xs
xsm
sm
md
lg

สื่อใต้ชนผู้การฯ นราฯ ตร.คุกคามสื่อหลังคุมตัวช่างภาพ TPBS สอบ-ลบการ์ดขณะบันทึกรายการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นราธิวาส - คณะสื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าพบผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส กรณีตำรวจคุมตัวช่างภาพ TPBS ประจำศูนย์ใต้สอบ และลบเมมโมรีการ์ดภาพทั้งหมด หลังจากช่างภาพคนดังกล่าวบันทึกภาพในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส เพื่อผลิตรายการดีสลาตัน กลับถูก ตร.สอบถามด้วยวาจาไม่สุภาพ และซักทำประวัติ นายกสมาคม นสพ.ภาคใต้ โต้เป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพ เข้าข่ายคุกคามสื่อ

วันนี้ (9 ต.ค.) ที่ห้องประชุมปาหนัน ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส นายประยุทธ สิวายวิโรจน์ หัวหน้าศูนย์ข่าวภาคใต้ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และคณะตัวแทนสื่อมวลชนทุกแขนงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กว่า 25 ชีวิต ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.วิชัย เกษมวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เพื่อรับทราบข้อกล่าวหารายละเอียดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนรา ที่ควบคุมตัว นายซุลกิฟลี ซาแล ช่างภาพ และเจ้าหน้าที่ตัดต่อรายการดีสลาตัน TPBS ประจำศูนย์ข่าวภาคใต้ กรณีช่างภาพได้ทำบันทึกภาพในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส เพื่อทำสารคดี เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ไม่หวังดีข่มขู่ผู้ประกอบการให้หยุดกิจการในวันศุกร์ ที่ 5 ตุลาคม 55 ที่ผ่านมา

โดยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองนราธิวาส ที่อยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ผ่านมา เข้าสอบถาม และมีการตอบโต้ด้วยวาจาที่ไม่เข้าใจกันไปมา ซึ่งทางนายซุลกีฟลี ช่างภาพ TPBS ได้ตอบว่า บันทึกภาพมาเพื่อทำสารคดี แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ และขอดูบัตรผู้สื่อข่าว ทางช่างภาพจึงได้แสดงบัตรเพื่อให้ตรวจสอบ แต่ไม่ได้เกิดความชัดเจน จึงควบคุมตัวช่างภาพคนดังกล่าวมาที่ สภ.เมืองนราธิวาส เพื่อซัก และทำประวัติ

ทางด้าน นายซุลกีฟลี ช่างภาพ TPBS กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด หลังถูกเจ้าหน้าที่นำตัวมาสอบที่ สภ.เมืองนราธิวาส ตนเครียดมาก โดยเฉพาะการใช้วาจาของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งคำถาม เช่น ถ่ายให้แก่กลุ่มขบวนการพูโลหรือเปล่า เคยทำสารคดีส่งลงเว็บไซต์พูโลหรือไม่ ทำให้ตนมองว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวมีอคติ ขนาดกับสื่อมวลชนใช้วาจาที่ขาดสติ แล้วจะแก้ปัญหาความไม่สงบได้อย่างไร มีแต่สร้างเงื่อนไข อีกทั้งยังลิดรอนสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำเมมโมรีการ์ดที่บันทึกภาพลบภาพจนหมดสิ้น ไม่เว้นแม้แต่ภาพข่าวอื่นๆ สร้างความเสียหาย ตนจึงอยากถาม พล.ต.ต.วิชัย เกษมวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาสว่า ประเทศเราใช้ระบอบคอมมิวนิสต์ หรือ ปกครองระบอบประชาธิปไตย จึงขอความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว

ต่อมา ทาง ผบภ.จ.นราธิวาส ได้เรียกตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 4 นาย ที่เกี่ยวข้องกับวันเกิดเหตุเพื่อชี้แจ้ง และทำความเข้าใจร่วมกัน โดยทางตำรวจทั้ง 4 สังกัด สภ.เมืองนราธิวาส ได้กล่าวคำขอโทษ และพร้อมยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า กรณีเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว นายซุลกิฟลี ไปทำประวัติ และลบภาพที่ถ่ายทำไปเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ จึงได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ได้ลบการทำประวัติ นายซุลกิฟลี ออกจากสารบบของตำรวจจังหวัดนราธิวาส และสั่งให้ทำการอบรมจริยธรรมตำรวจในทุกสัปดาห์ในกรณีที่ตำรวจพูดจาไม่เหมาะสม

นอกจากนี้ ทั้งตำรวจจังหวัดนราธิวาส และเครือข่ายสื่อจะได้มีข้อตกลงร่วมกันว่าจะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันของทั้งสองฝ่าย เพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มากที่สุด จนบรรยากาศเป็นที่พอใจทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนแยกย้ายกลับ

ทางด้าน นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้ และสมาชิกที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนา จ.ชายแดนภาคใต้ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวแล้ว และเห็นว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่เป็นการละเมิด และลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน และลิดรอนสิทธิสื่อมวลชน และยังเข้าข่ายคุกคามสื่อมวลชน ซึ่งถือว่าเจ้าหน้าที่ไม่ใช่มาแก้ปัญหา แต่เป็นตัวสร้างปัญหา และสร้างเงื่อนไข ขนาดสื่อมวลชนยังไม่เหลือ ประชาชนตาดำๆ จะไหวหรือ ซึ่งตนในฐานะนายกสมาคมฯ จะดำเนินการในลำดับต่อไป เพื่อให้ทุกฝ่ายเกิดความเป็นธรรม ความสันติสุขในพื้นที่ต้องร่วมสร้าง ทำอยู่คนเดียวหน่วยเดียวได้ที่ไหน สถานการณ์พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่พิสูจน์มาแล้ว ทุกคนต้องช่วยกันเพื่อความสงบสุข ไม่ใช้มาสร้างเงื่อนไข ปัญหาจะยิ่งบานปลาย

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น