ปัตตานี - สมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนใต้กดดันรัฐเร่งแก้แผน รปภ.ครู หลัง ผอ.หญิงถูกยิงเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมเมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ด้านตำรวจระบุ เร่งขยายผล และสอบปากคำพยานเพิ่มเติม โดยเฉพาะการคุยโทรศัพท์ของผู้ตายก่อนเกิดเหตุ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (24 พ.ย.) นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาพันธ์ ผู้บริหารสถานศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับครู หลังจากคนร้ายใช้อาวุธสงครามกราดยิงนางนันทนา แก้วจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่ากำชำ อ.หนองจิก เสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมเมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการเสนอแนวทาง และรูปแบบการดูแลความปลอดภัยเกี่ยวกับแผนยุทธศาสตร์ที่หน่วยกำลังในพื้นที่ควรนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง และรัดกุม ถึงแม้ว่าแผนดังกล่าวอาจจะเพิ่มกำลังมากขึ้น แต่ก็ควรที่จะปฏิบัติเพราะครูถือเป็นเป้าหมายที่อ่อนแอ
นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า การประชุมวันนี้ยอมรับว่า ทางสมาพันธ์กดดันอย่างมาก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นคือความสูญเสียของผู้อำนวยการโรงเรียนที่เป็นผู้หญิง และการก่อเหตุก็โหดเหี้ยม ครั้งนี้เรามากำหนดมาตราการขั้นเด็ดขาด และเตรียมที่จะเข้าพบ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เพื่อจะสอบถามว่าสถานการณ์ปัจจุบันมันเกิดอะไรขึ้น ดีหรือไม่ดี สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมันเกิดจากอะไร ใครเป็นคนทำ ทำไมครูผู้หญิงถึงถูกกระทำอย่างโหดร้าย หรือเป็นความหละหลวมจึงส่งผลกระทบต่อครู
ทั้งนี้ เหตุที่เกิดขึ้นกระทบกับความรู้สึกของครูใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างมาก รัฐควรจะรับผิดชอบ และจะต้องเร่งดำเนินการแก้ปัญหาให้ถูกจุดว่าจะทำอย่างไรสถานการณ์ความรุนแรงจะเบาลง จนถึงขั้นสงบ ทางสมาพันธ์อาจจะมีมาตราการที่เป็นพิเศษ โดยเฉพาะความปลอดภัยของครู ซึ่งรายละเอียดจะสรุปอีกครั้ง และเชื่อว่ารัฐ หรือหน่วยกำลังควรนำไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และจริงใจต่อไป
สำหรับความคืบหน้าในการติดตามคนร้ายนั้น พ.ต.อ.อาคม บัวทอง ผกก.สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการสอบพยานบุคคลข้างเคียงในที่เกิดเหตุแล้วหลายปาก และยังจะมีการติดต่อเพื่อมาเป็นพยานเพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังขยายผลถึงการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างผู้ตายกับบุคคลอื่นก่อนที่ผู้ตายขับรถยนต์ออกจากโรงเรียนแล้วถูกลอบยิงเสียชีวิต เนื่องจากดูเหมือนคนร้ายจะรู้ความเคลื่อนไหวของผู้ตายที่ขับรถออกจากโรงเรียนก่อนโรงเรียนเลิกที่จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลความปลอดภัยเพียง 1 ชั่วโมง ขณะที่ปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 และ 9 มม. คาดว่าจะรู้ผลตรวจในเร็ววันนี้ ซึ่งจะรู้ทันทีว่าเป็นกลุ่มใด และเชื่อมโยงกับคดีใดบ้าง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าแล้วบางส่วน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่พยายามเร่งคลี่คลายคดี และหากพยานหลักฐานชัดเจนก็จะออกหมายจับทันที
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (24 พ.ย.) นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาพันธ์ ผู้บริหารสถานศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับครู หลังจากคนร้ายใช้อาวุธสงครามกราดยิงนางนันทนา แก้วจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่ากำชำ อ.หนองจิก เสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมเมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการเสนอแนวทาง และรูปแบบการดูแลความปลอดภัยเกี่ยวกับแผนยุทธศาสตร์ที่หน่วยกำลังในพื้นที่ควรนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง และรัดกุม ถึงแม้ว่าแผนดังกล่าวอาจจะเพิ่มกำลังมากขึ้น แต่ก็ควรที่จะปฏิบัติเพราะครูถือเป็นเป้าหมายที่อ่อนแอ
นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า การประชุมวันนี้ยอมรับว่า ทางสมาพันธ์กดดันอย่างมาก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นคือความสูญเสียของผู้อำนวยการโรงเรียนที่เป็นผู้หญิง และการก่อเหตุก็โหดเหี้ยม ครั้งนี้เรามากำหนดมาตราการขั้นเด็ดขาด และเตรียมที่จะเข้าพบ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เพื่อจะสอบถามว่าสถานการณ์ปัจจุบันมันเกิดอะไรขึ้น ดีหรือไม่ดี สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมันเกิดจากอะไร ใครเป็นคนทำ ทำไมครูผู้หญิงถึงถูกกระทำอย่างโหดร้าย หรือเป็นความหละหลวมจึงส่งผลกระทบต่อครู
ทั้งนี้ เหตุที่เกิดขึ้นกระทบกับความรู้สึกของครูใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างมาก รัฐควรจะรับผิดชอบ และจะต้องเร่งดำเนินการแก้ปัญหาให้ถูกจุดว่าจะทำอย่างไรสถานการณ์ความรุนแรงจะเบาลง จนถึงขั้นสงบ ทางสมาพันธ์อาจจะมีมาตราการที่เป็นพิเศษ โดยเฉพาะความปลอดภัยของครู ซึ่งรายละเอียดจะสรุปอีกครั้ง และเชื่อว่ารัฐ หรือหน่วยกำลังควรนำไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และจริงใจต่อไป
สำหรับความคืบหน้าในการติดตามคนร้ายนั้น พ.ต.อ.อาคม บัวทอง ผกก.สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการสอบพยานบุคคลข้างเคียงในที่เกิดเหตุแล้วหลายปาก และยังจะมีการติดต่อเพื่อมาเป็นพยานเพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังขยายผลถึงการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างผู้ตายกับบุคคลอื่นก่อนที่ผู้ตายขับรถยนต์ออกจากโรงเรียนแล้วถูกลอบยิงเสียชีวิต เนื่องจากดูเหมือนคนร้ายจะรู้ความเคลื่อนไหวของผู้ตายที่ขับรถออกจากโรงเรียนก่อนโรงเรียนเลิกที่จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลความปลอดภัยเพียง 1 ชั่วโมง ขณะที่ปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 และ 9 มม. คาดว่าจะรู้ผลตรวจในเร็ววันนี้ ซึ่งจะรู้ทันทีว่าเป็นกลุ่มใด และเชื่อมโยงกับคดีใดบ้าง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าแล้วบางส่วน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่พยายามเร่งคลี่คลายคดี และหากพยานหลักฐานชัดเจนก็จะออกหมายจับทันที