xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.ที่ดินฯ ลงภูเก็ตจี้ตรวจเอกสารสิทธิที่ดินในอุทยานอีก 3 แปลง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คณะกรรมาธิการการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ลงภูเก็ตตรวจสอบความคืบหน้าการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ เผยเจ้าหน้าที่ดำเนินการคืบหน้าไปมากแล้ว มีการแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว 10 แปลง พร้อมจี้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบอีก 3 แปลงให้เสร็จโดยเร็ว

วันนี้ (28 ก.ย.) ที่ห้องประชุมศูนย์อำนวยการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิและปราบปรามการบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จ.ภูเก็ต คณะกรรมธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายนริศ ขำนุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการ พร้อมคณะ ร่วมศึกษาดูงานติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบ และดำเนินคดีกรกรณีการบุกรุกถือครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ โดยมี นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายสุนทร วัชระกุลดิลก ที่ปรึกษาอธิบดีฯ นายชีวะภาพ ธีรธรรม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ นายวัชระ บัวทอง ที่ดินจังหวัดภูเก็ต สาขาถลาง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมชี้แจงถึงความคืบหน้า และการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินในพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ

นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวชี้แจ้งถึงการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินในพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ว่า ได้เริ่มดำเนินการมาประมาณ 1 เดือนเศษ และได้มอบหมายให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ จำนวน 10 เขต เข้ามาดำเนินการในพื้นที่ร่วมกับป่าไม้ โดยจับฉลากแบ่งเขตการทำงานเพื่อตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติในประเด็นต่างๆ จำนวน 10 แปลง และจากการตรวจสอบในส่วนของกรมอุทยานตั้งข้อสังเกตว่า การออกเอกสารสิทธิไม่น่าจะชอบด้วยกฎหมาย ส.ค.1 ใบเดียวนำไปออกเอกสารสิทธิในที่ดินหลายแปลง ซึ่งมีทั้งบิน และบวม สำหรับการดำเนินการในขณะนี้ ทั้ง 10 แปลง ทั้งสำนักที่เข้ามาตรวจสอบ ตอนนี้ได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ และบุคคลที่เกี่ยวข้องในการออกเอกสารสิทธิที่ดินในเขตอุทยานฯไปแล้ว 10 แปลง ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบอีก 3 แปลง

ส่วนการตรวจสอบที่ดินที่เหลืออีกกว่า 3,000 ไร่ ซึ่งทางอธิบดีได้แต่งตั้งชุดทำงานจำนวน 366 ชุด ลงพื้นที่ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธินั้น ขณะนี้ได้มีการเซ็นคำสั่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นจะมีการอบรมทำความเข้าใจแก่เจ้าหน้าที่ และลงปฏิบัติหน้าที่ในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งการดำเนินการตรวจสอบก็จะดำเนินการในรูปแบบเดียวกับ 10 ชุดแรกที่มีการดำเนินการไปแล้ว

ด้านนายชีวะภาพ ชีวธรรม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ กล่าว่า สำหรับการดำเนินการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินในพื้นที่อุทยานนั้น ขณะนี้ได้มีการดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว 10 แปลง ซึ่งเป็นการแจ้งความดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ และบุคคลที่เกี่ยวข้องในการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ และขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการอีก 3 แปลง ซึ่งเป็นแปลงที่เพิ่มขึ้นมาจากการตรวจสอบในครั้งแรก ซึ่งประกอบด้วยแปลงโครงการมาลัยวนา โครงการบ้านฝรั่ง และโครงการอีสทาน่า ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวการทำงานค่อนข้างทำได้ยาก เพราะว่าเป็นพื้นที่ที่มีสภาพเป็นป่าภูเขาสูงชัน

“สำหรับโครงการมาลัยวนานั้น ในเอกสารแจ้งไว้ประมาณ 60 กว่าไร่ แต่วันที่ไปตรวจ แจ้งว่ามีแค่ 21 ไร่ เพราะมีการแบ่งแยกโฉนด และจากการตรวจสอบในส่วน 21 ไร่ พบว่ามีสิ่งก่อสร้าง แต่การตรวจวัดบางส่วนเป็นพื้นที่ใช้กล้องส่องไม่ได้ ต้องทำจีพีเอส และใช้โครงข่าย เช่นเดียวกับโครงการอีสทาน่า เนื่องจากพื้นที่อยู่ติดกัน ส่วนโครงการบ้านฝรั่ง ก็เช่นเดียวกัน ซึ่งเจ้าของเป็นชาวต่างชาติการสื่อสารทำความเข้าใจยาก ไม่ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับการดำเนินการทั้ง 3 โครงการขณะนี้ ได้ตรวจสอบพื้นที่รังวัดแนวขอบเขตเสร็จแล้ว ตอนนี้เหลือขั้นตอนตรวจสอบเรื่องเอกสารเกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งทำคู่ขนานไปกับการส่งข้อมูลให้ทางผู้เชี่ยวชาญภาพถ่ายได้แปรภาพ คาดว่าจะสามารถสรุปได้ในเร็วๆ นี้”

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมชี้แจ้งข้อมูลครั้งนี้ ทางประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้สอบถามถึงขึ้นตอนการออกเอกสารสิทธิที่ดินกับทางเจ้าหน้าที่ที่ดินที่เข้าร่วมประชุม ว่า ในการออกเอกสิทธิที่ดินทั้ง 10 แปลงที่มีการแจ้งความดำเนินคดีไปแล้วนั้น ในขั้นตอนของการออกเอกสารสิทธิมีเจ้าหน้าที่อุทยานได้เข้าร่วมชี้แนวเขตหรือไม่

