โรครากขาวระบาดหนัก สวนยางเมืองตรังเสียหายแล้วนับแสนบาท

ตรัง - เกษตรอำเภอย่านตาขาว พร้อมนักวิชาการเกษตรลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์โรครากขาวในสวนยางพารา หลังระบาดอย่างหนักจนสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจวันละนับแสนบาท เตือนชาวสวนยางรีบเร่งแก้ไขด่วน เนื่องจากโรคดังกล่าวลุกลามอย่างรวดเร็ว

นายประสิทธิ์ ทองขาว เกษตรอำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง พร้อมนายสมนึก สมเพ็ชร นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ สำนักงานเกษตรอำเภอย่านตาขาว และนางศศิธร ทับชัย นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการกลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์โรครากขาวของยางพารา ซึ่งกำลังระบาดอย่างรุนแรงในหลายพื้นที่ของจังหวัดตรัง เนื่องจากเกิดขึ้นกับต้นยางพาราทุกขนาด แม้กระทั่งที่เปิดกรีดให้ผลผลิตมานานแล้ว จนสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจถึงวันละนับแสนๆ บาท

สำหรับโรครากขาวยางพารา เกิดขึ้นมาจากเชื้อรา ซึ่งสามารถเจริญเติบโตและระบาดอย่างรวดเร็วในช่วงหน้าฝน ประกอบกับในปีนี้มีฝนตกชุก จึงทำให้อากาศมีความชื้นสูง โดยสามารถแพร่กระจายได้ 2 ทาง คือ จากการที่สัมผัสกันระหว่างรากที่เป็นโรคกับรากจากต้นปกติ ทำให้เชื้อลุกลามต่อไป และจากการที่สปอร์ของเชื้อราปลิวไปกับสายลมติดไปกับขาแมลง หรือลอยไปตามน้ำ แล้วไปตกลงบนบาดแผลของต้นยางพาราที่ปลูกใหม่ เมื่อความชื้นเพียงพอก็จะเจริญลุกลามไปยังระบบรากกลายเป็นแหล่งเชื้อโรคแห่งใหม่

นางศศิธร ทับชัย นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง กล่าวว่า อาการเริ่มต้นของโรครากขาวก็คือ ใบยางพาราจะร่วง และมีสีเหลืองผิดปกติ หากเกษตรกรไม่สังเกตให้ดีกว่าจะรู้ต้นยางพาราก็ใกล้ตายแล้ว แถมยังระบาดไปยังต้นข้างเคียง หรือแปลงใกล้เคียงจนยากต่อการควบคุม ซึ่งปกติจะเกิดโรคชนิดนี้แค่แปลงละ 1-2 ต้น แต่ปัจจุบันได้ขยายวงกว้างเป็นแปลงละ 8-10 ต้น และกระจายครอบคลุมไปทั่วทุกอำเภอของจังหวัดตรังแล้ว จึงจำเป็นที่เกษตรกรจะต้องรีบเร่งหาทางแก้ไข

ทั้งนี้ แม้ว่าสำนักงานเกษตรจังหวัดตรังจะแจ้งเตือนเกษตรกรมาหลายเดือนแล้ว แต่หลายคนคิดว่าคงไม่ระบาดรุนแรง กระทั่งเกิดการลุกลามออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งต้นยางพาราที่เป็นโรคชนิดนี้แล้วจะไม่สามารถรักษาได้ นอกจากสกัดกั้นมิให้ระบาดไปยังต้นใกล้เคียง โดยการขุดร่องป้องกันควบคู่กับการใช้สารเคมี และเชื้อจุลินทรีย์ ส่วนสวนที่จะปลูกยางพาราขึ้นมาใหม่จะต้องเผาตอเดิม หรือทำลายให้หมดสิ้น แล้วตากดินทิ้งไว้อย่างน้อย 1 เดือนก่อนปลูกต้นใหม่ เพื่อให้เชื้อราดังกล่าวหมดสิ้นไปจริงๆ มิเช่นนั้นก็จะกลับมาระบาดอีกครั้ง