ตรัง - ชาวสวนยางตรังเริ่มเกิดผลกระทบจากภาวะฝนทิ้งช่วงแล้ว ทำให้ไม่สามารถเพาะปลูกยางรุ่นใหม่ได้ และมีผลผลิตจากน้ำยางลดลง เตรียมกำลังพิจารณาขอฝนเทียมมาแก้ไขปัญหา
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรังรายงานว่า ผลพวงจากสภาวะฝนทิ้งช่วงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันมานานนับเดือนนั้น เริ่มสร้างผลกระทบกระทบให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางพาราในพื้นที่บ้างแล้ว ทั้งผู้ที่เตรียมตัวจะเพาะปลูกสวนยางพาราใหม่ในช่วงฤดูฝนของปีนี้ และผู้ที่กรีดยางพาราในแต่ละวัน เพราะน้ำยางพารามีปริมาณลดลงจากปกติ จนบางรายต้องตัดสินใจหยุดกรีดยางพาราในหลายวันมากขึ้น อันเป็นผลมาจากการที่ต้นยางพาราขาดแคลนน้ำเพื่อไปหล่อเลี้ยง และสภาพอากาศที่ค่อนข้างจะร้อนอบอ้าวมากเป็นพิเศษ
นายอาวุธ ประพันธ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) จังหวัดตรัง กล่าวว่า ขณะนี้ เกษตรกรที่จะเพาะปลูกสวนยางรุ่นใหม่ประมาณ 1 หมื่นไร่ ต้องรอคอยฝนที่ยังตอบไม่ได้ว่าจะตกลงมาเมื่อไหร่ ทั้งๆ ที่ได้ซื้อต้นกล้า และวัสดุอุปกรณ์มาเตรียมไว้แล้ว โดยเฉพาะต้นกล้าซึ่งต้องเสียเวลารดน้ำ หรือดูแลนานกว่าปกติ จึงต่างไปจากทุกปีที่ขณะนี้จะสามารถเพาะปลูกได้เสร็จสิ้นไปแล้ว เพราะต่างไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดสภาวะฝนทิ้งช่วงในหน้าฝน แต่หากฝนตกลงมาเมื่อไหร่ ก็คงจะสามารถเพาะปลูกได้ทันที
นอกจากนั้น เกษตรกรที่กำลังกรีดยางพาราอยู่ก็จะมีปริมาณน้ำยางพาราลดลงไปประมาณ 3% โดยเป็นมาจากความชื้นในอากาศ และพื้นดินที่ลดลง และปริมาณน้ำยางพาราอาจจะลดลงไปมากกว่านี้ หากสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงเกิดขึ้นต่อเนื่องกันไปยาวนาน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำลังพิจารณาเรื่องของการขอฝนเทียมมาแก้ไขปัญหา ขณะเดียวกัน พืชผลอื่นๆ อย่างเช่นปาล์มน้ำมันก็กำลังมีผลกระทบอีกเช่นกัน เนื่องจากต้องการใช้น้ำมาก และอาจส่งผลกระทบไปต่อผลผลิตในฤดูกาลหน้า
