ตรัง - บริษัทยุโสป อินเตอร์เนชั่นแนล กันตัง พอร์ต จำกัด ทุ่มงบ 70 ล้านบาท เพื่อยกเครื่องกลไกบริหารจัดการธุรกิจ เปิดตัวอาคารที่ทำการท่าเรือส่งออกแห่งใหม่ ขยายธุรกิจ ขานรับเออีซี
วันนี้ (30 ส.ค.) นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมศุลกากร เป็นประธานเปิดสำนักงาน บริษัท ยุโสปอินเตอร์เนชั่นแนล กันตัง พอร์ต จำกัด และบริษัท YKP ยิปซั่ม จำกัด ที่ ต.บ่อน้ำร้อน อ.กันตัง จ.ตรัง เพื่อส่งเสริมธุรกิจการขนส่งสินค้าทางทะเล และเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยมี นางอรทัย เอี่ยมตระกูล นายกเหล่ากาชาด จ.ตรัง หัวหน้าส่วนราชการ และนักธุรกิจให้การต้อนรับจำนวนมาก
นายยุโสป บัวเชย ประธานกรรมการ บริษัท ยุโสป อินเตอร์เนชั่นแนล กันตัง พอร์ต จำกัด ผู้ดำเนินการท่าเทียบเรือแห่งแรกของ อ.กันตัง จ.ตรัง เปิดเผยว่า การเปิดสำนักงานที่ทำการแห่งใหม่ของท่าเทียบเรือในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการ และพัฒนาศักยภาพในการขยายธุรกิจของท่าเทียบเรือ เพื่อให้เพียงพอต่อการรองรับตู้สินค้าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้ จากการเปิดเสรีตลาดของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558
ทั้งนี้ ทางบริษัทมีแผนที่จะลงทุน 70 ล้านบาท ในการเพิ่มพนักงาน และปรับปรุงระบบบริหารจัดการต่างๆ ของท่าเทียบเรือให้ทันสมัยมากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในประเทศ และต่างประเทศ โดยตั้งเป้าที่จะพัฒนาท่าเทียบเรือแห่งนี้ให้เป็นท่าเรือนานาชาติระดับแนวหน้า ซึ่งให้บริการด้วยคุณภาพยอดเยี่ยม มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ดำเนินงานโดยบุคลากรที่มีความชำนาญ และมากประสบการณ์
สำหรับการก่อสร้างท่าเรือแห่งใหม่ของบริษัท เกิดขึ้นจากที่ประชุมเวทีสามเหลี่ยม เศรษฐกิจอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ได้ลงความเห็นร่วมกันให้มีการริเริ่มโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือกันตังเพิ่มเติม เพื่อขยายขีดความสามารถ และเพิ่มประสิทธิภาพของท่าเรือชายฝั่ง จ.ตรัง ให้เป็นจุดเปลี่ยนถ่ายขนส่งสินค้าเชื่อมโยงถึงกันในพื้นที่เขตเศรษฐกิจ 3 ประเทศ และยังเป็นการแก้ไขปัญหาข้อจำกัดด้านพื้นที่ ตลอดจนปัญหามลพิษซึ่งได้รับการร้องเรียนจากท่าเทียบเรือกันตังเดิม เพราะอยู่ติดพื้นที่ชุมชนในเขตเทศบาล
โดยการก่อสร้างท่าเทียบเรือแห่งใหม่นี้ อยู่ห่างจากท่าเทียบเรือเดิม 2 กม. มีพื้นที่โดยรอบกว้างขวางเพียงพอต่อการขยายในอนาคต และสามารถกินน้ำลึกได้มากกว่า เรือขนาด 12,000 ตัน จำนวน 2-3 ลำ สามารถเข้าจอดเทียบท่าได้พร้อมกัน ขณะที่ท่าเทียบเรือกันตังเดิม มีเฉพาะเรือขนาด 7,700 ตันเท่านั้น ที่เข้าจอดเทียบท่าได้
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า อำเภอกันตังถือ เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญระดับภูมิภาคของธุรกิจการขนส่ง และการส่งออกสินค้าขนาดใหญ่ทางทะเล ซึ่งสามารถสร้างรายได้ และมีส่วนส่งเสริมเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดตรังได้เป็นอย่างดี โดยปัจจุบัน ท่าเทียบเรือกันตังมียอดส่งออกสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านในอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสถิติของด่านศุลกากรกันตัง ช่วงเดือน ต.ค.54-55 ปริมาณการส่งออกสินค้าคิดเป็นมูลค่ารวม 25,144 ล้านบาท พร้อมกับคาดว่าสิ้นปีนี้ มูลค่าการส่งออกโดยรวมของจังหวัดตรัง จะอยู่ที่ปริมาณ 30,000 ล้านบาท
ดังนั้น การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอีก 3 ปีข้างหน้า จึงถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่หน่วยงานทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ และเอกชนต้องร่วมมือกันเพิ่มพูนประสิทธิภาพการทำงานให้เป็นสากล เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าให้มีความรวดเร็ว เพื่อให้สามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ และรักษาสถานะความเป็นผู้นำในกิจการขนส่งทางทะเลของไทยให้คงอยู่ ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น