xs
xsm
sm
md
lg

“เอ็กซ์” กระสุนนัดสุดท้าย คว้าเหรียญอำลา อลป.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอ็กซ์ จักรกฤษณ์
ASTVผู้จัดการรายวัน- “ลอนดอน เกมส์ 2012” ที่กำลังจะเปิดฉากขึ้นวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ สมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย กลับไม่ได้ถูกพูดถึงมากนักในเรื่องของความหวังคว้าเหรียญให้ทัพนักกีฬาไทยทั้งที่ก็มีนักแม่นปืนฝีมือดีอย่าง จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม ที่ถือว่าประสบการณ์โชกโชนผ่านเวทีนี้มาแล้วถึง 3 สมัย เจ้าตัวตั้งความหวังจะต้องไม่กลับบ้านมือเปล่าเพื่อเติมเต็มชีวิตและปิดฉาก 22 ปีกับมหกรรมกีฬา “ห้าห่วง” พร้อมลดระดับแข่งขันลงมา แต่ยังจะขออยู่ในวงการเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับรุ่นน้องต่อไป

ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาถือว่า “เอ็กซ์” จักรกฤษณ์ ชนะยกแรกจากการยืนหยัดต่อสู้ด้วยตัวเองถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ตัวแทนนักกีฬาไปแข่งขันระดับชาติ และสามารถพิสูจน์ตัวเองได้สำเร็จกับการคว้าโควตา โอลิมปิก หนนี้จากการคัดเลือกผ่านรายการ “เอเชียน แชมเปียนชิป 2012” ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ทว่า ก็ยังมีปัญหารุมเร้าเพราะไม่ได้รับการสนับสนุนจากสมาคม โดยต้องควักทุนส่วนตัวทุกบาททุกสตางค์สะสมกระสุนเยี่ยงน้ำมันเปลี่ยนเป็นทุกนัดที่ใช้ในการซ้อมและวางแผนด้วยตนเองโดยปราศจากโค้ช

โดย จักรกฤษณ์ เท้าความถึงเมื่อ 4 ปีก่อนที่ ปักกิ่ง ซึ่งถือว่าใกล้เคียงที่สุดกับการคว้าเหรียญ โอลิมปิก แรกเพราะทะลุเข้าสู่รอบไฟนัล 8 คนสุดท้าย รวมถึงความพร้อมก่อนไป ลอนดอน ครั้งนี้ “หนที่แล้วผมใกล้เคียงกับการคว้าเหรียญมากที่สุด ซึ่งรู้ตัวเองดีว่าเกิดจากการควบคุมตัวเองไม่ได้ผิดพลาดแค่นัดเดียวเสี้ยววินาทีก็วืดแล้ว แต่ก็มีความสุขที่ได้กลับมาอีกครั้ง ซึ่งผมก็เสี่ยงเอาชีวิตแขวนบนเส้นด้าย แม้ไม่ได้ไปกับทีมแต่ก็ซ้อมเต็มที่ๆ ประเทศไทยตรงกับเวลาที่อังกฤษบ่าย 3 เกือบถึง 6 โมงเย็น ก่อนนี้ก็ให้ วัชระ สอนดี นักกีฬาวิ่งเป็นฟิตเน็ตเทรนเนอร์เพราะเขาเป็นอาจารย์ที่ประสานมิตรจบปริญญาโทด้านนี้โดยเฉพาะทำให้กล้ามเนื้อผมฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง”

แน่นอนว่า หลายคนห่วงเรื่องสภาพอากาศหนาวที่อาจจะสร้างปัญหาในวันแข่งขันเจ้าของเหรียญเงิน ซีเกมส์ ครั้งล่าสุดที่ อินโดนีเซีย เผยว่า “ก่อนหน้านี้ ผมไปยิงที่ ลอนดอน มาต้องเอาถุงเท้าฉีก และห่อมือเพื่อป้องกันความหนาวมือชาไม่มีความรู้สึกทุกคนทำแบบนั้นหมด ส่วนผมก็เอาม่านห่อและใช้เข็มกลัดติดก็ประยุกต์ใช้ผ้าสำลีสีเหลือง และใช้ปลายแขนเสื้อวอร์มหนาๆ ยางยืดเย็บทับลงไปปืนทรงจะแปลกๆ หน่อยต้องเอามืดมุดเข้าไปมองไม่เห็นตัวปืนโผล่มาแค่ช่องใส่ลูกกระสุนเพื่อนๆ ก็ทำกัน รัสเซีย ก็ใช้หมวกไหมพรมเพราะผ้าหนากว่า แต่ก็ต้องแลกมาเพราะปืนจะหนักขึ้น แต่ถ้าครั้งนี้อากาศดีขึ้นก็ดีใจและหวังว่าจะเป็นใจในวันแข่งจริง”

หลังกลับจาก อังกฤษ “เอ็กซ์” ได้เดินทางไปแข่งศึก เวิลด์ แชมเปียนชิป ที่ มิวนิก เหมือนว่าเจ้าตัวกลับมาคืนฟอร์มเก่งอีกครั้งเมื่อเข้าถึงรอบไฟนัลและเบียดกับเจ้าของเหรียญทอง ปักกิ่ง เกมส์ รวมถึงมือดีจาก รัสเซีย และ เซอร์เบีย จนขึ้นนำช่วง 5 นัดแรก แต่เกิดความผิดพลาดตั้งแต่นัดที่ 6 จนวืดคว้ารางวัล เจ้าตัวก็ได้บทเรียนจากความกดดันที่เป็นเหมือนดาบสองคม “ผ่านครึ่งทางนัดที่ 6 ผมยิงหลุดไปไม่เกินฝ่ามือนัดเดียวเหมือนเปลี่ยนชีวิต เพราะเหรียญทองจากที่ 8 เขาก็ไม่ทิ้งลายกระโดดพรวดมาเป็นที่ 1 จากการยิงนัดสุดท้าย ถือเป็นเกมที่สุดยอดมาก แต่ก็ทำให้ผมกลับมามีการบ้านคือต้องมีสมาธิไม่วอกแวกแม้นัดเดียว พอกดดันและขาดความเป็นธรรมชาติก็เหมือนดาบสองคม เราต้องเดินเกมเหมือนเดิมตั้งแต่นัดแรกจนถึงนัดสุดท้าย เจ็บใจมากทิ้งเงินไปล้านหนึ่งแต่ต้องทำใจให้ได้นักกีฬาพยายามอยู่ 20 วันไม่ยิงปืนเลยจนทำใจได้และเริ่มใหม่”

นักแม่นปืนวัยย่าง 40 ปี กล่าวทิ้งท้ายถึงแผนที่วางเอาไว้หลังแข่ง โอลิมปิก ว่า “วางแผนไว้ว่าถ้าได้เหรียญผมจะหยุดยิงเลิกจากแมตช์สำคัญๆ ที่ว่ากดดันมากๆ อยากจะทำงานให้มากขึ้นดูแลครอบครัวและธุรกิจตัวเองให้ ส่วนแมตช์ที่อยากยิงจริงๆ เช่น ซีเกมส์ เอเชียน เกมส์ เรามองว่าถ้ายังพอจะยิงได้ก็แล้วแต่อารมณ์ก็จะยิงเป็นงานอดิเรกแล้ว ถ้าไม่ได้เหรียญก็สู้ต่ออีก 4 ปีผมต้องไม่ใช่นักกีฬาที่ขี้ขลาดที่บอกว่าเก่งได้เหรียญแล้วเลิกตอนรุ่งยิ่งใหญ่นั้นขี้ขลาดถือเป็นข้ออ้าง ผมต้องเล่นต่อแต่จะลดความจริงจังดีกรีลงมา ยิงกีฬาแห่งชาติระดับสโมสรในประเทศปรับฐานให้สูงขึ้นไปกระตุ้นเยาวชนให้มายิงปืนต้องชนะ จักรกฤษณ์ พอไม่มีผมก็ไม่สนุกให้ทุกคนอยากชนะคนๆ นี้ยอมให้เป็นบันได ผมรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างให้คนไทยในกีฬายิงปืน”

สำหรับ จักรกฤษณ์ จะออกเดินทางวันที่ 23 กรกฎาคมนี้เพื่อมุ่งหน้าสู่กรุงลอนดอน โดยจะลงแข่งขันทั้งหมด 3 ประเภทเริ่มวันแรกคือ 28 ก.ค.ก่อนจะไปสิ้นสุดวันที่ 5 สิงหาคม พร้อมเดินทางกลับทันที ส่วนทัพนักกีฬายิงปืนไทย โอลิมปิก ครั้งนี้ยังมีให้ลุ้นอีก 2 คนคือ ธันยพร พฤกษากร และ ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์
เยี่ยมสำนักข่าว ASTV ก่อนออกเดินทาง
ยืนหยัดต่อสู้รับใช้ทีมชาติเสมอมา
เมื่อ “ปู” เริ่มหลงคำป้อยอแข็งขืนปรับ ครม.!!
เมื่อ “ปู” เริ่มหลงคำป้อยอแข็งขืนปรับ ครม.!!
สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า “อาการหลง” ที่เพิ่งเกิดขึ้นในระยะหลัง ซึ่งเกิดจาก “คำป้อยอ”ของพวกคนใกล้ชิดที่เข้ามาเกาะเกี่ยวหาประโยชน์ ทำให้ ยิ่งลักษณ์มีอาการเคลิบเคลิ้ม จนมีความมั่นใจว่าตัวเองก็มีความสามารถ บริหารจัดการได้ จนสังเกตได้ว่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ไม่ว่าการพูด การจา การออกท่าทาง ล้วนมีความมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าดูแล้วล้วนเป็นการจัดฉาก สร้างภาพ แต่นั่นก็ทำให้มีความมั่นใจ และหลงเชื่อไปว่าเป็นผู้นำได้ ขณะเดียวกันเริ่มมีรายงานเข้ามาว่า “เป็นตัวของตัวเอง”มากขึ้น ทำให้เชื่อว่าในการปรับคณะรัฐมนตรีคราวนี้จะต้องมีการต่อรองนำโควตารัฐมนตรีส่วนตัว โดยอ้างว่าเพื่อให้การทำงานขับเคลื่อนนโยบายสอดคล้องกันได้สะดวก
กำลังโหลดความคิดเห็น