ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เลขาป.ป.ท.เผยผลตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินในภูเก็ต 10 เดือน พบมีการตรวจสอบแล้วกว่า 100 แปลง จากข้อมูลที่ได้รับแจ้งประมาณ 200 แปลง ขณะที่ผลการดำเนินงานที่ผ่านมามีหลายแปลงที่ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการแล้ว
พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) กล่าวภูเก็ตและฝั่งทะเลอันดามัน ว่า จาการดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินในป่าสงวนแห่งชาติในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและฝั่งอันดามันในช่วง 10 เดือน ที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งที่การตรวจสอบแล้วเสร็จและอยู่ระหว่างการตรวจสอบพบว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน และอยู่ระหว่างการดำเนินการออกเอกสารสิทธิ์อีกหลายแปลง และน่าจะมีการออกเอกสารสิทธิที่ดินที่ไม่ชอบด้วยกฏหมายที่ผ่านมาหลาย 100 แปลง และการลงพื้นที่ภูเก็ต ของ ปปท.ที่ผ่านมา ทางเครือข่ายได้ส่งข้อมูลให้กับทางสำนักงาน ปปท. แจ้งว่าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตน่าจะมีที่ดินที่ออกเอกสารสิทธิ์ไม่ถูกต้องถึง 200 แปลง
“ซึ่งจริงๆ แล้วเบื้องต้นที่ได้รับข้อมูลจากทางเครือข่ายทางเจ้าหน้าที่แทบจะไม่เชื่อในข้อมูลที่ได้รับ แต่จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ ปรากฏว่าทุกครั้งที่ลงมาตรวจสอบพบการกระทำผิดทุกครั้ง ซึ่งตอนนี้ก็มีเกือบ 100 แปลงแล้วที่อยู่ในข่ายที่เราจำเป็นต้องตรวจสอบ และจะตรวจสอบทุกแปลง ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ ที่เคยทำผิดมาครั้งหนึ่งแล้ว ดูว่าในอดีตเขาเคยรับราชการแล้วกระทำผิดที่ไหนมาอีก แล้วก็ดูอีกว่าภูมิประเทศตรงไหนส่อไปในทางที่เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ทุจริต เราก็จะเข้าไปดำเนินการเหมือนกัน” พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวและว่า
อย่างไรก็ตามการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินจำนวนหลายแปลงในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตพบว่ามีความคืบหน้าไปพอสมควร เช่น 1.การออกโฉนดที่ดินแหลมไม้ง้าว ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ตเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างนำเข้าคณะกรรมการ ป.ปงท.พิจารณาดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ์ 2.การออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านนาคาเล ต.กมลา อ.เมือง จ.ภูเก็ต จำนวน 2 แปลง ปัจจุบันกำลังก่อสร้างบ้านพักตากอากาศ และโรงแรม ผลการตรวจสอบขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริงของอนุกรรมการ ป.ป.ท. 3. การนำส.ค.1 หมู่ 1 ต.ป่าตอง อ.กระทู้ มาออกโฉนด น.ส.3 ก.ในพื้นที่ต.กมลาม อ.กะทู้ เนื้อที่ 21 ไร่ และอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงแรม ผลการตรวจสอบขระนี้อยู่ระหว่างส่งเรื่องให้สำนักงสานคณะกรรมการป.ปงช.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กระทำผิดอยู่ในอำนาจของคณะกรรมกา ป.ป.ช.
4.การรังวัดตรวจสอบเนื้อที่น.ส.3ก.และดำเนินการรังวัดรวมเอาที่สปก.รวมเข้าไว้ในหลักฐาน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ เนื้อที่ 21ขณะนี้ได้ส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เพราะมีเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิด 5.ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฏหมายในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากมลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ และความพยายามออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวประมาณ 7 แปลง รวมเนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าสภาพเป็นป่าดิบชื้น และเป็นป่าต้นน้ำ
พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวอีกว่า การตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินที่ไม่ถูกต้อง เราต้องทำไปเรื่อยๆ แข่งกับเวลา เราต้องทำให้เห็นว่าปีๆ หนึ่งมันจะคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่ทางรัฐบาล ลงกับ ป.ป.ท.หรือไม่ แล้วเราจะเอาผืนแผ่นดินที่เป็นทรัพยากรธรรมชาติกลับคืนมาได้มากน้อยแค่ไหน อย่างไร
ส่วนจะนำไปสู่การเพิกถอนได้มากน้อยแค่ไหน อยู่กับความจริงใจของหน่วยงานเกี่ยวข้องต่างๆ ซึ่งในวันที่ 14 สิงหาคม นี้ จะมีการลงนามความร่วมมือกับหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบในเรื่องของการเพิกถอน คือกรมที่ดิน ในสังกัดของกระทรวงมหาดไทย โดยท่านปลัดกระทรวงมหาดไทย จะต้องมาลงนามความร่วมมือ ปลัดทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ ส.ป.ก. และ ป.ป.ท.ด้วย
“ส่วนการเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินโดยมีชอบนั้น ไม่ว่าเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หรือนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ตอนนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายก่อนว่าเขาเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน แต่ถ้าหลักฐานไปถึงเราต้องมีการเรียกมาสอบสวน ไม่ละเว้น ต้องดำเนินการไปตามปกติ
พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) กล่าวภูเก็ตและฝั่งทะเลอันดามัน ว่า จาการดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินในป่าสงวนแห่งชาติในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและฝั่งอันดามันในช่วง 10 เดือน ที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งที่การตรวจสอบแล้วเสร็จและอยู่ระหว่างการตรวจสอบพบว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน และอยู่ระหว่างการดำเนินการออกเอกสารสิทธิ์อีกหลายแปลง และน่าจะมีการออกเอกสารสิทธิที่ดินที่ไม่ชอบด้วยกฏหมายที่ผ่านมาหลาย 100 แปลง และการลงพื้นที่ภูเก็ต ของ ปปท.ที่ผ่านมา ทางเครือข่ายได้ส่งข้อมูลให้กับทางสำนักงาน ปปท. แจ้งว่าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตน่าจะมีที่ดินที่ออกเอกสารสิทธิ์ไม่ถูกต้องถึง 200 แปลง
“ซึ่งจริงๆ แล้วเบื้องต้นที่ได้รับข้อมูลจากทางเครือข่ายทางเจ้าหน้าที่แทบจะไม่เชื่อในข้อมูลที่ได้รับ แต่จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ ปรากฏว่าทุกครั้งที่ลงมาตรวจสอบพบการกระทำผิดทุกครั้ง ซึ่งตอนนี้ก็มีเกือบ 100 แปลงแล้วที่อยู่ในข่ายที่เราจำเป็นต้องตรวจสอบ และจะตรวจสอบทุกแปลง ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ ที่เคยทำผิดมาครั้งหนึ่งแล้ว ดูว่าในอดีตเขาเคยรับราชการแล้วกระทำผิดที่ไหนมาอีก แล้วก็ดูอีกว่าภูมิประเทศตรงไหนส่อไปในทางที่เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ทุจริต เราก็จะเข้าไปดำเนินการเหมือนกัน” พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวและว่า
อย่างไรก็ตามการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินจำนวนหลายแปลงในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตพบว่ามีความคืบหน้าไปพอสมควร เช่น 1.การออกโฉนดที่ดินแหลมไม้ง้าว ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ตเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างนำเข้าคณะกรรมการ ป.ปงท.พิจารณาดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ์ 2.การออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านนาคาเล ต.กมลา อ.เมือง จ.ภูเก็ต จำนวน 2 แปลง ปัจจุบันกำลังก่อสร้างบ้านพักตากอากาศ และโรงแรม ผลการตรวจสอบขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริงของอนุกรรมการ ป.ป.ท. 3. การนำส.ค.1 หมู่ 1 ต.ป่าตอง อ.กระทู้ มาออกโฉนด น.ส.3 ก.ในพื้นที่ต.กมลาม อ.กะทู้ เนื้อที่ 21 ไร่ และอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงแรม ผลการตรวจสอบขระนี้อยู่ระหว่างส่งเรื่องให้สำนักงสานคณะกรรมการป.ปงช.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กระทำผิดอยู่ในอำนาจของคณะกรรมกา ป.ป.ช.
4.การรังวัดตรวจสอบเนื้อที่น.ส.3ก.และดำเนินการรังวัดรวมเอาที่สปก.รวมเข้าไว้ในหลักฐาน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ เนื้อที่ 21ขณะนี้ได้ส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เพราะมีเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิด 5.ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฏหมายในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากมลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ และความพยายามออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวประมาณ 7 แปลง รวมเนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าสภาพเป็นป่าดิบชื้น และเป็นป่าต้นน้ำ
พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวอีกว่า การตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินที่ไม่ถูกต้อง เราต้องทำไปเรื่อยๆ แข่งกับเวลา เราต้องทำให้เห็นว่าปีๆ หนึ่งมันจะคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่ทางรัฐบาล ลงกับ ป.ป.ท.หรือไม่ แล้วเราจะเอาผืนแผ่นดินที่เป็นทรัพยากรธรรมชาติกลับคืนมาได้มากน้อยแค่ไหน อย่างไร
ส่วนจะนำไปสู่การเพิกถอนได้มากน้อยแค่ไหน อยู่กับความจริงใจของหน่วยงานเกี่ยวข้องต่างๆ ซึ่งในวันที่ 14 สิงหาคม นี้ จะมีการลงนามความร่วมมือกับหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบในเรื่องของการเพิกถอน คือกรมที่ดิน ในสังกัดของกระทรวงมหาดไทย โดยท่านปลัดกระทรวงมหาดไทย จะต้องมาลงนามความร่วมมือ ปลัดทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ ส.ป.ก. และ ป.ป.ท.ด้วย
“ส่วนการเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินโดยมีชอบนั้น ไม่ว่าเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หรือนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ตอนนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายก่อนว่าเขาเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน แต่ถ้าหลักฐานไปถึงเราต้องมีการเรียกมาสอบสวน ไม่ละเว้น ต้องดำเนินการไปตามปกติ
