รายงาน
มีจุดน่าสงสัยในประวัติชีวิตของนายเกษม นิมมลรัตน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทยเขต 3 เชียงใหม่ เรื่องแรกว่าด้วยการรับเงินเดือนซ้อนจากรัฐสภาผิดระเบียบที่ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองในองค์กรท้องถิ่น และเรื่องที่สอง การมีชื่อเป็นผู้ครอบครองรถหรูที่ตนเองไม่ได้ใช้
ในที่สุดพรรคเพื่อไทยก็ได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่เขต 3 อย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ (30 เม.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ร่วมกันแถลงชูมือ “เกษม นิมมลรัตน์” ตามความคาดหมายที่เป็นข่าวมาก่อนหน้าว่าเขาเป็นตัวเต็งที่จะได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนพรรคเนื่องจากเป็นคนใกล้ชิดกับครอบครัวนางเยาวภา-สมชาย วงศ์สวัสดิ์มายาวนาน แม้จะมีกระแสคัดค้านจากแกนนำคนเสื้อแดงในพื้นที่อยู่บ้าง แต่ในที่สุดกลุ่มคนเสื้อแดงดังกล่าวก็ไม่ได้ติดใจอะไร
ข้อมูลที่ปรากฏตามสื่อมวลชนทุกแขนงรายงานสอดคล้องกันว่า เกษม นิมมลรัตน์ เคยรับตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญประจำ “เจ๊แดง” ส.ส.เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ยาวนานถึง 4 ปี (2544-2548) และเมื่อถึงรุ่นลูกคือ น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ได้เป็น ส.ส. “เจ๊แดง” ก็ส่งคนสนิทที่ชื่อเกษมไปรับตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญประจำ ส.ส.ชินณิชาอีกครั้ง และก็มีผู้พบว่าเกษมคอยรับใช้ใกล้ชิดเป็นเงาให้ลูกเจ๊แดงถึงขนาดเป็นสารถีขับรถให้
ปมที่ต้องตรวจสอบเป็นเบื้องต้นสำหรับผู้จะอาสารับใช้ประชาชนในฐานะนักการเมืองคือประวัติและที่มา ซึ่งน่าสนใจว่าประวัติการทำงานการเมืองของเกษม นิมมลรัตน์ ผู้ใกล้ชิดกับครอบครัววงศ์สวัสดิ์ ดูจะลักลั่นทับซ้อนและอาจจะเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์ของสภาผู้แทนราษฎรในประเด็นเรื่องคุณสมบัติของผู้เชี่ยวชาญประจำ ส.ส. ที่ห้ามไม่ให้รับเงินเดือนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทับซ้อน
ประวัติของเกษม นิมมลรัตน์ ระบุว่า นอกจากรับตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญประจำ ส.ส.กินเงินเดือน 20,000 บาทจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ยังดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ (นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์) อีกด้วยตามที่มีการนำเสนอในเว็บไซต์ของ อบจ.เชียงใหม่ในปัจจุบัน http://www.chiangmaipao.go.th/th/organization-chart.html ที่ล่าสุด (1พ.ค.) ก็ยังมีภาพและตำแหน่งของนายเกษม นิมมลรัตน์ แสดงอยู่อย่างชัดเจนว่าเขาเป็นหนึ่งในคณะผู้บริหาร
ประกาศสภาผู้แทนราษฎรเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการตั้งผู้เชี่ยวชาญประจำสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2539 ลงนามโดยนายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรในยุคนั้น มีทั้งสิ้น 10 ข้อ ที่สำคัญซึ่งระบุในข้อ 1 คือคุณสมบัติทั่วไป ระบุในวงเล็บ (5) ว่า ...
“ไม่เป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ ผู้บริหารท้องถิ่น ข้าราชการการเมือง ข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง พนักงานหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ”
คำถามน่าสนใจคือ “ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด” เข้าข่ายคุณสมบัติต้องห้ามตามประกาศดังกล่าวหรือไม่? หากเป็นการต้องห้ามจริงถือว่านายเกษมจงใจกรอกใบสมัครรับตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญประจำ ส.ส.ด้วยความเท็จหรือไม่?
ประเด็นต่อมาคือเรื่องศักดิ์และฐานะของนายเกษม ที่แม้ว่าจะเรียนจบปริญญาโททางด้านวิศวกรรมศาสตร์แต่ก็ไม่ได้แสดงว่ามีอาชีพหรือรายได้จำนวนมากอย่างชัดเจน ในช่วงก่อนหน้ากินเงินเดือนผู้เชี่ยวชาญประจำ ส.ส.ของนางเยาวภา และ น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ จำนวน 20,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น แต่ปรากฏว่าเขามีชื่อเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ SUV หรูยี่ห้อเลกซัส ซึ่งเคยเป็นข่าวฮือฮาเมื่อครั้งที่มีคลิปภาพคนหน้าเหมือนนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขับรถหรูไม่ซ้ำคันไปกับผู้หญิงหลายคนไม่ซ้ำหน้า
การตรวจสอบในครั้งนั้นระบุว่า รถยนต์โตโยต้า เลกซัส สีขาว เลขทะเบียน กบ 8888 เชียงใหม่ ที่เป็นข่าวฮือฮา มีเลขตัวรถ : JTJHT00W-603502165 เลขเครื่องยนต์: 2UZ-9004293 ผู้ถือกรรมสิทธิ์ : นายเกษม นิมมลรัตน์ วัน เดือน ปีเกิด : 26 ต.ค. 2507 ที่อยู่ : 3/8 ซ.1 ถ.ป่าพร้าว ป่าแดด อ.เมือง เชียงใหม่ 50300 ผู้ครอบครอง : นายเกษม นิมมลรัตน์ ที่อยู่ : 3/8 ซ.1 ถ.ป่าพร้าว ป่าแดด อ.เมือง เชียงใหม่ 50300 วัน เดือน ปีเกิด : 26 ต.ค. 2507
ซึ่งก็น่าประหลาดใจสำหรับคนที่รู้จักพอสมควร เพราะปกตินายเกษมก็ไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นเศรษฐีที่มีเงินมากมายขนาดซื้อรถยนต์หรูหราแล้วไม่ได้ขับขี่เอง ซ้ำยังยกให้เจ้านายไปใช้ .. ซึ่งถ้านายเกษมไม่ได้รับเป็นผู้ถือครองให้เจ้านายหรือ “ซุก” ให้ใครคนใด หากได้รับเลือกเป็นส.ส. นายเกษมก็ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินซึ่งคงต้องรวมรายการรถยนต์หรูดังกล่าว รวมทั้งทรัพย์สินอื่นๆ ต่อสาธารณะด้วย
นี่ก็เป็นอีกปมคาใจหนึ่งของประวัติว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เป็นตัวแทนประชาชนพรรคเพื่อไทย