ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าหน้าที่เร่งหาเบาะแสคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มเรือนจำพิเศษพัทยา เผยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลและหลักฐานทั้งหมด แต่ล่าสุดพบเบาะแสเป็นกลุ่มวัยรุ่นกว่า 10 คนขี่รถจักรยานยนต์ ที่ลงมือก่อเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 กราดยิงเข้าไปในเรือนจำพิเศษพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นเหตุให้มีนักโทษถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บ 1 คน เมื่อกลางดึกวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมามีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษของกรมราชทัณฑ์ ติดอาวุธครบมือ เดินตรวจตราโดยรอบเรือนจำเพื่อรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (28 ส.ค.55) นายสมชาย วิมานศักดิ์ ผบ.เรือนจำพิเศษพัทยา ได้เรียกผู้คุมของเรือนจำ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปสังเกตการณ์ ซึ่งภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น นายสมชาย ได้ออกมาเปิดเผยสั้นๆ ว่าการประชุมในครั้งนี้เพื่อวางมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งในและรอบๆ เรือนจำ ส่วนสาเหตุหรือรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มเรือนจำนั้น คงต้องรวบรวมข้อมูลและหลักฐานทั้งหมดก่อน
ต่อมาเวลา 15.30 น.ที่ห้องประชุม สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี พ.ต.อ.พิสิฏฐ โปรยรุ่งโรจน์ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วยนายสมชาย วิมานศักดิ์ ผบ.เรือนจำพิเศษพัทยา พ.ต.ท.จักรกรินทร์ ทั่วสุภาพ รอง ผกก.สส. และนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
พ.ต.อ.พิสิฏฐ เปิดเผยว่า สำหรับคดีคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มเรือนจำจนมีผู้ต้องขังได้รับบาด เจ็บในครั้งนี้ ตอนนี้ยังเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้ว่ามาจากเรื่องใดเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นจากการสืบสวนแล้วคาดว่าไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับคดีที่คนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มบ้านของนายวุฒิพันธ์ กระจุยกระจาย ผู้คุมเรือนจำพิเศษพัทยา เมื่อกลางดึกวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากข้อมูลที่สืบสวนและจากคำให้การของ ผบ.เรือนจำ นั้นพบว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน ซึ่งแม้ว่าจะเป็นอาวุธชนิดเดียวกันแต่ก็ยังหาจุดเชื่อมโยงไม่ได้
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบหัวกระสุนและวิถีของการยิงนั้นพบว่าคนร้ายเจาะ จงยิงเข้าใส่เรือนนอนของนักโทษในแดน 4 ซึ่งเป็นที่คุมขังของนักโทษเด็ดขาด 2 นัด ที่เหลืออีกกว่า 30 นัดน่าจะเป็นการยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่เท่านั้น ซึ่งจากนี้จะได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจสอบหาหัวกระสุนมาพิสูจน์ว่าเป็นชนิดเดียวและกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ยิงบ้านของเจ้าหน้าที่เรือนจำหรือไม่
พ.ต.อ.พิสิฏฐ กล่าวต่อว่า สำหรับเจตนาของคนร้ายนั้นน่าจะมีเป้าประสงค์ไปที่กลุ่มของนักโทษเป็นหลัก เพราะเจตนายิงเข้าใส่เรือนนอนจนทำให้มีผู้บาดเจ็บ ไม่ใช่มุ่งหมายยิงข่มขู่เจ้าหน้าที่ซึ่งควรจะเน้นไปจุดประจำการบริเวณโดยรอบเรือนจำมากกว่า
และจากการสืบสวนสอบสวนเจ้าหน้าที่เรือนจำและพยานต่างๆแล้วนั้น พบว่าคนร้ายเป็นกลุ่มวัยรุ่นกว่า 10 คนที่ขี่รถจักรยานยนต์มายิงจุดเกิดเหตุและใช้อาวุธปืนยิงใส่เรือนจำก่อนหลบหนีไป ซึ่งปัจจุบันก็พอจะรู้ตัวกลุ่มเป้าหมายแล้วว่าเป็นบุคคลกลุ่มใดซึ่งคาดว่ายังอยู่ในพื้นที่และละแวกใกล้เคียง ส่วนที่ว่าจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่นั้นคงต้องรอขยายผลอีกครั้งเพราะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนแต่มีแนวโน้มเชื่อมโยงไปยังกลุ่มที่ถูกดำเนินคดีเก่าๆซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ร้ายแรง คนร้ายกล้าลงมือก่อเหตุทั้งๆ ที่เป็นสถานที่ราชการ เบื้องต้นจะได้เร่งเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนให้ลงพื้นที่หาข่าวเชิงลึก เพื่อติดตามจับกุมมือปืนรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 กราดยิงเข้าไปในเรือนจำพิเศษพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นเหตุให้มีนักโทษถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บ 1 คน เมื่อกลางดึกวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมามีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษของกรมราชทัณฑ์ ติดอาวุธครบมือ เดินตรวจตราโดยรอบเรือนจำเพื่อรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (28 ส.ค.55) นายสมชาย วิมานศักดิ์ ผบ.เรือนจำพิเศษพัทยา ได้เรียกผู้คุมของเรือนจำ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปสังเกตการณ์ ซึ่งภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น นายสมชาย ได้ออกมาเปิดเผยสั้นๆ ว่าการประชุมในครั้งนี้เพื่อวางมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งในและรอบๆ เรือนจำ ส่วนสาเหตุหรือรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มเรือนจำนั้น คงต้องรวบรวมข้อมูลและหลักฐานทั้งหมดก่อน
ต่อมาเวลา 15.30 น.ที่ห้องประชุม สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี พ.ต.อ.พิสิฏฐ โปรยรุ่งโรจน์ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วยนายสมชาย วิมานศักดิ์ ผบ.เรือนจำพิเศษพัทยา พ.ต.ท.จักรกรินทร์ ทั่วสุภาพ รอง ผกก.สส. และนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
พ.ต.อ.พิสิฏฐ เปิดเผยว่า สำหรับคดีคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มเรือนจำจนมีผู้ต้องขังได้รับบาด เจ็บในครั้งนี้ ตอนนี้ยังเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้ว่ามาจากเรื่องใดเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นจากการสืบสวนแล้วคาดว่าไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับคดีที่คนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มบ้านของนายวุฒิพันธ์ กระจุยกระจาย ผู้คุมเรือนจำพิเศษพัทยา เมื่อกลางดึกวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากข้อมูลที่สืบสวนและจากคำให้การของ ผบ.เรือนจำ นั้นพบว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน ซึ่งแม้ว่าจะเป็นอาวุธชนิดเดียวกันแต่ก็ยังหาจุดเชื่อมโยงไม่ได้
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบหัวกระสุนและวิถีของการยิงนั้นพบว่าคนร้ายเจาะ จงยิงเข้าใส่เรือนนอนของนักโทษในแดน 4 ซึ่งเป็นที่คุมขังของนักโทษเด็ดขาด 2 นัด ที่เหลืออีกกว่า 30 นัดน่าจะเป็นการยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่เท่านั้น ซึ่งจากนี้จะได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจสอบหาหัวกระสุนมาพิสูจน์ว่าเป็นชนิดเดียวและกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ยิงบ้านของเจ้าหน้าที่เรือนจำหรือไม่
พ.ต.อ.พิสิฏฐ กล่าวต่อว่า สำหรับเจตนาของคนร้ายนั้นน่าจะมีเป้าประสงค์ไปที่กลุ่มของนักโทษเป็นหลัก เพราะเจตนายิงเข้าใส่เรือนนอนจนทำให้มีผู้บาดเจ็บ ไม่ใช่มุ่งหมายยิงข่มขู่เจ้าหน้าที่ซึ่งควรจะเน้นไปจุดประจำการบริเวณโดยรอบเรือนจำมากกว่า
และจากการสืบสวนสอบสวนเจ้าหน้าที่เรือนจำและพยานต่างๆแล้วนั้น พบว่าคนร้ายเป็นกลุ่มวัยรุ่นกว่า 10 คนที่ขี่รถจักรยานยนต์มายิงจุดเกิดเหตุและใช้อาวุธปืนยิงใส่เรือนจำก่อนหลบหนีไป ซึ่งปัจจุบันก็พอจะรู้ตัวกลุ่มเป้าหมายแล้วว่าเป็นบุคคลกลุ่มใดซึ่งคาดว่ายังอยู่ในพื้นที่และละแวกใกล้เคียง ส่วนที่ว่าจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่นั้นคงต้องรอขยายผลอีกครั้งเพราะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนแต่มีแนวโน้มเชื่อมโยงไปยังกลุ่มที่ถูกดำเนินคดีเก่าๆซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ร้ายแรง คนร้ายกล้าลงมือก่อเหตุทั้งๆ ที่เป็นสถานที่ราชการ เบื้องต้นจะได้เร่งเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนให้ลงพื้นที่หาข่าวเชิงลึก เพื่อติดตามจับกุมมือปืนรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป