นครศรีธรรมราช - วิกฤตป่าพรุคลี่คลายแล้ว คาดสามารถปิดภารกิจได้ในค่ำวันนี้ หลังจากเร่งดับไฟมุดดินเป็นจุดสุดท้ายเหลือเนื้อที่เพียงประมาณ 1 ไร่เท่านั้น ขณะที่เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ลงแปลงป่าพระราชดำริตรวจสอบความเสียหาย ส่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษดอดลงพื้นที่เตรียมเดินหน้าทำคดีบุกรุกแล้ว
เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าจากหลายจังหวัดในภาคเหนือ ได้ร่วมกันเร่งดับไฟมุดดินซึ่งเหลือเป็นจุดสุดท้ายอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าท่าช้างข้าม ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช จากทุกจุดที่ดับสนิทแล้ว ยังเหลือเพียงจุดนี้เท่านั้น
นายธนากร รักธรรม หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เปิดเผยว่า สถานการณ์ทั้งหมดกำลังจะจบลงในคืนนี้ยังคงมีพื้นที่ที่มีลักษณะของไฟมุดใต้ดินอีกเพียง 1 จุดเท่านั้น อยู่ในแปลงป่าศึกษาพันธุ์ไม้เสม็ดขาวของมูลนิธิชัยพัฒนาในพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขอบเขตของแนวไฟที่มุดลงใต้ดินมีอยู่ประมาณ 1 ไร่เศษเท่านั้น โดยมีหลุมไฟกระจายอยู่ประมาณ 6-7 หลุม ซึ่งในช่วงค่ำวันนี้จะสามารถจัดการทั้งหมดได้อย่างเด็ดขาด และยุติสถานการณ์ได้ ขณะเดียวกัน ยังไม่พบไฟแนวใหม่เกิดขึ้นตลอดทั้งวันนี้
ขณะที่ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ได้เดินทางลงพื้นที่มาตรวจสอบพื้นที่แปลงป่าศึกษาพันธุ์ไม้เสม็ดขาวครบวงจร ในพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเตรียมสรุปเป็นรายงานทูลเกล้าเพื่อทรงทราบฝ่าพระบาทอีกครั้ง
ด้านนายไพศาล สถิตวิบูลย์ ผอ.สำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า หลังจากนี้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องจะทยอยลงมาในพื้นที่เพิ่มเติมซึ่งจะต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การลาดตระเวนพบแปลงบุกรุกจะดำเนินการทันที และอีกชุดหากมีการครอบครองพื้นที่จะเข้าตรวจสอบว่าตรอบครองอย่างถูกต้องหรือไม่
“ในวันพรุ่งนี้จะมีการบินสำรวจว่าโซนป่าที่ยังไม่ไหม้ไม่ได้รับความเสียหายเหลืออยู่อย่างไรมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะต้องมีมาตรการป้องกันรักษาอย่างเข้มข้น ทั้งหมดจะถูกรีเอกซเรย์ พื้นที่กรมอุทยาน พื้นที่กรมป่าไม้ จะต้องเร่งตรวจสอบ ซึ่งหากจะอ้างว่าทำกินมานานแล้วแต่ไม่มีเอกสารสิทธิ จะต้องมาพิสูจน์กันด้วยหลักฐานโดยเฉพาะภาพถ่ายทางอากาศว่ามีการทำกินหรือไม่ หรือเป็นป่าที่สมบูรณ์ไม่สามารถจะมาอ้างได้ทุกอย่างมีหลักฐาน” นายไพศาลกล่าว
ส่วนความคืบหน้าในการตรวจสอบพื้นที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุดม เพชรคุตม์ ผู้อำนวยการสำนักสอบสวนคดีพิเศษภาคใต้ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้ลงพื้นที่นครศรีธรรมราชตั้งแต่วานนี้ (20 ส.ค.) โดยได้เข้าสำรวจพื้นที่และวางแผนการสืบสวนสอบสวน โดยมีรายงานว่า การเริ่มต้นนั้นจะเริ่มต้นสอบสวนตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลของกระบวนการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 2 หน่วยงาน เพื่อเอาผิดเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าจากหลายจังหวัดในภาคเหนือ ได้ร่วมกันเร่งดับไฟมุดดินซึ่งเหลือเป็นจุดสุดท้ายอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าท่าช้างข้าม ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช จากทุกจุดที่ดับสนิทแล้ว ยังเหลือเพียงจุดนี้เท่านั้น
นายธนากร รักธรรม หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เปิดเผยว่า สถานการณ์ทั้งหมดกำลังจะจบลงในคืนนี้ยังคงมีพื้นที่ที่มีลักษณะของไฟมุดใต้ดินอีกเพียง 1 จุดเท่านั้น อยู่ในแปลงป่าศึกษาพันธุ์ไม้เสม็ดขาวของมูลนิธิชัยพัฒนาในพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขอบเขตของแนวไฟที่มุดลงใต้ดินมีอยู่ประมาณ 1 ไร่เศษเท่านั้น โดยมีหลุมไฟกระจายอยู่ประมาณ 6-7 หลุม ซึ่งในช่วงค่ำวันนี้จะสามารถจัดการทั้งหมดได้อย่างเด็ดขาด และยุติสถานการณ์ได้ ขณะเดียวกัน ยังไม่พบไฟแนวใหม่เกิดขึ้นตลอดทั้งวันนี้
ขณะที่ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ได้เดินทางลงพื้นที่มาตรวจสอบพื้นที่แปลงป่าศึกษาพันธุ์ไม้เสม็ดขาวครบวงจร ในพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเตรียมสรุปเป็นรายงานทูลเกล้าเพื่อทรงทราบฝ่าพระบาทอีกครั้ง
ด้านนายไพศาล สถิตวิบูลย์ ผอ.สำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า หลังจากนี้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องจะทยอยลงมาในพื้นที่เพิ่มเติมซึ่งจะต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การลาดตระเวนพบแปลงบุกรุกจะดำเนินการทันที และอีกชุดหากมีการครอบครองพื้นที่จะเข้าตรวจสอบว่าตรอบครองอย่างถูกต้องหรือไม่
“ในวันพรุ่งนี้จะมีการบินสำรวจว่าโซนป่าที่ยังไม่ไหม้ไม่ได้รับความเสียหายเหลืออยู่อย่างไรมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะต้องมีมาตรการป้องกันรักษาอย่างเข้มข้น ทั้งหมดจะถูกรีเอกซเรย์ พื้นที่กรมอุทยาน พื้นที่กรมป่าไม้ จะต้องเร่งตรวจสอบ ซึ่งหากจะอ้างว่าทำกินมานานแล้วแต่ไม่มีเอกสารสิทธิ จะต้องมาพิสูจน์กันด้วยหลักฐานโดยเฉพาะภาพถ่ายทางอากาศว่ามีการทำกินหรือไม่ หรือเป็นป่าที่สมบูรณ์ไม่สามารถจะมาอ้างได้ทุกอย่างมีหลักฐาน” นายไพศาลกล่าว
ส่วนความคืบหน้าในการตรวจสอบพื้นที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุดม เพชรคุตม์ ผู้อำนวยการสำนักสอบสวนคดีพิเศษภาคใต้ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้ลงพื้นที่นครศรีธรรมราชตั้งแต่วานนี้ (20 ส.ค.) โดยได้เข้าสำรวจพื้นที่และวางแผนการสืบสวนสอบสวน โดยมีรายงานว่า การเริ่มต้นนั้นจะเริ่มต้นสอบสวนตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลของกระบวนการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 2 หน่วยงาน เพื่อเอาผิดเจ้าหน้าที่