xs
xsm
sm
md
lg

เปิดตัว “น้องเทมส์” ทายาทรุ่นเยาว์เบียร์ช้าง พร้อมเผยเรื่องราวชีวิตคู่ “ปณต-ม.ล.ตรีนุช สิริวัฒนภักดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


>>วันนี้เรามีนัดกันที่ชั้น 28 ห้องรัตนโกสินทร์ซึ่งเป็นห้องสูทที่หรูที่สุดของโรงแรมพลาซ่า แอทธินี, รอยัล เมอริเดียน โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว หนึ่งในกิจการที่ครอบครัวสิริวัฒนภักดีครอบครองอยู่ โดยวันนี้"คุณปณต-ม.ล.ตรีนุช"พา"น้องเทมส์-โรจนะ" ลูกชายคนโตวัย 2 ขวบ มาเปิดตัวโชว์ความอบอุ่นในแบบพ่อ-แม่-ลูกให้เราได้ชมกัน แต่เสียดายลูกสาวตัวน้อยของครอบครัววัย 3 เดือน ที่ยังเล็กเกินไป จึงไม่ได้มาร่วมถ่ายสัมภาษณ์ในครั้งนี้ โดยได้คนเลี้ยงมือวางอันดับหนึ่งอย่างคุณยายคอยช่วยดูแลอยู่ที่บ้าน

:: ก่อร่างสร้างรัก

“ผมเชื่อว่าเรื่องคู่ชีวิต เวลากับโอกาส เป็นเรื่องสำคัญที่สุด เราต้องเจอคนที่ใช่ในจังหวะที่เหมาะสม มันคล้ายว่าชะตาลิขิตมาด้วย รู้จักกันได้ประมาณ 3-4 เดือน ก็รู้สึกแล้วว่าผู้หญิงคนนี้แหละใช่... เรารู้สึกเองว่ามันพิเศษกว่าคนอื่นๆ ที่ผ่านมา อาจจะด้วยวัยเราด้วยตอนนั้นเริ่มตั้งต้นชีวิตแล้ว มันอยู่ในช่วงที่เรามองหาคู่ชีวิต ไม่ใช่มองแค่จะคบกันเป็นแฟน พอคบกันได้ 2 ปีก็เลยเริ่มเกริ่นเรื่องแต่งงานกับเธอ ทั้งที่จริงผมคิดล่วงหน้ามานานแล้ว เพราะรู้ว่าคู่ชีวิตผมคือเธอ แต่ยังไม่ได้แสดงออกอะไร เก็บไว้ในใจคนเดียว”

คงต้องบอกว่า หนุ่มคนนี้เก็บอาการได้เก่งมาก เพราะฝ่ายคุณแม่คนสวยย้อนอดีตให้ Celeb Online ฟังว่าสาเหตุอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เธอประทับใจในตัวชายหนุ่มข้างกายคนนี้ เพราะเขาแตกต่างจากคนอื่นๆ “เราเจอกันตอนเรียนปริญญาโทที่อังกฤษ ตอนแรกที่รู้จักกัน เขาไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะเข้ามาจีบ คุยกันแบบทำความรู้จัก เหมือนเป็นเพื่อนมากกว่า ถ้าอย่างบางคนที่แสดงออกว่าจะเข้ามาจีบ มันจะทำให้เราเกร็ง ระวังตัว ไม่ได้เป็นธรรมชาติของตัวเราแบบ 100% แต่กับพี่ยอดเขามาแบบคุยทำความรู้จัก เหมือนเป็นเพื่อนกันมากกว่า แล้วก็ค่อยๆ สนิทกันไป ตั้งแต่เริ่มต้นเราจึงเป็นตัวของตัวเองล้วนๆ ไม่มีการสร้างภาพใดๆ...

ยิ่งรู้จักเขา ก็ยิ่งประทับใจ รู้สึกว่าเขาคือคนที่ใช่มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเขาเป็นคนน่ารัก ดูแลเราดีมาก และที่สำคัญคือเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักจนถึงวันนี้ เขาเป็นคนดีไม่มีเปลี่ยน การเริ่มต้นด้วยการไม่สร้างภาพใส่กันแบบเข้ามาจีบ มันทำให้ไม่มีภาพ Before กับ After ให้เรารู้สึกผิดหวังภายหลัง พอเขาขอแต่งงานเราก็เลยไม่ลังเล เพราะมั่นใจว่าเขานี่แหละเป็นคนที่เราจะฝากชีวิตไว้ได้และเขาจะดูแลเราอย่างดี”

ทั้งคู่เข้าพิธีแต่งงานเมื่อปี 2551 หลังจากฝ่ายหญิงเรียนจบปริญญาโทจากอังกฤษ กลับมาทำงานเมืองไทยได้เกือบสองปี “รู้สึกมั่นใจในตัวเค้าและชีวิตก็กำลังอยู่ในจังหวะที่พอดี ลงตัวทุกอย่าง และโดยส่วนตัวก็คิดว่า ถ้าจะแต่งงานมีครอบครัว มีลูก ก็อยากมีลูกเร็วหน่อย เพราะยังไม่อยากแก่ก่อนลูกโต เราอยากเป็นเพื่อนกับเขาได้ โตไปกับลูก ไม่ใช่อายุมากแล้วตามยุคสมัยเขาไม่ทัน ซึ่งเราสองคนทัศนคติตรงกัน อย่างบางคู่เขาอาจจะรู้สึกว่า แต่งงานแล้วอยากอยู่กัน 2 คนก่อน ไปเที่ยวด้วยกัน แต่สำหรับคู่เราไม่ได้คิดแบบนั้น เราคุยกันเลยว่าแต่งก็มีเลย แล้วค่อยไปเที่ยวกับลูกเป็นครอบครัว หรือให้ลูกโตก่อนแล้วเราค่อยไปตอนอายุมากหน่อยก็ได้”

คุณปณตกล่าวว่า “จากวันที่เราขอเขาแต่งงาน วาดภาพชีวิตคู่ไว้จนมาถึงวันนี้ที่ได้เห็นภาพที่วาดไว้นั้นสมบูรณ์ด้วยลูกๆ 2 คน มันยิ่งกว่าที่หวังไว้อีก เพราะเค้าทุ่มเทและเสียสละเพื่อครอบครัว เพราะผมรู้ว่าเขาเป็นเวิร์กกิ้ง วูแมน ชอบทำงาน แต่พอท้อง มีลูก เขาพร้อมที่จะหยุดมาเป็นแม่แบบเต็มที่ เลี้ยงลูก ให้นมลูกเอง ซึ่งผมก็เคยคุยกับเขาว่า ถ้าอยากกลับไปทำงาน เราก็มาปรับเวลากันใหม่ เพราะงานผมเป็นธุรกิจครอบครัว ปรับยืดหยุ่นเวลาได้ เแต่อาจจะรอให้ลูกโตกว่านี้สักหน่อย ซึ่งเค้าเองก็อยากใช้เวลากับลูกช่วงนี้ให้เต็มที่มากที่สุด”

:: โซ่ทองคล้องใจรัก

ตอนนี้ลูกชายคนโต “น้องเทมส์-โรจนะ สิริวัฒนภักดี” อายุ 2 ขวบ ส่วนคนเล็กสาวน้อยที่เพิ่งจะอายุได้ 3 เดือน มีชื่อเล่นว่า “น้องแพม” ส่วนชื่อจริงยังรอชื่อพระราชทานอยู่
“หน้าที่เราคือเลี้ยงลูกเป็นหลัก แต่ช่วงเย็นหลังเลิกงาน และวันหยุด คุณพ่อเขาก็จะเต็มที่กับครอบครัว ตอนนี้เขาก็ช่วยดูแลลูกชายคนโตมากขึ้น แล้วก็จะมีพี่เลี้ยงและคุณยายมาช่วยด้วย แต่คนที่สองเลี้ยงง่ายขึ้นมาก เพราะเรามีประสบการณ์จากคนแรกแล้ว ตอนเลี้ยงเทมส์จะอ่านหนังสือเกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงลูกเยอะมาก ศึกษาทุกอย่างเลย เพราะเราไม่มีความรู้มาก่อน ก็เตรียมพร้อมเต็มที่ ตอนนั้นเคร่งมากทำทุกอย่างตามตำราเป๊ะๆ กังวลไปหมด จนบางครั้งก็มากเกินไป พอมาถึงแพม เราเริ่มรู้แล้วว่าจุดเหมาะสมอยู่ตรงไหน เพราะเด็กแต่ละคนก็แตกต่างกันไป ก็เอาความรู้มาปรับใช้ให้เหมาะกับเรา ไม่ยึดตามตำราไปซะทุกอย่าง”

ปณตชมภรรยาให้เราฟังว่า “ตอนนี้เค้าคล่องและดูชำนาญมาก แล้วแพมก็เป็นเด็กเลี้ยงง่าย ผมจะมีช่วยพาเข้านอนบ้าง แต่ส่วนใหญ่ผมจะช่วยดูคนโตมากกว่า ถ้าวันไหนกลับเร็วก็จะได้พาเขาทานข้าวเย็น แล้วเสาร์-อาทิตย์ จะพาเขาไปเที่ยวนอกบ้าน ไปซาฟารีเวิลด์ ไปสวนสัตว์ ให้เขาได้สัมผัสกับธรรมชาติ แล้วก็ไปพวก Education Center หรือ Playground เรียนศิลปะ ดนตรี ทำกิจกรรมต่างๆ

การมีลูกสำหรับผมแล้วช่วยให้เราแบ่งเวลาได้ดีขึ้นกว่าเดิมนะ เพราะแต่ก่อนจะทำงานหนักมาก งานเยอะเกิน ไม่ค่อยได้หยุด แต่ตอนนี้วันหยุดเราต้องจัดสรรเวลาให้ครอบครัว ก็ทำให้ชีวิตเราสมดุลขึ้น การตัดสินใจเรื่องลูกผมจะปล่อยให้เป็นหน้าที่คุณแม่ เพราะเขาใกล้ชิดกว่า ผมจะเป็นฝ่ายสนับสนุน”

จากการเป็นสาวทำงานมาสู่บทบาทของความเป็นแม่ นับเป็นการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ของผู้หญิงสาวทุกคน หม่อมหลวงตรีนุชก็เช่นเดียวกัน “ถึงแม้จะเคยคิดมาตลอดว่าชีวิตก็ต้องแต่งงาน เป็นภรรยา เป็นแม่ แต่เราก็ไม่เคยนึกวาดภาพ หรือคิดว่านั่นคือจุดมุ่งหมายอะไร คิดว่ามันเป็นไปตามสเต็ปของชีวิตผู้หญิง เรามองว่าตัวเองเป็นผู้หญิงทำงาน วิ่งวุ่นอยู่นอกบ้าน พอมาวันนี้เป็นคุณแม่เต็มเวลาดูแลลูก 2 คน ไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นงานหนักขนาดนี้ วุ่นอยู่กับลูกแป๊บๆ ก็หมดวันแล้ว

บางคนอาจจะมองว่าเป็นแม่บ้าน อยู่บ้านเลี้ยงลูก น่าจะสบาย จริงๆ แล้วมันไม่ได้ง่ายแบบที่หลายคนคิด เพราะก่อนหน้าที่จะแต่งงานมีลูก ตัวเองทำงานด้านการเงินก็รู้สึกว่างานหนักและยาก แต่การเลี้ยงลูกมันก็ยากและเครียดคนละแบบ ยิ่งเวลาลูกป่วย ลูกไม่สบาย เราจะเหนื่อยทั้งกายและใจ กังวล เป็นห่วงสารพัด”

:: ครอบครัวแสนอบอุ่น

ตอนนี้มีลูกน้อย 2 คน ชายคน หญิงคน ก็นับได้ว่าครบสมบูรณ์แบบที่หลายๆ ครอบครัวใฝ่ฝัน แต่สำหรับบ้านนี้เลข 2 อาจจะไม่ใช่คำตอบสุดท้าย

“แฮปปี้กับการเลี้ยงลูกนะครับ เห็นเด็กๆ แล้วมีความสุข ถ้าถามผมก็อยากมีอีกนะ แต่ก็ต้องปรึกษากับภรรยาด้วย ก่อนแต่งก็คุยกันว่าอยากมีเยอะๆ แต่พอมีลูกจริงๆ ก็เริ่มคุยกันใหม่ว่าไม่ต้องเยอะมากก็ได้(หัวเราะ) เพราะเค้าทุ่มเทให้ลูกสุดๆ ถ้ามีหลายคนเขาก็ยิ่งต้องเหนื่อย ยิ่งกังวลเยอะ กลัวเขาจะเครียดมาก เรื่องลูกจะมีกี่คนยังไม่แน่ใจ แต่ที่รู้คืออยากมีไล่ๆ กัน ให้เขาวัยใกล้กัน เป็นเพื่อนกันได้”

ด้านคุณแม่บอกว่า “ตอนนี้ยังยุ่งกับการเลี้ยงคนเล็กอยู่ ยังไม่ได้นึกถึงคนถัดไป ให้คนนี้โตอีกหน่อยแล้วค่อยคิด แต่มีไล่ๆ กันไปก็ดี จะได้เหนื่อยทีเดียว เลี้ยงพร้อมๆ กันเลย แล้วหลังจากนี้จะกลับไปทำงาน หรือไปทำอะไรจะได้ไม่ต้องทำๆ หยุดๆ ให้ขาดตอน”

พูดถึงเรื่องการทำงาน สาวเวิร์กกิ้งวูแมน ผู้ผันมาเป็นแม่บ้านเต็มตัวคนนี้บอกว่า เมื่อลูกๆ โตอีกสักหน่อย อยากกลับไปทำงานอีกครั้ง โดยจะไปช่วยงานธุรกิจของสามี “เราคงไม่ไปทำบริษัทข้างนอก เพราะเราจะไม่สามารถบริหารเวลาเองได้ เนื่องจากหน้าที่เรายังต้องดูแลสามีและลูก ซึ่งบางครั้งเราต้องเดินทางตามสามีไปต่างประเทศ เลยคิดว่ามาช่วยดูแลกิจกรรมของครอบครัวเราดีกว่า”

งานของคุณปณตต้องเดินทางไปต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง เพราะเขารับผิดชอบในส่วนของ TCC Land ที่ดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของตระกูล ทั้งในเรื่องของกลยุทธ์และการพัฒนา ทั้งเรื่องที่ดิน อาคาร โรงแรม ไปจนถึงการเกษตร

“โดยรวมๆ คือการพัฒนา เพิ่มมูลค่าให้กับที่ดิน มีทั้งส่วนของตึกอาคาร สำนักงาน โรงแรม ไปจนถึงการเกษตร เรามีสวนยาง อ้อย เพราะเราคิดว่าการเกษตรมันคือพื้นฐานของการพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และมันเชื่อมโยงเป็นวงจรเดียวกันทั้งหมด เรามีธุรกิจยางพารา น้ำตาล และการแปรรูปผลไม้

ส่วนของโรงแรมเราก็เน้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะเรามองว่าภูมิภาคนี้ธุรกิจท่องเที่ยวเติบโตได้อีกเยอะ เรามีทั้งโรงแรมที่เราเข้าไปลงทุนสร้างเอง และหลังๆ นี้เราจะเน้นเข้าไปพัฒนาสินทรัพย์ที่มีอยู่แล้ว เลือกดูโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี ดูมีศักยภาพ การบริหารงานที่ดี ที่อาจจะขาดเจ้าของที่เข้าใจ หรือขาดเงินลงทุน เราก็เข้าเสริมตรงนั้น ซึ่งมันสามารถดำเนินธุรกิจต่อ เดินหน้าได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลารอก่อสร้าง ซึ่งเราเริ่มต้นมาได้ 7 ปีกว่า ตอนนี้เรามีโรงแรมอยู่ 14 แห่ง จากทั้งหมด 10 ประเทศ”

::หนุ่มน้อยที่ชื่อ เทมส์

ขณะที่เรากำลังคุยกับหม่อมหลวงตรีนุช และคุณปณต อย่างสนุกสนานอยู่นั้น ประตูห้องก็เปิดออก... พร้อมพี่เลี้ยงที่จูงหนุ่มน้อยในชุดสุดเท่เข้ามา หน้าหวานๆ ที่มีความละม้ายคล้ายคุณแม่ส่งยิ้มทักทาย พร้อมกับจ้องมองตาแป๋วแสดงความสนใจเมื่อเห็นคุณแม่แต่งตัวสวย

“ทุกคนจะบอกว่าลูกชายหน้าเหมือนแม่ ตอนเด็กๆ อุ้มไปไหนมาไหน คนจะคิดว่าเป็นเด็กผู้หญิง (หัวเราะ) ส่วนลูกสาวหน้าจะออกไปทางพ่อ จะมีแก้มหน่อยๆ เทมส์หน้าเหมือนแม่แต่จะนิสัยคล้ายพ่อ เป็นคนร่าเริง สนุกสนาน และทำอะไรเร็ว พี่ยอดเขาจะเป็นคนคล่องแคล้ว”

เทมส์เป็นเด็กที่ร่าเริง และไม่เขินอายต่อกล้องและคนแปลกหน้า แถมยังทำให้ทีมงานเราทึ่งเมื่อเห็นน้องเทมส์ที่วัยเพียง 2 ขวบสามารถเล่นไอแพดที่คุณพ่อนำมาถ่ายรูปเบื้องหลังการถ่ายทำในวันนี้ ด้วยการสไลด์เลื่อนรูปดูเอง พร้อมรู้จักการย่อ-ขยายรูปบนหน้าจอทัชสกรีนได้อย่างชำนาญ

“เด็กสมัยนี้เขาเรียนรู้เร็ว ช่างสังเกต แล้วก็อยากรู้อยากเห็น สนใจเรื่องต่างๆ เห็นเราทำอะไรก็ทำตามได้ จนเราแปลกใจ ตอนนี้เขากำลังชอบดนตรี เล่นกีตาร์ กลอง เปียโน เขาชอบมาก แต่เขายังเด็กเกินกว่าที่จะบอกได้ว่าเขาจะไปทางไหน แต่ไม่ว่าเขาจะชอบอะไร เราสองคนพร้อมสนับสนุนทุกอย่าง...

เทมส์เขาน่ารัก มีซนบ้างแต่พูดรู้เรื่อง อย่างเวลาผมต้องไปทำธุรกิจต่างประเทศแล้วพากันไปพักผ่อนทั้งครอบครัว บินไกลๆ อย่างอังกฤษ ไม่ต้องเป็นห่วงเลย ไม่มีงอแง เพราะเขาชอบเที่ยว มีอยู่ทริปเดียวตอนไปมาเลเซีย เขาท้องเสีย เลยมีงอแงเล็กน้อย นอกนั้นร่าเริง สนุกสนานมาก เวลาต้องเดินทางไปทำงานที่ไหน ก็จะพยายามพาเขาไปเปิดหูเปิดตาตลอด”

คุณปณตเล่าให้เราฟังพร้อมกับใช้กล้องส่วนตัวคอยบันทึกภาพลูกชายและภรรยาในอิริยาบถต่างๆ และเมื่อเห็นน้องเทมส์มุ่งหน้าไปยังเปียโนหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่มุมห้อง จึงตามไปสมทบ และฝีมือบรรเลงเพลงเมโลดี้ไพเราะของ 2 พ่อลูกก็ก้องกังวาลขึ้น เป็นเสียงดนตรีเพลง Happy Birthday เพลงเก่งของน้องเทมส์ที่เขาสามารถกดแป้นคีย์ได้อย่างชำนาญเป็นการปิดท้ายการสัมภาษณ์ครั้งนี้อย่างแสนอบอุ่น

:: For Modern Mom

คุณแม่คนสวยแบ่งปันเคล็ดลับการใช้ชีวิตคู่และชีวิตครอบครัวอย่างมีสุขให้กับคุณแม่ยุคใหม่ทั้งหลายว่า “การบาลานซ์สมดุลในชีวิตเป็นเรื่องสำคัญมาก ถึงเราจะมีบทบาทเป็นแม่ก็จริง แต่อย่าลืมบทบาทอื่นๆ ในชีวิตของเราด้วย เป็นแม่ที่ดีก็ต้องเป็นภรรยาที่ดีในขณะเดียวกัน ไม่ใช่ว่าพอมีลูก ก็ทุ่มให้ลูกอย่างเดียว ลืมสิ่งอื่นหมด มันต้องจัดสรรชีวิต เวลาให้กับชีวิตคู่ต้องมี เวลาให้กับตัวเองก็ต้องมีด้วย...
ปัจจุบันเราสองคนจะแบ่งเวลาส่วนตัวสำหรับชีวิตคู่อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ไปทำกิจกรรมหรือทานข้าวนอกบ้านกัน เพื่อจะได้มีเวลาพูดคุย รีแลกซ์กันเองในโลกส่วนตัวของเราเองกัน 2 คน”






>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net
กำลังโหลดความคิดเห็น