คดียิง “ออด แซ่ผั่ว” ผู้คุมคุกนครศรีฯ ส่อเค้าเปลี่ยน พบหัวโจกในเรือนจำเป็นคนสั่งเก็บ

นครศรีธรรมราช - เตรียมส่งฟ้องผู้คุมคุกนครศรีฯ และเครือข่าย พร้อมเร่งสืบทรัพย์เครือข่ายที่เหลืออย่างต่อเนื่อง คาดหมายจับชุดต่อไปจะออกได้ภายใน 2 สัปดาห์ พร้อมแยกคุม “นช.สมชาย ช้างเชื้อ” ที่ถูกแก๊งยาซัดทอด ด้าน ผบก.เผยคดียิงผู้คุมเรือนจำส่อเค้าเปลี่ยน เผย 1 ใน 26 หัวโจกรอย้ายที่ขังเป็นผู้สั่งเก็บ

ความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับอดีตเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช พร้อมพวก ซึ่งเป็นการจับกุมตามหมายจับเป็นกลุ่มแรกจำนวน 6 ราย และยังคงหลบหนีอีก 2 รายนั้น วันนี้ (27 ส.ค.) พ.ต.ท.บุญมี ศิริปาละกะ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนเปิดเผยว่าความคืบหน้าในการสอบสวนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังคงเหลือเพียงขั้นตอนการสอบคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย โดยเป็นอดีตผู้คุม และเครือข่ายรวม 5 ราย นักโทษที่อยู่ในความควบคุม 1 ราย ส่วนการรวบรวมเอกสรหลักฐานต่างๆ นั้นรวบรวมไว้เสร็จหมดแล้ว คาดว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะสามารถส่งสำนวนฟ้องต่ออัยการได้

สำหรับการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาชุดแรกนั้น พ.ต.ท.บุญมี ระบุว่า สืบเนื่องจากการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดในเรือนจำ และเมื่อขยายผลได้มีการซัดทอด เมื่อทำการสืบสวนทางเครือข่ายบัญชี และการเงินก็พบผู้ต้องหาในชุดแรก 8 ราย ซึ่งมีความเชื่อมโยงทั้งหมด จึงทำการสืบทรัพย์ และขอหมายจับต่อเลขาธิการ ป.ป.ส. ในข้อหาสนับสนุนให้มีการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด 2521 หลังจากนั้นจึงได้มาขอหมายศาลเพิ่มในความผิดตาม พ.ร.บ.มาตรการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จึงนำไปสู่การจับกุมและยึดทรัพย์พร้อมกัน ส่วนผู้ต้องชุดที่สองนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างสืบทรัพย์ และจะดำเนินการเช่นเดียวกันคือ การจับกุม และยึดทรัพย์ไปพร้อมกันหลังจากที่กระบวนการขอหมายเสร็จสิ้นแล้ว

ขณะที่นายสุรพล แก้วภราดัย ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ในส่วนของผู้คุมที่ถูกคำสั่งย้ายก่อนหน้านี้ได้ตรวจสอบตัวเลขแล้ว พบว่า ถูกคำสั่งย้ายไปจำนวน 11 ราย ซึ่งเป็นการย้ายขาด ซึ่งไม่ใช่ 14 รายตามตัวเลขก่อนหน้านี้ และถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน 4 ราย ซึ่ง 1 ใน 4 รายนั้นได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินคดีแล้ว โดยในชุดนี้มีการยื่นหนังสือลาออกแล้ว 2 ราย ส่วนกลุ่มอื่นๆ นั้นมีการขอยื่นเออร์ลี รีไทร์จากราชการไปหลายราย แต่อาจเป็นเพราะเหตุผลส่วนตัว

“อย่างไรก็ตาม ในการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ใน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช โดยเจ้าหน้าที่สืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 และผู้ต้องหาได้ซัดทอดว่านักโทษสมชาย ช้างเชื้อ หรือเงาะ เป็นผู้สั่งการในเรือนจำ ซึ่งได้รับข้อมูลหลังจากเกิดเหตุแล้ว และได้เข้าไปตรวจสอบพบว่า มีนักโทษรายนี้ถูกจองจำอยู่จริงในคดียาเสพติด โดยเจ้าหน้าที่เรือนจำได้จู่โจมตรวจค้นตัว แต่ไม่พบความผิดปกติ หรือเครื่องมือสื่อสาร โดยขณะนี้ ได้ทำการแยกมาควบคุมเป็นพิเศษเพื่อรอการสอบสวนของเจ้าหน้าที่” ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชกล่าว

ส่วนที่บ้านพักของครอบครัวนายออด แซ่ผั่ว เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ใน ต.ไชยมนตรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ภรรยา และลูกได้นำศพของนายออดซึ่งเสียชีวิตจากถูกคนร้ายลอบยิงเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงพระกรุณาให้นายอนันต์ สาธุเสน เลขาธิการมูลนิธิมิราเคิล ออฟ ไลฟ์ เป็นผู้แทนพระองค์นำพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์มามอบให้แก่ครอบครัวของนายออด เพื่อเป็นขวัญ และกำลังใจ พร้อมกันนี้ มูลนิธิมิราเคิล ออฟ ไลฟ์ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัลยาฯ ได้ทำเรื่องยื่นขอพระราชทานเพลิงศพให้แก่นายออดเป็นกรณีพิเศษด้วย

