แก๊งค้าน้ำมันเถื่อนฉุนตามประกบรถนักข่าวขณะเก็บภาพที่ด่านสตูล

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - แก๊งค้าน้ำมันเถื่อนเหิมขับวีโก้ประกบรถผู้สื่อข่าว ขณะถ่ายทำข่าวน้ำมันเถื่อนที่ด่านวังประจัน จ.สตูล ซึ่งเป็นจุดที่มีการตรวจค้น และกำลังเจ้าหน้าที่อยู่ แต่ไม่มีการปฎิบัติงานกวาดล้างตามคำสั่ง ผบช.ภ.9

จากการที่ พล.ต.ท.พิสัฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผบช.ภ.9 ได้มีคำสั่งถึงตำรวจทุก สภ.ในพื้นที่ บช.ภ.9 ดำเนินการปราบปรามการค้าน้ำมันเถื่อน ซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคง เพราะเป็นขบวนการที่เชื่อมโยง ให้การสนับสนุนขบวนการแบ่งแยกดินแดนเพื่อก่อความไม่สงบ โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.สตูล ซึ่งมีคดีที่ตำรวจ สภ.ควนโดน ทำของกลางคือ น้ำมันเถื่อนที่ดีเอสไอ และ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า หายจาก สภ.ควนโดน กว่า 30,000 ลิตรนั้น นอกจาก ผบช.ภ.9 จะสั่งให้ตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดแล้ว ยังมีการสำทับว่า หากมีเจ้าหน้าที่หน่วยอื่นเข้าไปจับน้ำมันเถื่อนรายใหญ่จะเอาผิดกับตำรวจเจ้าของท้องที่

วันนี้ (27 ต.ค.) เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบการค้าน้ำมันเถื่อนยังพื้นที่ จ.สตูล เนื่องจากได้รับการร้องเรียนว่า หลังจากที่ พล.ต.ท.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผบช.ภ.9 ได้มีคำสั่งให้ทุก สภ.ใน จ.สตูล กวาดล้างน้ำมันเถื่อน พบว่ายังมีการขนน้ำมันเถื่อนเข้ามาจากชายแดนไทย-มาเลเซีย ผ่านด่านศุลกากรวังประจัน อ.ควนโดน และชายฝั่งทะเลอันดามัน โดยที่ตำรวจในพื้นที่ไม่ได้จับกุมตามคำสั่งของ ผบช.ภ.9 แต่อย่างใด

โดยผู้สื่อข่าวพบว่า ตลอดระยะทางริมถนนยนตการกำธร ตั้งแต่เขต อ.ควนกาหลง อ.ควนโดน อ.ละงู อ.ท่าแพ และ อ.เมือง เต็มไปด้วยร้านค้าน้ำมันเถื่อน โดยมีการนำน้ำมันเถื่อนทั้งเบนซิน และดีเซลบรรจุใส่แกลลอน ตั้งแต่ 10 ลิตรจนถึง 50 ลิตรวางขายกว่า 100 ราย มีการเขียนป้ายบอกราคาชัดเจน เช่น 230 บาท ซึ่งหมายถึง ดีเซล 10 ลิตร โดยจุดขายน้ำมันเถื่อนทุกจุดอยู่ในเขตเทศบาล และห่างจาก สภ.แต่ละแห่งเพียงไม่กี่ร้อยเมตร บางแห่งห่างจากจุดตรวจของตำรวจประมาณ 10 เมตร

เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบยังพื้นที่ ต.วังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล พบว่า ด่านตรวจวังประจันมีความกว้างเพียง 5 เมตร มีเจ้าหน้าที่ศุลกากรทำหน้าที่ตรวจสอบการเข้า-ออกของรถยนต์ทุกคัน และห่างจากจุดตรวจศุลกากรเป็นที่ทำการของตำรวจ ตชด. และกลับปล่อยให้รถกระบะดัดแปลงขนน้ำมันจากประเทศมาเลเซียผ่านออกมาได้

โดยห่างจากด่านชายแดนประมาณ 3 กิโลเมตร ผู้สื่อข่าวพบศูนย์รวมน้ำมันขนาดใหญ่อยู่ริมถนน มีการขนถ่ายลำเลียงน้ำมันส่งไปให้ลูกค้า และบนถนนสายวังประจัน-ควนโดน จุดตรวจของ ชรบ.ร่วมกับฝ่ายปกครอง 2 แห่ง และมีจุดตรวจ สภ.ควนโดน 1 แห่ง และมีจุดตรวจ มว.ปล.ของทหาร อีก 1 แห่ง แต่ปรากฏว่าขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนยังสามารถผ่านจุดตรวจเหล่านั้นโดยที่ไม่มีการจับกุม

และขณะที่ผู้สื่อข่าวอยู่ระหว่างถ่ายภาพทำข่าวในพื้นที่ ต.วังประจัน ได้มีรถกระบะโยโยต้า วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ง 7450 สตูล เข้าติดตาม และตรงเข้าประกบให้หยุดรถ เพื่อทำการเจรจาว่ามาจากไหน มาทำอะไร ทำไม่จึงขับรถแบบขับไปหยุดไป เมื่อผู้สื่อข่าวบอกว่า มาถ่ายภาพทำข่าวน้ำมันเถื่อน คนในรถทั้ง 2 มีท่าทีไม่พอใจ และบอกว่าเขาหยุดหมดแล้ว เมื่อผู้สื่อข่าวขับรถออกไป รถคันดังกล่าวยังพยายามที่จะตามมาเพื่อประกบให้หยุดพูดคุยด้วย แต่เมื่อผู้สื่อข่าวไม่สนใจรถของขบวนการน้ำมันเถื่อน จึงรีบติดต่อทางโทรศัพท์ ซึ่งเชื่อว่าคงจะแจ้งให้นายทุนใหญ่ได้ทราบว่ามีผู้สื่อข่าวเข้าไปทำข่าวเรื่องการค้าน้ำมันเถื่อนในพื้นที่

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งขบวนการน้ำมันเถื่อนมีท่าทีในการคุกคามต่อผู้สื่อข่าวนั้น นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย จะได้นำเรื่องที่เกิดขึ้นแจ้งให้ พล.ต.ต.สมควร คัมภีระ ผบก.ภ.จว.สตูล ได้ทราบ เพื่อตรวจสอบว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นของใคร และคนในรถทั้ง 2 คน เป็นใครอีกครั้งหนึ่ง