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายวัชระ บัวทอง เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ส่วนแยกถลาง กล่าวชี้แจงว่า หลังจากย้ายมาดำรงตำแหน่งก็ได้ดำเนินการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินทั้ง 10 แปลงคู่ขนานไปกับทางอุทยาน ซึ่งข้อมูลที่ได้มาก็เป็นข้อมูลเดียวกัน ที่ดินทุกแปลงอยู่ในเขตป่าไม้เดิม คือ ป่าเขารวกเขาเมือง ในขณะนั้นยังไม่ได้ประกาศเป็นเขตอุทยาน ป่าเขารวกเขาเมือง ประกาศเมื่อปี 2507 และประกาศเป็นเขตอุทยานเมื่อปี 2524 ความเป็นมาเวลาออกเอกสารสิทธิ ออก น.ส.3 หรือว่า น.ส.3 ก. ที่ดิน 10 กว่าแปลงนี้ ออกมาโดยอาศัยหลักฐานเอกสารที่มีอยู่เดิมทั้งสิ้น

นายนริส ขำนุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการการที่ดินทรัพยากรธรรมาชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวภายหลังการชี้แจ้งของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า การพิจารณาตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินของทางกรมอุทยานมีความคืบหน้าไปมาก แต่ว่ายังมีข้อโต้แย้งจากหลายฝ่าย แต่กรรมาธิการพบว่า เอกสารสิทธิที่ออกทุกแปลงมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งข้อโต้แย้งต่างๆ กรรมาธิการเห็นว่านำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมดีที่สุด ให้ศาลสั่ง และจะมีผู้เกี่ยวข้องเข้ามามากมาย ตนคิดว่าการออกเอกสารสิทธิทั้งหมดมีกระบวนการในการออกเอกสารสิทธิเพราะว่ามีบางแปลงมีข้อเท็จจริงที่ค่อนข้างแน่ชัดว่า น่าจะออกไม่ได้แต่ว่าก็ออกไปได้ แล้วก็ปลายทางก็ต้องออกตามต้นทางซึ่งมีการรับรองกันมา

นายนริศ กล่าวต่อไปว่า เรื่องของการระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาทำงานเป็นเรื่องที่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่มีประสบการณ์จากการที่มาทำที่ภูเก็ต ซึ่งหลังจากนี้ จะมีเจ้าหน้าที่มาทำงานใหม่อีก 366 ชุด และเมื่อดำเนินการที่ภูเก็ตแล้วเสร็จก็สามารถที่จะนำประสบการณ์ไปทำที่อื่นได้อีก เพราะปัญหานี้ไม่ได้มีเฉพาะที่ภูเก็ต หลังจากชุดนี้มาทำที่ภูเก็ตเสร็จคิดว่าจะมีการถ่ายทอดกันได้แล้วก็จะสามารถไปใช้ในพื้นที่อุทยานอื่นๆ ซึ่งก็มีการบุกรุกในลักษณะแบบนี้อาจจะไม่ใหญ่เท่าภูเก็ต แต่เกือบทุกอุทยานมีการบุกรุก ตนคิดว่าเอาบทสรุปนี้ไปใช้ได้เกือบทุกอุทยาน นอกจากนั้น อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการตรวจสอบ 3 แปลงที่เหลือให้เสร็จโดยเร็ว ไม่ใช่พออธิบดีเกษียณแล้วการตรวจสอบจะทำไปเรื่อยๆ ไม่ได้ เพราะการตรวจสอบ 10 แปลงก่อนหน้านี้ใช้เวลาเพียงแค่ 1 เดือนเสร็จ จำนวน 3 แปลงที่เหลือตนก็คิดว่าไม่น่าจะใช้เวลาเกิน 1 เดือนก็น่าจะแล้วเสร็จ

สุดท้าย กรรมาธิการฝากทางกรมอุทยานไปจัดทำรังวัดเรื่องของแนวเขตอุทยานให้ชัดเจน รวมทั้งให้ช่วยตรวจสอบการดำเนินงานของกรมอุทยานเองด้วยบางโครงการ เช่น โครงการปลูกป่าไม้ถาวรเฉลิมพระเกียรติ ที่ขณะนี้พบว่ามีการถูกทำลายไปบางส่วน เพราะฉะนั้น อยากให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ให้เช่นกัน ก่อนที่จะมีโครงการปลูกป่าระยะที่ 2 ลงไป

ขณะที่นายสุนทร วัชระกุลดิลก ที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวภายหลังการชี้แจงคณะกรรมาธิการ ว่า การตรวจสอบเอกสารสิทธิและปราบปรามการบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถเราก็มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน ซึ่งบางอย่างเราไม่สามารถเปิดเผย กลัวว่าจะเสียรูปคดี เปิดเผยเท่าที่เราสามารถเปิดเผยได้ การออกเอกสารสิทธิที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติ ทั้ง 10 รายที่ได้รับคำสั่งจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ เราตรวจสอบดูหลักฐานแล้วปรากฏว่า ส่วนใหญ่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมีพยานหลักฐานที่ยืนยันไม่ใช่พูดลอยๆ

อย่างไรก็ตาม หลังจากรับฟังการชี้แจงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทางคณะกรรมาธิการฯ ได้เดินทางลงไปตรวจสอบพื้นที่บริเวณแปลงที่โรงแรมเพนนิซูล่า สปา แอนด์รีสอร์ท จำกัด




กำลังโหลดความคิดเห็น