โดยในวันนี้ ครอบครัวได้เคลื่อนศพของนายออดออกจากบ้าน ซึ่งเป็นสถานที่บำเพ็ญกุศลศพไปยังวัดโทเอก ต.อินคีรี อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายออด ท่ามกลางเพื่อนข้าราชการกรมราชทัณฑ์ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ใน จ.นครศรีธรรมราช รวมทั้งญาติมิตรมาร่วมงานด้วยความเศร้าโศก

ขณะที่ความคืบหน้าของคดีนั้น พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้เรียกประชุมนายตำรวจชุดคลี่คลายคดียิงนายออด แซ่ผั่ว ผู้คุมเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เพื่อติดตามความคืบหน้าในการคลี่คลายคดี โดยใช้เวลาประชุมลับอย่างเคร่งเครียดอยู่นานประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้น กำลังตำรวจชุดคลี่คลายคดีได้แยกย้ายกันออกไปหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อเร่งคลี่คลายคดีติดตามจับกุมตัวมือปืนมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จริงๆ แล้วความคืบหน้าของคดีนี้บอกตรงๆ ว่ามันเป็นความลับทั้งหมด ถ้าบอกไปมากก็จะเป็นรู้ว่าเราพุ่งไปทางไหน ซึ่งในขณะนี้ ถามว่าความคืบหน้าเป็นที่พอใจมั้ย ตอบตรงๆ ว่าไม่ค่อยพอใจมากนัก เพราะว่ามันยังไม่เข้าใกล้ตัวคนลั่นไก โดยเฉพาะตัวกล้องวงจรปิดมันไม่ชัดพอ ซึ่งก็ส่งให้ทางทีมงานที่เขาบอกว่าเขามีซอฟต์แวร์ทำให้ชัดละเอียดเลย ก็ยังไม่ตอบมา ตอนนี้ก็ยังโทร.เร่งตามอยู่

“ส่วนตัวมือปืน 2 รายที่ปรากฏในภาพวงจรปิดที่เราได้มาจากหลายแหล่งด้วยกัน มันชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ใช่จุดเดียว ภาพจากกล้องวงจรปิดที่เราได้มาเห็นได้ชัดว่ามือปืนประกบคนตายมาเลย ภาพหลายจุดสอดคล้องกัน จึงมั่นใจในเรื่องนี้ ที่สำคัญตอนนี้พอจะรู้รถของคนร้ายว่าเป็นรถอะไรชัดขึ้น คือ ถ้าได้รถชัดเจนมันก็จะทำให้รู้ว่าคนที่เกี่ยวข้องคือใครบ้าง เจ้าของรถจะต้องรู้ว่าใครเอารถไปใช้ลงมือฆ่าผู้คุม มีความคืบหน้าไปทุกระยะ แต่คดีนี้มีการวางแผนซึ่งข้อมูลจากการประชุมวันนี้ไม่น่าจะเกิดจากเรื่องที่ว่าวันที่ 17 ส.ค.แจ้งความ แล้ววันที่ 18 ส.ค.ลงมือยิงนายออด ผู้คุมเรือนจำเลย ไม่ใช่แบบนั้น แต่มีการวางแผนตั้งใจมาก่อนแล้ว ข่าวล่าสุดก่อนนายออดถูกยิง 6-7 วันก็มีคนพูดเตือนแล้วว่าจะมีการยิงผู้คุมรายนี้ เพราะฉะนั้น เราก็คงเจาะไปทางสายนี้เป็นหลัก”

ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ระบุด้วยว่า อีกกลุ่มเป็นกลุ่มต้องสงสัยซึ่งเดิมเป็นกลุ่มคนร้ายอยู่แล้วในคดีที่ก่อเหตุฆ่าเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดในพื้นที่ และเกี่ยวพันกับในเรือนจำ โดยกำลังติดตามตัวอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ มีหมายจับแล้ว 1 คน ซึ่งถ้าได้รายนี้มาก็จะขยายผลทันทีว่าเกี่ยวข้องกับคดีลอบยิงดังกล่าวหรือไม่เกี่ยว เพราะถ้าเจาะเฉพาะเรื่องยาเสพติดอย่างเดียวก็เสียเวลาเปล่าๆ ส่วนผู้บงการทราบว่าเป็น 1 ใน 26 นักโทษขาใหญ่ที่จะถูกย้ายออกจากเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชไปอยู่เรือนจำอื่นๆ ซึ่งมีผู้ต้องสงสัยรวมอยู่ด้วย แต่โดยหลักการนั้นต้องได้ตัวมือปืนมาก่อนถึงจะขยายผลไปถึงตัวผู้บงการได้

“ตำรวจยังไม่ได้สาเหตุการตายที่ชัดเจนว่าคืออะไร มาจากการปฏิบัติหน้าที่โดยตรง หรือเกี่ยวเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่เป็นส่วนหนึ่ง เรายังไม่ฟันธงในเรื่องสาเหตุการตาย แต่เราก็ได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ มีผู้เกี่ยวข้องได้ให้ข้อมูลเข้าเพิ่มเติมในภายหลัง ซึ่งก็มีประโยชน์มากทีเดียว เราไม่ได้ฟันธงว่าเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ทั้งหมด แต่พบว่ามันเกี่ยวเนื่องกัน แต่ไม่ใช่ว่าสาเหตุหลักมาจากการจับเขาแล้วถูกยิง มันอาจจะไม่ใช่ ซึ่งเรื่องนี้ต้องรอ เมื่อรู้ตัวผู้กระทำความผิดที่จับกุมมาได้ก็จะรู้ว่าสาเหตุอะไรกันแน่ เพราะปัญหาเรารู้แล้วว่ามีอะไรบ้าง” ผบก.ภ.นครศรีธรรมราชกล่าว