สตูล - สภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สปต.) มองสถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โจรใต้สร้างความแตกแยกระหว่างราษฎรกับเจ้าหน้าที่ ด้วยการข่มขู่ และก่อเหตุรุนแรง
วันที่ (22 พ.ย.) นายอาซิส เบ็ญหาวัน ประธานที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สปต.) ได้นำสมาชิกที่ปรึกษาฯ กว่า 50 คน เข้าประชุมที่ศาลากลางจังหวัดสตูล โดยในครั้งนี้ ได้หยิบยกปัญหาของเหล่าทหารในพื้นที่ชายแดนที่ได้มีการจับผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ชายแดน และได้นำเข้าไปสอบสวนภายในวัดจนทำให้เกิดวิพากษ์วิจารณ์ว่า สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนนับถือกลายเป็นที่กักขัง จนเกิดทำให้พระในพื้นที่ชายแดนเกิดความเสี่ยงมากขึ้น และเกิดความเข้าใจผิดว่าพระเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหาสังคม
นายอาซิส เบ็ญหาวัน ประธานที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สปต.) กล่าวว่า ได้พูดคุยกันแล้วในที่ประชุมโดยสรุป และเห็นพ้องกันว่า ทหารจับผู้ต้องหาเข้าไปในวัดจริงแต่ไม่ได้เข้าไปในโบสถ์ และฐานที่อยู่ของทหารอยู่ภายในวัดเท่านั้น จึงอยากให้รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร ส่วนการนำเสนอข่าวออกไปก็ขอให้ผู้สื่อข่าว หากเสนอเรื่องราวของทหารขอให้เสนออย่างละเอียดมากขึ้น เพราะคนชายแดนที่เข้าใจผิดๆ จะได้รู้ว่าทหารไม่ได้เข้าไปยึดอำนาจที่วัด
ทั้งนี้ ในที่ประชุมยังได้มีการสรุปเรื่องความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ห้วงตุลาคมที่ผ่านมาว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ด้วยการใช้อาวุธ และประกอบระเบิดแสวงเครื่องบรรจุภาชนะต่างๆ เช่น กล่องเหล็กขึ้นรูป ถังแก๊สหุงต้ม ถังน้ำยาดับเพลิง ขวดน้ำอัดลม กระป๋องนม และปลากระป๋อง โดยมีลักษณะใช้งานทั้งแบบเหยียบ และขว้าง ตลอดจนการใช้ยานพาหนะซ่อนระเบิดแสวงเครื่องอำพรางการปฏิบัติ โดยมีราษฎรผู้บริสุทธิ์ รวมถึงเด็กเล็ก ผู้นำท้องถิ่นทั้งระดับผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งครูในโรงเรียนของรัฐ และครูสอนศาสนาในพื้นที่เป็นเป้าหมายในการสังหาร โดยไม่เลือกว่าจะเป็นพี่น้องร่วมเชื้อชาติศาสนาเดียวกัน เพื่อแสดงการต่อสู้ต้านอำนาจรัฐ และปรากฏภาพความรุนแรงในพื้นที่สู่การรับรู้สาธารณะ
นอกจากนี้ ผู้ก่อการร้ายยังพยายามสร้างความแตกแยกระหว่างราษฎรกับเจ้าหน้าที่ด้วยการใช้วิธีข่มขู่ และก่อเหตุรุนแรงให้ราษฎรเกิดความหวาดกลัว เพื่อหยุดประกอบการในวันศุกร์ พร้อมกับอาศัยสภาพในพื้นที่ที่ปรากฏ ส่งผลทางสังคมจิตวิทยาต่อผู้รับข่าวสารในความเข้าใจที่ต่างกัน ขณะเดียวกัน ก็ใช้ใบปลิวข้อความให้ราษฎรในพื้นที่เข้าใจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
