนเป็นการชั่วคราว โดยระบุวัตถุประสงค์ของการฟ้องร้อง ดังนี้

1. ขอให้ อบจ.สงขลา ระงับโครงการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าไว้ก่อน จนกว่านายอุทิศ ชูช่วย นายก อบจ.สงขลา จะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องจนครบถ้วน

2. ให้ อบจ.สงขลา และนายอุทิศ ชูช่วย เคลื่อนย้ายเครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์การก่อสร้าง และแผ่นป้ายประกาศสถานที่ก่อสร้างโครงการกระเช้าลอยฟ้า ออกจากพื้นที่แหลมสนอ่อนทั้งหมด จนกว่า อบจ.สงขลา และนายอุทิศ ชูช่วย จะดำเนินการตามข้อ 1 เสร็จสิ้นถูกต้องแล้ว

3. ให้ อบจ.สงขลา และนายอุทิศ ชูช่วย ปรับปรุงสภาพที่ดินบริเวณแหลมสนอ่อนให้คงสภาพเดิมเหมือนก่อนดำเนินโครงการ ภายใน 7 วันนับตั้งแต่ศาลมีคำสั่งหรือพิพากษาคดีนี้


 
นายนวพล บุญญามณี อดีตนายก อบจ.สงขลา เปิดเผยว่า การมายื่นหนังสือถึงศาลปกครองจังหวัดสงขลาเพื่อขอให้ระงับโครงการกระเช้าลอยฟ้า ของ อบจ.สงขลา ในวันนี้ เนื่องจากโครงการดังกล่าวปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายไม่ครบถ้วน โดยนายอุทิศ ชูช่วย นายก อบจ.สงขลา คนปัจจุบัน อาศัยเพียงรายงาน “ผลการศึกษาความเป็นไปได้โครงการกระเช้าลอยฟ้า จังหวัดสงขลา” จัดทำขึ้นใน พ.ศ. 2548- 2550 สมัยที่นายนวพล บุญญามณี เป็นนายก อบจ.สงขลา มาเป็นใบเบิกทางเพื่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าจากแหลมสนอ่อน อ.เมือง จ.สงขลา ข้ามทะเลสาบไปยังหัวเขาแดง อ.สิงนคร จ.สงขลา

 
นายนวพล บุญญามณี ระบุว่า รายงานผลการศึกษาความเป็นไปได้กระเช้าลอยฟ้าฉบับดังกล่าวที่จัดทำขึ้นในสมัยที่ตนดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา นั้น เป็นเพียงการศึกษาภาพรวมของการก่อสร้าง การลงทุน ระยะเวลาคืนทุน ผลกระทบ และที่มาของงบประมาณในการก่อสร้าง เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจว่าจะดำเนินการต่อหรือไม่ และท้ายที่สุดตนได้ตัดสินใจให้ชะลอการดำเนินการโครงการกระเช้าลอยฟ้า จึงไม่ได้จัดทำประชาพิจารณ์ และรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA แต่อย่างใด

“ตนไม่ได้คัดค้านกระเช้าลอยฟ้า แต่คัดค้านกระบวนการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าว่ามันไม่ถูกต้อง ลัดขั้นตอน โดยที่ยังไม่ได้มีการทำประชาพิจารณ์ การทำ EIA รวมทั้งไม่ได้ยึดถือปฏิบัติตามกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย ไม่ใช่อ้างถึงกฎหมายเพียงฉบับเดียวแล้วจะดำเนินการก่อสร้างได้” นายนวพล กล่าว

ทั้งนี้ เนื่องจากโครงการกระเช้าลอยฟ้าดังกล่าวจะก่อสร้างในพื้นที่แหลมสนอ่อน ซึ่งเป็นพื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ 1A กำหนดห้ามมิให้มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะพื้นที่ป่าไม้เป็นรูปแบบอื่นอย่างเด็ดขาดทุกกรณี เพื่อรักษาไว้เป็นพื้นที่ต้นน้ำ โครงการดังกล่าวเป็นโครงการขนาดใหญ่ต้องทำลายป่าสนธรรมชาติจำนวนมาก นอกจากนี้ พื้นที่ฝั่งหัวเขาแดง อ.สิงหนคร ซึ่งเป็นสถานีกระเช้าลอยฟ้าอีกจุด อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติประวัติศาสตร์เมืองเก่าสงขลาด้วย ดังนั้น ก่อนการจะก่อสร้างจึงควรทำประชาพิจารณ์ และศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน และโบราณสถานด้วย


 
ด้านนายสมศักดิ์ มณีรักษ์ นิสิตคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ซึ่งร่วมกับเครือข่ายพลเมืองสงขลาเข้าร่วมยื่นหนังสือคัดค้านโครงการฯ กล่าวว่า ตนยังตอบไม่ได้ว่าโครงการกระเช้าลอยฟ้าดีหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีทั้งผลดีและผลเสีย และต้องคำนึงว่าสิ่งไหนเกิดประโยชน์แก่ประชาชนมากกว่ากัน

“ผมคิดว่าถ้ามันดำเนินการมาตามขั้นตอนก็น่าจะสร้างได้ แต่เท่าที่ทราบตอนนี้โครงการกระเช้าลอยฟ้าดังกล่าวข้ามขั้นตอน และได้ละเลยในส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพี่น้องชาวสงขลา โดยเฉพาะการทำประชาพิจารณ์ อยากให้ อบจ.สงขลา ทำทุกอย่างตามลำดับขั้นตอน และน่าจะเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย การดำเนินการก่อสร้างโดยที่ประชาชนไม่ได้แสดงความคิดเห็นถือเป็นการเอาเปรียบประชาชนจนเกินไป” นายสมศักดิ์ กล่าว

 
อย่างไรก็ตาม โครงการกระเช้าลอยฟ้าดังกล่าวเป็นประเด็นที่ยังคงคลุมเครือในแง่ของการให้ข้อมูลเชิงลึกแก่ประชาชน ไม่เพียงแต่ขาดการทำประชาพิจารณ์ หรือรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่หลายฝ่ายยังตั้งข้อสังเกตว่าเชื่อมโยงไปถึงกรณีการลอบสังหารนายพีระ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา ซึ่งเป็นตั้งตัวตัวตีในการคัดค้านโครงการกระเช้าลอยฟ้านี้ด้วย

และในวันพรุ่งนี้ (15 ธ.ค.) ภาคประชาชนและเครือข่ายพลเมืองสงขลาจะจัดเวทีเปิดข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกระเช้าลอยฟ้า ทั้งผลได้ผลเสีย ผลกระทบต้อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน รวมทั้งความไม่ชอบมาพากลของโครงการ ที่เวทีสระบัว แหลมสมิหลา อ.เมือง จ.สงขลา ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป