xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อ “ปู” เริ่มหลงคำป้อยอแข็งขืนปรับ ครม.!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

แน่นอนว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้า จะต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรีแน่นอน ส่วนจะเป็นเดือนหน้า สองเดือนข้างหน้าหรือไม่ต้องติดตามกันอย่างไม่กระพริบ สาเหตุที่ต้องปรับคณะรัฐมนตรีกันอีกรอบ เป็นรัฐมนตรีชุดที่ 3 เรียกว่า “ปู3” นั้นนอกเหนือจากครบกำหนดเวลาที่พวก “ขาใหญ่” ตัวจริงของพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ในยุคพรรคไทยรักไทยออกมาจากคุกการเมือง สามารถกลับเข้ามาแสดงบทบาททางการเมืองได้เต็มตัวอีกครั้ง ก็ต้องทวงเก้าอี้จากพวก “ตัวสำรอง” หรือตัวแทนที่นั่งเก้าอี้กันหน้าสลอนอยู่ในเวลานี้

ขณะเดียวกัน มันก็ไปตามกำหนดล่วงหน้า ที่ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรสั่งการให้รัฐมนตรีแต่ละคนส่งการบ้านสรุปผลงานของรัฐมนตรีแต่ละคนเพื่อนำมาประเมินสำหรับใช้ในการปรับคณะรัฐมนตรีคราวต่อไป เมื่อครบเวลา 10 เดือนถึง 1 ปี ดังนั้นสรุปก็คือจะต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรีแน่นอน ซึ่งก็เป็นไปตามธรรมเนียมของ “ระบอบทักษิณ” ที่จะต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรีทุก 3 เดือน 6 เดือน ทางหนึ่งเพื่อเป็นการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันภายในพรรค เป็นการลดแรงกดดันภายใน และบางครั้งยังเป็นการประมูลเรื่อง “ตัวเลข” สำหรับการนั่งเก้าอี้สำคัญได้อีกด้วย รวมทั้งมีเงื่อนไขในเรื่องการดูแลค่าใช้จ่ายภายในพรรคอีกด้วย

การปรับคณะรัฐมนตรีที่จะเกิดขึ้นคราวนี้ก็เช่นเดียวกัน หากพิจารณาตามความเป็นจริงมันก็ย่อมมีโควตาตามสัดส่วนและความสำคัญ นั่นแยกเป็นสาย “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร ที่ต้องล็อกเก้าอี้รัฐมนตรีเกรดเอ และสำคัญเอาไว้ แต่คราวนี้เชื่อว่าจะต้องประสานกันใกล้ชิดกับบรรดาพวกบ้านเลขที่ 111 พร้อมกันไปด้วย โควตาของพวก “เจ๊ๆ” ในครอบครัว

อย่างไรก็ดีคราวนี้มีพิเศษเพิ่มเข้ามานั่นคือ จะมีโควตาของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาแบ่งปันในฐานะโควตาของนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งถือว่าผิดไปจากการปรับคณะรัฐมนตรีทุกครั้ง

สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า “อาการหลง” ที่เพิ่งเกิดขึ้นในระยะหลัง ซึ่งเกิดจาก “คำป้อยอ”ของพวกคนใกล้ชิดที่เข้ามาเกาะเกี่ยวหาประโยชน์ ทำให้ ยิ่งลักษณ์มีอาการเคลิบเคลิ้ม จนมีความมั่นใจว่าตัวเองก็มีความสามารถ บริหารจัดการได้ จนสังเกตได้ว่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ไม่ว่าการพูด การจา การออกท่าทาง ล้วนมีความมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าดูแล้วล้วนเป็นการจัดฉาก สร้างภาพ แต่นั่นก็ทำให้มีความมั่นใจ และหลงเชื่อไปว่าเป็นผู้นำได้ ขณะเดียวกันเริ่มมีรายงานเข้ามาว่า “เป็นตัวของตัวเอง”มากขึ้น ทำให้เชื่อว่าในการปรับคณะรัฐมนตรีคราวนี้จะต้องมีการต่อรองนำโควตารัฐมนตรีส่วนตัว โดยอ้างว่าเพื่อให้การทำงานขับเคลื่อนนโยบายสอดคล้องกันได้สะดวก

