“ประยุทธ์” ส่งแม่ทัพภาคที่ 4 ทำความเข้าใจ “อาซีส” ปธ.ที่ปรึกษา สปต. หลังเสนอยุบ ศปก.จชต. ยืนยันไม่ซ้ำซ้อน ขอให้ยึดผลประโยชน์ประเทศ วอนทุกฝ่ายอย่าพึ่งติงหรือบอกล้มเหลว ชี้มองประเทศเพื่อนบ้านแก้มา 47 ปี แต่เราแค่ 7 ปี
วันนี้ (19 ส.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายอาซีส เบ็ญหาวัน ประธานที่ปรึกษาการบริหารและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สปต.) เสนอให้ยุบศูนย์ปฎิบัติการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.จชต.) ว่า ตนได้สั่งการให้ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ให้ทำความเข้าใจ เพราะความจริงแล้วไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น
ในส่วนของ สปต.นั้นถูกจัดตั้งมาตามกฎหมาย และในส่วนของ ศปก.จชต.มีส่วนในการทำงานตาม พ.ร.บ.ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. อยู่แล้วซึ่งไม่ได้ซับซ้อนในการทำงาน โครงสร้างใหม่ที่จัดขึ้นมาเป็นโครงสร้างในเชิงบริหาร ซึ่งเป็นเฉพาะกิจเพื่อขับเคลื่อนและผลักดันการทำงานในด้านความมั่นคงและพัฒนาให้ไปด้วยกัน
ส่วนที่มีการกล่าวหาว่าทหารจะเข้าไปขับเคลื่อนกระทรวง ทบวง กรมได้อย่างไรนั้น ทหารไม่ได้เป็นผู้ขับเคลื่อน เพราะมีกฎหมายอยู่ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ต้องมีคณะกรรมการที่อยู่ตรงกลาง โดยแต่งตั้งจากอำนาจฝ่ายบริหาร คือ นายกรัฐมนตรี เพื่อขับเคลื่อนงานด้านความมั่นคง และการพัฒนา เนื่องจากมีกฎหมายคนละฉบับ เพราะกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. มี พ.ร.บ.ความมั่นคง ในส่วนของ ศอ.บต.มี พ.ร.บ.ศอ.บต. โดยกลไกเดิมยังทำงานทั้งสิ้นไม่ได้ทับซ้อนในเรื่องรายละเอียด คิดว่า กปต.ดำเนินการอยู่และในส่วนของกระทรวง ทบวง กรม มีคณะทำงานอยู่แล้วเพราะเป็นเรื่องงบประมาณ
“ศปก.จชต.ตั้งขึ้นเพื่อให้งานไปในพื้นที่ที่เหมาะสมและทันเวลา ตรงความต้องการที่แท้จริงของประชาชน ไม่ได้หมายความว่ากลไกเดิมใช้ไม่ได้ เพียงแต่การปรับแก้ การติดตามในการแก้ไขปัญหาทำได้ช้ากว่า เพราะเป็นคณะใหญ่และเป็นแผนงานประจำปี แต่การตั้ง ศปก.จชต. เพื่อมาดูแผนงานอีกครั้งว่าเหมาะสมหรือไม่ ถ้าเหมาะสมจะทำช่วงนี้ ก็ปรับการทำงาน ส่วนพื้นที่ไหนยังไม่มีเหตุการณ์ก็ปล่อยไปก่อน ผมได้สั่งการแม่ทัพภาคที่ 4 ไปแล้ว และกำลังทำความเข้าใจกับ สปต.อยู่ ผมคิดว่าทาง สปต.คงจะเข้าใจ โดยส่วนตัวผมก็รู้จักกับนายอาซีส คิดว่าไม่มีปัญหา ขอร้องกันว่าเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติมาเป็นหลัก จะเอาแต่การเมืองไม่ได้ เพราะปัญหาภาคใต้ขณะนี้อ่อนไหว ขอร้องทุกฝ่ายอย่าเพิ่งมาว่ากันตอนนี้ ซึ่งเป็นสิ่งดีหากทุกคนมาร่วมมือกัน เพราะก่อนจะมี ศปก.จชต. ท่านก็จะไม่ได้รับทราบข้อมูลมากนะ เพราะมีแต่ทหารออกมาพูด แตวันนี้ทุกคนออกมาแสดงให้เห็นความเอาใจใส่ในการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ ทุกกระทรวง ทบวง กรม ยืนยันไม่ซ้ำซ้อนและมีอยู่แล้วในระบบการบริหารราชการ และไม่ได้ล้มล้างกฎหมายใดๆ ทหารไม่ได้ไปอยู่เหนือฝ่ายปกครอง ผมทำงานในฐานะรอง ผอ.กอ.รมน.” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การตั้ง ศปก.จชต.เพื่อเป็นส่วนบริหารมาทำความเข้าใจกับประชาชนในนามรัฐบาล ไม่เช่นนั้นก็จะมีแต่ทหารมาชี้แจง และถือเป็นสิ่งที่ดีที่จะมีช่องทางมาพูดคุย อย่ามาพูดว่าทหารจะไปสั่งพลเรือน เพราะไม่มีใครอยากสั่งใคร แต่จำเป็นต้องมีการบูรณาการให้เป็นเอกภาพ ไม่เช่นนั้นทำงานไม่ได้และอันตรายจะเกิดขึ้นกับประเทศชาติ จึงต้องมาร่วมกันรับผิดชอบ และหากมาพูดว่าทุกอย่างล้มเหลวแล้วใครจะทำ จะมีใครมาแก้ปัญหาให้กับประเทศไทยได้อีก หากไม่ใช้กลไกที่มีในวันนี้แล้วจะเอาใครมาแก้ ถ้าไม่ใช่ กอ.รมน. หรือ ศอ.บต.
สำหรับการประเมินผลงานใน ศปก.จชต. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มีคณะกรรมการประเมินผลอยู่แล้วทุกๆ 1-3 เดือน ว่างบประมาณและแผนงานที่ลงไปคุ้มค่าหรือไม่ หากไม่ได้ก็ปรับแก้ แต่อย่ามาถามว่าจะแก้ได้หรือไม่ เพราะประเทศรอบบ้านมีปัญหาแบบนี้มา 47 ปี แต่เราแค่ 7 ปี แล้วมาบอกว่ารัฐบาล ทหาร เจ้าหน้าที่ล้มเหลว ขอให้กลับไปดูประเทศรอบบ้านก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่ทำทุกวันนี้ไม่ได้คิดเองทั้งหมด แต่นำทุกอย่างมาประมวลผล อะไรที่รุนแรงและเป็นบทเรียนอย่าไปทำ ต้องใช้กฎหมายและความเข้าใจ สิ่งที่เกิดขึ้นในภาคใต้มีหลายกระบวนการที่เกี่ยวข้อง ทั้งประวัติศาสตร์ ชาติพันธ์ ผลประโยชน์ ซึ่งเราพยายามแกะรื้อ พยายามจะสางออก แต่หากนำไปพันกันไหม่ก็แก้ปัญหาไม่ได้
