ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “อัญชลี วานิช เทพบุตร” ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามสดทวงคืนงบประมาณก่อสร้างศูนย์ประชุมภูเก็ต 2,400 ล้านบาท เกิดจากรัฐบาลใจแคบไม่ขยายเวลาออกไป ทั้งที่มีอำนาจ ขณะที่ด้านรัฐบาลซัดกลับโครงการดำเนินการไม่ได้เกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดที่แล้วทำไม่สำเร็จ
วันนี้ (25 ต.ค.) นางอัญชลี วานิช เทพบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งกระทู้ถามสดในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญทั่วไป ไปยังรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงเหตุผลในการยกเลิกการก่อสร้างโครงการศูนย์ประชุมและแสดงนิทรรศการนานาชาติภูเก็ต ที่ ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
โดยนางอัญชลีได้ตั้งกระทู้ถามสด ว่า ตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้กำหนดยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของอาเซียน และภูเก็ตเป็นประตู่สู่การท่องเที่ยวโลก จึงได้ตั้งงบประมาณไทยเข้มแข็งที่ภูเก็ต จำนวน 2,600 ล้านบาท และที่เชียงใหม่อีก 2,300 ล้านบาท ในการก่อสร้างศูนย์ประชุมฯ เพื่อส่งเสริมตลาดกลุ่มประชุมสัมมนา ซึ่งสมัยนั้น มีปะชาชนบอกให้โยกงบประมาณการก่อสร้างศูนย์ประชุมฯ ที่เชียงใหม่ แต่รัฐบาลนายกอภิสิทธิ์ ไม่ทำเช่นนั้น เพราะมองว่าคนเชียงใหม่ก็มีความหวังในการสร้างรายได้เพิ่มจากการท่องเที่ยวเช่นกันหากมีศูนย์ประชุมฯ จนถึงขณะนี้ศูนย์ประชุมฯ ดังกล่าวก็ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ
โครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมฯ ที่ภูเก็ต ไม่ได้รบกวนงบประมาณจากรัฐบาลชุดนี้เลย ได้มีการตั้งงบไว้แล้ว 2,600 ล้านบาทในรัฐบาลชุดที่แล้ว และมีเป้าหมายจะก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปี 2558 รวมทั้งได้มีการเห็นชอบงบประมาณของการท่าฯ อีก 5,700 ล้านบาท เพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558
จังหวัดภูเก็ตสามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวปีละ 180,000 ล้านบาท รองจากกรุงเทพฯ ที่ทำรายได้จากการท่องเที่ยว 400,000 ล้านบาท คนอันดามันตั้งความหวังกับโครงการศูนย์ประชุมฯ มากว่าจะสร้างรายได้การท่องเที่ยวได้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่คุ้มค่ากับเม็ดเงินลงทุน
“การที่ ครม.ยกเลิกโครงการศูนย์ประชุมฯ คนภูเก็ต และอันดามันถือว่าถูกปล้นโครงการไปซึ่งหน้า เลยฝากให้ดิฉันมาทวงถามว่าเพราะอะไรรัฐบาลชุดนี้จึงได้ยกเลิกโครงการฯ คนอันดามันอยากจะทราบถึงเหตุผล” นางอัญชลี กล่าวและว่า
เมื่อยังไม่สามารถที่จะลงนามการก่อสร้างโครงการได้ตามกำหนดการเดิม รัฐบาลชุดนี้ก็สามารถขยายเวลาออกไปได้อีก เพียงแต่ ครม.ชุดนี้ไม่ยอมขยายเวลาออกไป มีหลายๆ โครงการที่มีปัญหาเหมือนศูนย์ประชุมฯ ที่ภูเก็ต ที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามกรอบเวลาที่วางไว้ และรัฐบาลชุดนี้ก็เลือกที่จะขยายเวลาออกไป เป็นเพราะความใจแคบของ ครม.ชุดนี้ ที่ยกเลิกโครงการศูนย์ประชุมฯ ที่ภูเก็ต สร้างความผิดหวังให้แก่ประชาชน ผู้ประกอบการในภูเก็ต และอันดามันเป็นอย่างยิ่ง จึงอยากจะเสนอให้นายกรัฐมนตรีทบทวนเรื่องนี้ใหม่อีกครั้ง เมื่อผลการศึกษา EIA แล้วเสร็จ และขอทวงคืนงบประมาณ 2,400 ล้านบาทกลับคืนมา ซึ่งคนในอันดามันจะติดตามทวงคืนโครงการนี้ต่อไป
ด้านนายวรวัจน์ เอื้ออภิญากุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบกระทู้ถามสดของนางอัญชลี ว่า พยายามที่จะบอกว่ารัฐบาลชุดนี้ยกเลิกโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมฯ ที่ภูเก็ต ซึ่งโครงการนี้ได้มีมติ ครม.เมื่อเดือนตุลาคม 2552 ให้กรมธนารักษ์กู้เงินไทยเข้มแข็ง 2,600 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างในที่ราชพัสดุ เนื้อที่ 150 ไร่ ที่บ้านท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
และมติ ครม.เมื่อวันที่ 28 ก.ย.2553 มีมติให้ขยายการลงนามการก่อสร้างโครงการออกไปจนถึง 31 ก.ค.2555 เนื่องจากติดปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม ที่ทางสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อมยังไม่เห็นชอบรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ เพราะเห็นว่าพื้นที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากเป็นที่วางไข่ของเต่าทะเล และเป็นป่าชายหาดที่สมบูรณ์ผืนสุดท้ายของภูเก็ตควรที่จะเก็บรักษาไว้ และลักษณะทางสัณฐานธรณีไม่เหมาะในการทำกิจกรรมสันทนาการ
นายวรวัจน์ ชี้แจงต่อไปว่า การที่โครงการศูนย์ประชุมฯ ที่ภูเก็ตไม่สามารถลงนามก่อสร้างได้จนรัฐบาลชุดนี้ต้องยกเลิกโครงการไปนั้น เกิดขึ้นในยุครัฐบาลที่ผ่านมาทั้งสิ้น ที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จในเรื่องของรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม จึงทำให้ไม่สามารถที่จะเดินหน้าโครงการต่อไปได้ ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้อยู่แล้ว โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ตจะต้องดูแลทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจ และความเจริญเติบโตในทุกๆ ด้าน อย่างเท่าเทียมกัน
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การกล่าวว่าโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมฯ ที่ภูเก็ตไม่สามารถก่อสร้างได้ เพราะรัฐบาลชุดที่แล้วทำไม่สำเร็จ และถือเป็นความล้มเหลวของรัฐบาลชุดที่แล้วนั้นไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ทุกโครงการมีขั้นตอนในการดำเนินการ และมีหลายโครงการที่มีปัญหาอุปสรรคไม่สามารถดำเนินการให้ไปตามกรอบเวลาที่กำหนดได้ แต่ก็สามารถขยายระยะเวลาออกไปได้ แต่โครงการศูนย์ประชุมฯ ที่ภูเก็ตรัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศมาปีกว่าไม่ได้จัดการอะไรเลย และรัฐบาลก็มีอำนาจในการขยายเวลาออกไป แต่รัฐบาลเลือกที่จะไม่ดำเนินการอะไร