“ทวี” ร่วมรดน้ำศพครูนราฯ พี่สาว น้องสาวน้ำตานองหน้า

นราธิวาส - เลขาธิการ ศอ.บต. ร่วมรดน้ำศพครูโรงเรียนบ้านบองอ พี่สาว น้องสาวน้ำตานองหน้า ฝากบอกพี่น้องดูแลแม่อัมพฤกษ์ก่อนตาย ขณะที่ จนท.พบพวก นายยาการียา และนายอุสนี ประกบยิงครูคมสันติ์

เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (2 ต.ค.) ที่ศาลาอเนกประสงค์วัดบางนรา อ.เมือง จ.นราธิวาส พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. นายบุญสม ศรีทองพราย ปธ.สมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมเป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ นายคมสันติ์ โฉมยงค์ อายุ 40 ปี ครู คศ.1 โรงเรียนบ้านบองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ที่ถูกคนร้ายตามประกบยิงเสียชีวิต ขณะขี่รถจักรยานยนต์เดินทางกลับบ้านพัก เหตุเกิดบนถนนสายจะแนะ-บองอ ม.4 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 16.00 น.ของวันที่ 1 ต.ค.55 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหลบหนีคนร้ายได้หยิบอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 11 มม.หลบหนีไปด้วย 1 กระบอก

ซึ่งการนี้ได้มี น.ส.ถนอมสิน โฉมยงค์ อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นพี่สาว และนางกัณฑา วีรเสนีย์ ซึ่งเป็นน้องสาวได้เดินทางมาร่วมงาน ท่ามกลางคณะครู และข้าราชการตำรวจ ทหาร จำนวนกว่า 500 คน ได้เดินทางมาร่วมงาน และไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย โดยทางนายอำนาจ วิชยานุวัติ์ ผอ.สำนักงานพัฒนาการศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เป็นตัวแทนมอบเงินช่วยเหลือ จำนวนทั้งสิ้นกว่า 2 ล้านบาท ให้แก่ น.ส.ถนอมสิน พี่สาว และนางกัณฑา น้องสาว เพื่อเป็นการช่วยเหลือครอบครัวในเบื้องต้น

ซึ่งในวันนี้ ทางนายนิพัฒน์ มณี ผอ.สำนักงานเขตพื้นการศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 3 จะเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพนายคมสันติ์ ที่วัดบางนรา ก่อนที่ในวันพรุ่งนี้ ทางเครือญาติจะเคลื่อนย้ายศพนายคมสันติ์ ไปประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมศพที่วัดหลวง ม.3 ต.วังเย็น อ.บางแพ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นภูมิลำเนาเกิด และมีกำหนดการพระราชทานเพลิงศพนายคมสันติ์ ขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 7 ต.ค.55 ที่จะถึงนี้

น.ส.ถนอมสิน โฉมยงค์ อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวนายคมสันติ์ ผู้เสียชีวิต เปิดเผยด้วยน้ำตานองหน้าว่า น้องชายเป็นคนตั้งใจทำงาน เพื่อรับใช้ชาติอย่างแท้จริง ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยสมัครเป็น ตชด.รับใช้ประเทศชาติได้ 3 ปี แต่เกิดมีปัญหาด้านสุขภาพ จึงได้ขยับขยายด้วยการศึกษาต่อด้านวิชาชีพครู เมื่อจบออกมาได้บรรจุเป็นครูโรงเรียนบ้านลูโบ๊ะดีแย อ.ระแงะ แล้วศึกษาต่อจนจบปริญญาโท น้องชายได้ย้ายไปเป็นครูที่โรงเรียนบ้านบองอ และได้ฝากตนให้ดูแลแม่ เมื่อมีเวลาว่างจะเดินทางไปเยี่ยม ซึ่งน้องชายรู้ว่าได้ไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่สีแดง ซึ่งเสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิต จึงได้ตัดสินใจไม่มีครอบครัวเพื่อที่จะได้ทำงานอย่างเต็มที่

และตั้งใจไว้ว่าจะอยู่ที่ อ.ระแงะจะสอนเด็กที่นี่ให้เป็นคนดีให้ได้ เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดินที่เกิดมาเป็นคนไทยในชาตินี้ ซึ่งตนได้โทรศัพท์พูดคุยกับน้องชายเป็นประจำให้ระวังตัว แต่น้องชายบอกว่าเป็นครูไม่น่าห่วง เพราะเราตั้งใจสอนลูกหลานเขาให้เป็นคนดี เขาคงจะไม่ทำอะไรเราหรอก จนกระทั่งมาทราบข่าวอีกครั้งว่า น้องชายเสียชีวิตแล้ว ซึ่งครอบครัวเราทุกคนภูมิใจที่น้องชายเป็นคนเสียสละอย่างแท้จริง และเป็นคนมีความตั้งใจสูง ตายเพื่อหน้าที่เป็นสิ่งภูมิใจของวงศ์ตระกูล จากนี้จะไม่ขออะไรอีก เพราะน้องชายตายแล้ว จะดูแลแม่ที่เป็นอัมพฤกษ์ตามที่น้องชายฝากไว้ให้ดีที่สุด

ส่วนความคืบหน้าทางคดีนั้น ล่าสุด พ.ต.อ.วรา เวชชาภินันท์ ผกก.สภ.ระแงะ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เรียกพยานบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ทยอยให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่แล้วอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพื้นที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่การเคลื่อนไหวก่อเหตุร้ายของสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ RKK กลุ่มนายยาการียา อาแวจือจิ และนายอุสนี บาโด 2 แนวร่วมที่มีหมาย ป.วิอาญา และหมาย พ.ร.ก.ที่ต้องการตัว ซึ่งบุคคลทั้ง 2 มีคดีก่อเหตุลอบดักสังหาร และวางระเบิดเจ้าหน้าที่กองกำลังในพื้นที่บ้านบองอ ม.4 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส มาแล้วหลายครั้ง