นครศรีธรรมราช - รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และรอง ผบช.ภ.8 รุดเยี่ยมอาการ ผบ.เรือนจำทุ่งสง และ 2 ผู้คุมเรือนจำ ตำรวจเผยเป้าหมายสังหารอาจไม่ใช่ ผบ.เรือนจำ ตรึงกำลัง รปภ.เข้มทั้งใน และนอก รพ. หวั่นคนร้ายก่อเหตุซ้ำ ด้านรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์เตรียมเพิ่มอาวุธปืนประจำกาย และเสื้อเกราะให้แก่เจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง
เมื่อเวลา 10.00 น วันนี้ (7 พ.ย.) หลังจากที่คนร้ายได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงถล่มนายพิชิต วรรณจิตต์ อายุ 56 ปี ผบ.เรือนจำทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นายวีระศักดิ์ เรืองเกิด อายุ 53 ปี และนายภักดี สุระภักดี อายุ 53 ปี เจ้าหน้าที่เรือนจำทุ่งสง ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเลขที่ 258 ม.7 ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง โดยทั้ง 2 รายหลังเป็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ใต้บังคับบัญชาของนายพิชิต เหตุเกิดเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยขณะนี้ ทั้ง 3 รายรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
ส่วนความเคลื่อนไหวที่โรงพยาบาลทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 10 นายได้ติดอาวุธปืนยาวเข้ารักษาความปลอดภัยทั้งในตัวตึกที่ ผบ.เรือนจำ และผู้คุมทั้ง 2 รายรักษาตัวอยู่อย่างเข้มงวด โดยภายในตึกหน้าห้องรักษาตัวนั้น จะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ในเครื่องแบบติดอาวุธ รปภ.อย่างเข้มงวด เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายอาจย้อนรอยมาก่อเหตุซ้ำ
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.วิษณุ ม่วงแพรสี รอง ผบช.ภ.8 ได้เดินทางมาเยี่ยมอาการของนายพิชิต และผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าบันทึกภาพ ซึ่งได้เข้าไปสอบปากคำพูดคุยให้กำลังใจแก่ผู้บาดเจ็บ โดยหลังจากออกมาจากห้องพักของนายพิชิต พล.ต.ต.วิษณุ กล่าวเพียงว่าพอจะทราบเค้าลางเรื่องราวแล้วแต่ไม่ขอเปิดเผย
ด้านนายพิชิต วรรณจิตต์ ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอทุ่งสง ซึ่งอาการปลอดภัยแล้ว กล่าวว่า ตนเองยังมีกำลังใจดี ยืนยันยังคงทำงานแก้ปัญหายาเสพติดอย่างเต็มที่โดยไม่เกรงกลัวอิทธิพล เพื่อให้เรือนจำอำเภอทุ่งสงเป็นเรือนจำสีขาวตามนโยบายของอธิบดีกรมราชทัณฑ์
ส่วนการทำคดี พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่วิทยาการตำรวจภูธรภาค 8 เข้าทำการตรวจสอบวิถีกระสุนในที่เกิดเหตุ ซึ่งการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ผบ.เรือนจำ ไม่น่าจะใช่เป้าหมายของคนร้าย เพราะกลุ่มกระสุนส่วนใหญ่จะตรงไปที่นายภักดี หรือหมู สุระภักดี เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่เป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ โดยได้เร่งหาความชัดเจนในส่วนของหลักฐานชุดนี้
ส่วนประเด็นนั้นยังไม่แน่ชัด แต่ได้วางกรอบไว้ 2 ประเด็น คือ เรื่องของการทำงาน และเรื่องของการทำหน้าที่ในเรือนจำที่เข้มงวด แต่อย่างไรก็ตาม ผบ.เรือนจำได้ย้ายมาแค่ 1 เดือนเศษ โดยมีความเข้มงวดจริง และเพิ่งจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดได้เพียงไม่กี่ราย น้ำหนักที่กลุ่มคนร้ายหาญกล้าจะก่อเหตุนั้นน่าจะเป็นไปได้ยาก ซึ่งยังต้องสอบสวนในเชิงลึกอีกมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงเที่ยงของวันเดียวกัน นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมนายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้รับมอบหมายจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้นำกระเช้าดอกไม้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจนายพิชิต วรรณจิตต์ ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอทุ่งสง และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 2 นาย ขอให้ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ต้องเกรงกลัวอิทธิพล ตนได้ประสานกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ให้ติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้ และจะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ และชุด ชรบ. มาดูแลรอบเรือนจำอำเภอทุ่งสงเพิ่มเติม เหมือนกับการดูแลความปลอดภัยที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช
ขณะที่นายแพทย์จรัส จันทร์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุ่งสง ได้สรุปรายงานถึงอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 คน ว่าอยู่ในอาการปลอดภัยแล้ว แต่รายที่มีอาการสาหัสหากมีอาการดีขึ้นแล้วจะทำการผ่าตัดเพื่อเอาหัวกระสุนออก และผ่าตัดซ่อมแซมอวัยวะภายใน หลังจากนี้ก็จะย้ายห้องผู้ป่วยเพื่อให้ง่ายต่อการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ให้ดีมากยิ่งขึ้น
ด้านนายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบสาเหตุ หรือเป้าหมายที่แน่ชัดว่าประสงค์ชีวิต ผบ.เรือนจำ ผู้คุม หรือทั้งหมดที่นั่งอยู่ตรงนั้น มือปืนเข้ายิงในระยะใกล้กลุ่มของ ผบ.ซึ่งนั่งอยู่ 3 คน มือปืนใช้ลักษณะของการสาดกระสุนถูกทั้ง 3 คน ซึ่งทางผู้เสียหายทั้งหมดให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่
หากถามว่าเป็นเพราะเรื่องงานในเรือนจำหรือไม่ ก็เป็นไปได้ เพราะกระสุนโดนทั้ง 3 คน แต่ตัว ผบ.เพิ่งมารับตำแหน่งได้ไม่นาน เดินทางมาจากเรือนจำเบตง จ.ยะลา ซึ่งสถานการณ์ในเรือนจำทุ่งสงแห่งนี้ไม่ได้มีความรุนแรงเหมือนกับเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้ ถ้าถามว่ามีปัญหากับนักโทษหรือไม่นั้น ต้องบอกว่าคงยากมาก นักโทษกับผู้คุมเหมือนครูกับนักเรียน นอกเสียจากว่าจะไปขัดแย้งกันอย่างแรง ไปกลั่นแกล้งนักโทษ หรือไปขัดประโยชน์กันอย่างหนักแต่ยืนยันว่าไม่ถึงขั้นนั้น
และต่อข้อซักถามว่าอาจมีความขัดแย้ง หรืออาฆาตแค้นของนักโทษที่แหกการควบคุมหลบหนีไปก่อนหน้านี้หรือไม่ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ยังกล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่อย่างไรก็ตาม เราได้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น หลังจากนี้จะจัดหาอาวุธปืนประจำกาย และเสื้อเกราะเพิ่มให้แก่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง