ยะลา - พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี เผย กอ.รมน.ภาค 4 สน. พร้อมพูดคุยสันติภาพกับ “สะแปอิง บาซอ” แกนนำก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการคนสำคัญ ในขณะที่เตรียมนำกฎหมายมาตรา 21 มาใช้ในพื้นที่ จชต.
วันนี้ (14 ก.ย.) เวลา 11.10 น. ที่หน้าห้องประชุมชั้น 2 อาคารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ ว่า สำหรับกรณีที่มีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงออกมาประกาศยุติการก่อเหตุร้ายเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ตนเองก็ได้รับฟังการรายงานชี้แจงกรณีดังกล่าวแล้ว และก็รับทราบว่า มีความก้าวหน้าในการทำงานของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และการทำงานที่มีผลการปฎิบัติที่ดีอย่างยิ่ง
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะต้องมีการป้องกันฝ่ายตรงข้ามที่พยายามสร้างภาพลบให้แก่ฝ่ายเรา ทั้งๆ ที่ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาเป็นบวกมาตลอด ทางแม่ทัพภาคที่ 4 ให้การยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะปฏิบัติงานให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ และจะให้ความคุ้มครองแก่ผู้ที่ออกมาแสดงตัวว่าจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด และจะเร่งการเจรจา ติดต่อ ประสานงาน รวมทั้งการพัฒนางานให้เกิดความกระชับ และเป็นไปอย่างโปร่งใส
“ส่วนนายสะแปอิง บาซอ แกนนำก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการที่มีข่าวว่าจะออกมาพูดคุยนั้น ก็เป็นเรื่องของตัวเขาเองหากจะออกมาพูดคุย ทางกองทัพก็เปิดช่องทางให้แล้ว หากจะออกมาพูดคุยกันก็ออกมาได้” พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวต่อและว่า
ในส่วนของการส่งเสริมด้านอาชีพนั้น ก็ได้พูดคุยกับแม่ทัพภาค 4 แล้วว่านายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตร กระทรวงการคลัง โดยธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เป็นกองทุนในการประกอบอาชีพ ส่งเสริมอาชีพให้
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 นั้น ทางผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการให้ทางกระทรวงมหาดไทย และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ประสานงานกับกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับมาตรา 21 ให้เร่งปรับปรุงให้ทันกับเวลาที่จะดำเนินการ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย