xs
xsm
sm
md
lg

กอ.รมน.สบช่อง 93 ผู้แสดงตัว ตั้งทีมดึงขบวนการให้หยุดใช้วิธีรุนแรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กอ.รมน.สบช่อง 93 ผู้เห็นต่างแสดงตัว ตั้งกรรมการดึงคนในขบวนการให้หยุดใช้วิธีรุนแรง พร้อมให้ ศอ.บต.ดูแลด้านคดี เผยรู้ชื่อ 19 คนทีมสังหารหน้ากล้องฆ่า 4 ทหารมายอแล้ว ออกหมายจับ 11 คน คุมตัวแล้ว 6 ล่าอีก 5 เร่งควานหาสาวนราฯ แต่ยังคว้าน้ำเหลว

วันนี้ (26 ก.ย.) พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน.เปิดเผยว่า พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 มีคำสั่งแต่งตั้ง “คณะกรรมการประสานงานและรณรงค์เพื่อยุติการต่อสู้ด้วยวิธีรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้” มีบุคลากรที่ได้รับการยอมรับจากภาคส่วนต่างๆ 18 คน เป็นกรรมการ

พ.อ.ปราโมทย์ เปิดเผยต่อไปว่า คณะกรรมการชุดนี้มีหน้าที่ประสานงานและรณรงค์ให้ผู้ที่ยังคงต่อสู้กับรัฐด้วยวิธีรุนแรงอยู่ยุติการต่อสู้ด้วยความรุนแรง แล้วมาแสดงตัวเพื่อร่วมในการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีร่วมกันต่อไป ทั้งนี้ กอ.รมน.ภาค 4 สน.ได้นัดประชุมคณะกรรมการชุดนี้ เป็นครั้งแรกในวันที่ 27 กันยายน 2555 เวลา 10.00 น. ที่โรงแรง ซี.เอส.ปัตตานี

นอกจากนี้ จะมีการแต่งตั้ง “คณะกรรมการอำนวยความสะดวกด้านกระบวนการยุติธรรม” สำหรับผู้ที่แสดงตัวเพื่อยุติการต่อสู้ด้วยวิธีความรุนแรงในพื้นที่ ดำเนินการโดยศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) โดยการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวขึ้นมา เนื่องจากกรณีที่มีสมาชิกขององค์กรที่ต่อสู้กับรัฐจำนวนหนึ่งออกมาแสดงตัว เพื่อยุติการใช้วิธีการต่อสู้ด้วยความรุนแรง และแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ จำนวน 93 คน เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2555 ที่ผ่านมา

ในวันเดียวกัน พ.อ.ปราโมทย์ เปิดเผยความคืนหน้าคดีคนร้ายใช้รถกระบะ 3 คัน เป็นยานพาหนะซุ่มโจมตีทหารชุดปฏิบัติการหมวดปืนเล็กที่ 2 กองร้อยทหารราบ 15321 หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 ทำให้ทหารเสียชีวิต 4 นาย บาดเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2555 เหตุเกิดบนถนนสาย 4061 มายอ-ปาลัส บ้านดูวา หมู่ที่ 3 ต.ถนน อ.มายอ จ.ปัตตานี โดยเหตุการณ์ดังกล่าวถูกกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้

จากการรวบรวมพยานหลักฐาน และวัตถุพยาน รวมทั้งการขยายผลจากการซักถามทำให้ทราบจำนวนผู้ร่วมก่อเหตุแล้วอย่างน้อย 19 คน และได้ขออนุมัติหมายจับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) ไปแล้ว 11 คน และสามารถควบคุมตัวได้แล้ว 6 คน

โดยรายชื่อผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้ง 6 คน ได้แก่ 1.นายมะซาฮาพี มีทอ 2.นายกอร์เด เจะแต 3.นายนิมูหัมมัด นิเซ็ง 4.นายฮิซบุลอฮ บือซา 5.นายอิสมาแอ ดาโอง 6.นายมุสรอ ยาลา โดยในจำนวนนี้ มี 4 คนที่ให้การรับสารภาพว่า ร่วมก่อเหตุครั้งนี้จริง ส่วนที่เหลืออีก 5 คน ประกอบด้วย 1.นายมะรูดิน ตาแฮ 2.นายปาตะ ลาเต๊ะ 3.นายอับดุลฮาดี ดาหะเล็ง 4.นายนิอิดือเระ เจะแห 5.นายอาหาหมัด ดือราแม อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม

ทั้งนี้ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ยังคงเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความเห็นต่างจากรัฐเข้ามาพูดคุย และร่วมแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งอย่างสันติวิธี เพื่อร่วมสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ด้าน พ.ต.อ.เสน่ห์ จรรยาสถิต ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร (ผกก.สภ.) ตากใบ จ.นราธิวาส เปิดเผยในวันเดียวกันว่า เจ้าหน้าที่ยังตามหานางอุดมลักษณ์ ชาน อายุ 41 ปีไม่พบ หลังจากถูกคนร้าย 4 คนแต่งกายชุดทหารพรานสีดำ มีอาวุธปืนสงครามครบมือควบคุมนางอุดมลักษณ์พร้อมเพื่อน และชิงรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้ารุ่นซิตี้zx สีขาว หมายเลขทะเบียน ฎผ 4677 กรุงเทพมหานคร ของนางอุดมลักษณ์ไปด้วย ก่อนจะคุมตัวนางอุดมลักษณ์ลงที่บ้านตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และปล่อยเพื่อนที่บ้านยะโง๊ะต.ลุโบะบือซาอ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21กันยายน 2555 ซึ่งต่อมา เจ้าหน้าที่ตามจับคนร้ายที่ขับรถคันดังกล่าวได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังระดมค้นหาทุกพื้นที่ที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายที่คนร้ายใช้ควบคุมตัวนางอุดมลักษณ์

และในวันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.30 น.ที่เรือนจำกลางปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี กลุ่มด้วยใจ ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชน จัดกิจกรรมครอบครัวสัมพันธ์ นำญาติผู้ต้องหาคดีความมั่นคงที่อยู่ในเรือนจำกลางปัตตานีมาเยี่ยม ซึ่งมีผู้ต้องหาคดีความมั่นคงประมาณ 30 คน

นางสาวอัญชนา หีมมิน๊ะ ประธานกลุ่มด้วยใจ เปิดเผยว่า กิจกรรมนี้เป็นหนึ่งในโครงการยุติธรรม นำสันติสุขของกระทรวงยุติธรรม ที่ให้ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงในเรือนจำในจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าร่วม ซึ่งมีหลายกิจกรรมด้วยกัน เช่น การสานเสวนา การฝึกอบรมการเขียนเรื่องเล่า การพบปะครอบครัว เป็นต้น เพื่อผู้ต้องขังได้แสดงออก ซึ่งกระทรวงยุติธรรมจะนำไปศึกษาเพื่อแสวงหาทางออกในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งโครงการดังกล่าว กระทรวงยุติธรรมได้ศึกษามาแล้ว พบว่าสามารถช่วยแก้ปัญหาได้

นางสาวอัญชนา กล่าวอีกว่า เป้าหมายของโครงการนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างญาติผู้ต้องหาคดีความมั่นคงกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อให้ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม และเพื่อลบภาพที่สังคมภายนอกมองบุคคลเหล่านี้ในแง่ลบ เนื่องว่าบางคนยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี ศาลยังไม่พิพากษาว่ามีความผิด
 

ญาติผู้ต้องขังคดีความมั่นคงคนหนึ่ง กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาพบสามี หลังจากสามีถูกขังประมาณ 6 เดือนมาแล้ว โดยพาลูกสาววัย 3 ขวบมาด้วย เพื่อให้เจอหน้าพ่อ ซึ่งลูกสาวเข้าใจมาตลอดว่าพ่อไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย ปกติตนจะมาเยือนทุกสัปดาห์ แต่จะไม่พาลูกสาวมาด้วย

ส่วนสามีซึ่งเป็นผู้ต้องขัง กล่าวว่า หลังจากทราบว่าจะมีกิจกรรม 1 เดือน ผู้ต้องขังต่างเฝ้ารอวันนี้ มีการพูดเรื่องนี้ทุกวัน ทุกคนอยากให้วันนี้มาถึงเร็วๆ ดีใจที่สุดที่ได้เจอลูกสาว

ระหว่างการพบญาติ มีการแสดงของผู้ต้องขังด้วย โดยผู้ต้องขังกลุ่มหนึ่งได้ร่วมร้องเพลงอานาชีด ชื่อเพลงว่า แผ่นดินที่สมบูรณ์ และเพลงคำสั่งเสียของผู้เฒ่า เป็นเพลงภาษามลายู จนทำให้ญาติบางคนถึงกับหลังน้ำตา

โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้(DSJ)

กำลังโหลดความคิดเห็น