อย่างไรก็ดีอาการดังกล่าวไม่ใช่เรื่องแปลกที่ใครก็ตามเมื่อเข้าสู่อำนาจก็ต้อง “เสพติด” ไปทุกราย อย่าว่าแต่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเลย แค่ระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการ มีคนติดตาม มีรถนำขบวนติดไฟแว็บๆมันก็ทำให้นั่งคอแข็งหลงตัวเองได้ไม่ยาก แต่นี่เป็นถึงระดับผู้นำ แม้ว่าจะถูกมองว่าเป็นแค่ “หุ่นเชิด” ก็ตามที แต่เมื่อไปไหนมีแต่คนพินิบพิเทา ทหาร ตำรวจ ตั้งแถวทำความเคารพ มีแต่คนต้อนรับ ไม่มีใครขัดคอต่อหน้า มันก็ต้อง “ติดใจ” ทั้งนั้นแหละ และมันก็ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อีกด้วย

สำหรับคนอื่นอาการมั่นใจในตัวเอง น่าจะเป็นผลดีต่อการบริหารราชการแผ่นดิน แต่หากเกิดขึ้นกับ ยิ่งลักษณ์ ถือว่าเป็น “ข่าวร้าย” สำหรับคนไทย ยิ่งเธอมีความมั่นใจว่าสามารถบริหารราชการ เป็นผู้นำประเทศต่อไปได้ คงไม่มีใครอยากได้ยิน แน่นอน เพราะที่ผ่านมาตลอดระเวลา 8-9 เดือนในฐานะนายกรัฐมนตรีเธอได้สร้างความผิดหวังให้กับชาวบ้าน ที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “กลวง” แบบไม่น่าเชื่อ ทั้งการพูด ความรู้รอบตัว ภาษาไทยและต่างประเทศ วิสัยทัศน์ จนต้องตั้งข้อสงสัยกันว่าที่ผ่านมาเธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรี รวมทั้งจบปริญญาโทจากต่างประเทศได้อย่างไร

อย่างไรก็ดีการปรับคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ทางหนึ่งเพื่อรองรับพวกบ้านเลขที่ 111 ที่กำลังจะพ้นโทษออกมาเข้าสู่เวทีการเมืองเต็มตัว สองเป็นการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ตามความต้องการของโควตาแต่ละสายภายในครอบครัวตามลำดับความสำคัญ รวมไปถึงการ “สร้างภาพ” เอาใจมวลชนคนเสื้อแดง เป็นการหยั่ง “สองขา” ไปพร้อมกันนั่นคือ ทั้งในและนอกสภา แต่ในความเป็นจริงนี่คือการเลือกให้รางวัลเฉพาะบรรดาหัวโจกบางคนเท่านั้น ซึ่งคราวนี้ก็ถึงคิวที่ล็อกเอาไว้ให้บางคน เช่น จตุพร พรหมพันธุ์ เป็นต้น ขณะที่พวกที่ไร้ความหมายไม่มีประโยชน์ก็ปล่อยทิ้งตามยะถากรรม หลายคนยังต้องติดคุกอยู่ทั่วประเทศ ไม่ได้รับการเหลียวแลเช่นเดิม

ดังนั้นนาทีนี้การปรับคณะรัฐมนตรีที่กำลังจะมีขึ้น บรรยากาศจะต้องเปลี่ยนไปจากเดิมค่อนข้างมาก จะมีการรายการแข่งขั้น วิ่งเต้นที่หนักหน่วงกว่าเดิม ที่สำคัญจะมีการ “เสนอเงื่อนไข” บางอย่างที่สมน้ำสมเนื้อ ขณะเดียวกันก็มีข่าวดีปนข่าวร้าย นั่นคือในกลุ่มบ้านเลขที่ 111 ที่กำลังจะเข้ามาบางคนก็ถือว่ามีความสามารถทางด้านเศรษฐกิจอยู่บ้าง ทำให้การขับเคลื่อนรัฐบาลอาจทำได้ดีขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็มีข่าวร้ายก็คือ ยิ่งลักษณ์ เริ่มเคลิบเคลิ้มกับเก้าอี้นายกรัฐมนตรี มั่นใจและนึกสนุกที่จะอยู่ต่อไปนานๆ อาการ “หลงตัว”แบบนี้แหละที่ทำให้น่าเป็นห่วง เพราะผ่านมา 8-9 เดือนถือว่าฝันร้ายมากพอแล้ว !!
กำลังโหลดความคิดเห็น