ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เครือข่ายชาวสวนยางจังหวัดสงขลา ยกทัพบุกศาลากลางยื่น 3 ข้อเสนอ ยอมสลายตัวหลัง ผู้ว่าราชการจังหวัดรับจะช่วยประสานข้อเรียกร้องถึงคณะรัฐบาล ขู่หากไม่ได้คำตอบภายในที่กำหนด จะบุกทำเนียบรัฐบาลทันที
ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดสงขลา อ.เมืองสงขลา เวลา 15.30 น.วันนี้ (20 ส.ค.) นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายพิรสิญจ์ พันธ์เพ็ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และหัวหน้าส่วนราชการ ได้ประชุมหารือร่วมกับ ตัวแทนเครือข่ายชาวสวนยางจังหวัดสงขลา จำนวน 10 คน ซึ่งนำโดย นายปรีชา สุขเกษม แกนนำกลุ่มเครือข่ายฯ ซึ่งจากการหารือกลุ่มเครือข่ายฯ ได้เสนอข้อเรียกร้องตามที่ทางกลุ่มได้ทำหนังสือยื่นเสนอต่อรัฐบาล ผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดก็ยินดีรับเรื่องเพื่อส่งต่อไปยังรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี เพื่อให้พิจารณาถึงข้อเรียกร้องของกลุ่มเครือข่ายฯ ต่อไป
จากนั้น เวลา 16.30 น.วันเดียวกัน นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ลงมาพบกับกลุ่มเครือข่ายชาวสวนยางจังหวัดสงขลา กว่า 500 คน ที่ชุมนุมอยู่หน้าศาลากลางจังหวัดสงขลา เพื่อเจรจา และชี้แจงถึงแนวทางที่ทางจังหวัดได้ดำเนินการเพื่อเป็นการช่วยเหลือพี่น้องชาวสวนยาง โดยยื่นเรื่องซึ่งเป็นข้อเสนอจากทางกลุ่มเครือข่ายฯ ถึงคณะรัฐบาล ซึงมีข้อเรียกร้อง คือ ให้นายกรัฐมนตรีทบทวน หรือยกเลิกโครงการ 15,000 ล้านบาท ภายใน 15 วัน เนื่องจากโครงการล้มเหลว ไม่สามารถชี้นำตลาด และสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง
2.ปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ และคณะทำงานที่เกี่ยวข้องออก และจัดคณะทำงานที่มีประสิทธิภาพในการทำงานแทนโดยด่วน และให้นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามทุกข้อเรียกร้องผ่านรายการนายกฯ ยิ่งลักษณ์พบประชาชนในวันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคมนี้ ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที และให้ตอบเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาด้วย หากไม่ได้รับการแก้ไข ทางเครือข่ายชาวสวนยางจะยกระดับการเรียกร้องโดยการรวมตัวเคลื่อนเข้าสู่ กทม.ไปเรียกร้องที่หน้าทำเนียบรัฐบาล และหน้าบ้านนายกรัฐมนตรี
หลังจากนั้น เครือข่ายชาวสวนยางจังหวัดสงขลา ซึ่งพอใจในแนวทางการดำเนินการของทางจังหวัดสงขลา จึงยอมสลายตัวในที่สุด โดยแกนนำได้ประกาศก่อนการสลายในครั้งนี้ว่า หากไม่มีการดำเนินการตามข้อเรียกร้อง ก็จะกลับมารวมตัวกัน และพร้อมจะยกระดับการเรียกร้องโดยการตัวเคลื่อนเข้าสู่ กทม.ไปเรียกร้องที่หน้าทำเนียบรัฐบาล และหน้าบ้านนายกรัฐมนตรีตามที่ได้อ้างไว้ในหนังสือ