xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” ลงมาบตาพุดรับปัญหาทุกเรื่อง โปรยยาหอมม็อบจะนำไปแก้ไข

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - “นายกฯ ปู” ลงพื้นที่มาบตาพุด รับปัญหาที่ชาวบ้านนำมายื่นทุกเรื่องเพื่อนำไปแก้ไข แต่กลุ่มผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนไม่มั่นใจ พร้อมให้เวลา 1 สัปดาห์ หากไม่คืบหน้าพร้อมรวมตัวเข้าทำเนียบฯ


วันนี้ (17 มิ.ย.) ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้เดินทางมารับทราบความคืบหน้า และแนวทางในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และเสียชีวิต และแนวทางการแก้ไขในระยะสั้น และระยะยาวจากโรงงาน บีเอสที อิลาสโตเมอร์ส จำกัด ที่เกิดโรงงานระเบิดขึ้น และโรงงานอดิตยา เบอร์ล่า ซึ่ง มีแก๊สรั่ว เมื่อเร็วๆ นี้

โดยมีนายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และนายวีระพงษ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นผู้กล่าวรายงานชี้แจง และแนวทางในการแก้ไขในระยะสั้น และระยะยาว โดยใช้เวลาในการฟังคำชี้แจง และแนวทางในการแก้ไขต่างๆ เป็นเวลาประมาณ 45 นาที หลังจากนั้น ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชม ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจ (ศฉก.) ในการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งเป็นศูนย์ที่ดูแลปัญหา และเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ในนิคมฯ

ในการเดินทางมาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้รับความสนใจจากประชาชนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ และโรงงานที่จะเกิดขึ้นใหม่ในพื้นที่จังหวัดระยอง โดยมีประชาชน และกลุ่มตัวแทนต่างๆ มาคอยมายื่นหนังสือเพื่อขอความช่วยเหลือจากนายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น

ชาวบ้านมายื่นหนังสือ

ด้านนายประทีป เกาะแก้ว ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน จากการซื้อโครงการหมู่บ้านจัดสรร ในพื้นที่บ้านฉาง เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องเอกสารสิทธิที่ดิน เพราะที่ดินของหมู่บ้านจัดสรรดังกล่าวเป็นที่ดินป่าสงวน แต่เจ้าของโครงการได้ขอออกเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดิน และจัดสรรสร้างเป็นหมู่บ้าน ขายให้แก่ประชาชน สร้างความเดือดร้อนจากผู้ที่ซื้อโครงการดังกล่าว เนื่องจากไม่สามารถจะนำบ้านหลักดังกล่าวไปขายต่อได้ หรือนำไปทำธุรกรรมทางการเงินก็ไม่ได้

ปัญหาที่เกิดขึ้นสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนกว่าร้อยครัวเรือน เนื่องจากโครงการดังกล่าวมีบ้านทั้งสิ้น 125 หลังคาเรือน ในพื้นที่จำนวน 20 ไร่ ซึ่งที่ผ่านมา ได้เข้าร้องเรียนต่ออธิบดีกรมที่ดิน, อธิบดีกรมป่าไม้, เจ้าหน้าที่ DSI และศาลปกครองจังหวัดระยอง แต่ก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือ หรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวเลย

นายประทีป กล่าวต่อว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2547 ประชาชนไม่สามารถทำอะไรกับบ้านหลังดังกล่าวได้เลย และในอนาคตก็ไม่ทราบว่า จะอยู่บ้านหลังดังกล่าวได้หรือไม่อย่างไร เพราะไม่มีเอกสารสิทธิในการครอบครองบ้านหลังนี้ เนื่องจากเป็นที่ดินป่าสงวน ดังนั้น จึงต้องมายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับเรื่องดังกล่าว และขอเวลาในการตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนดังกล่าวต่อไป

หลังจากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ออกไปรับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้านบริเวณด้านหน้าสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ที่มีกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากโรงงานอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นมาแล้ว และกำลังจะเกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งทุกโรงงานสร้างปัญหาเป็นอย่างมาก ดังนั้น จึงต้องมายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือต่อไป

สำหรับกลุ่มชาวบ้านที่รวมตัวมายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก ซึ่งมายื่นหนังสือให้ดำเนินการกับโรงงานบีเอสที อิลาส โตเมอร์ส จำกัด ที่เกิดโรงงานระเบิดขึ้น และโรงงานอดิตยา เบอร์ล่า ที่มีแก๊สรั่ว ทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก โดยขอให้ 1.เปิดเผยข้อมูลของโรงงานอย่างโปร่งใส 2.ให้นำแผนป้องกันภัยและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ มาบังคับใช้อย่างจริงจัง 3.ฟื้นฟูและบำบัดเหตุการณ์ ท้างด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และสังคม 4.สร้างระบบชดเชย การเยียวยาอย่างเป็นระบบ เป็นธรรม และยั่งยืน ต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรง และทางอ้อม

5.ดำเนินคดีทางกฎหมายต่อหน่วยงานที่กระทำผิดฐานละเลย 6.จัดทำผังเมืองและแนวป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ จัดทำแนวกันชน และแนวป้องกัน 7.ทำบัญชีการถือครองวัตถุอันตราย บัญชีการระบายมลพิษ และแจ้งข้อมูลให้ประชาชน หน่วยงานสาธารณสุขได้รับทราบ รวมทั้งจัดอบรมการเรียนรู้ด้านสารเคมีต่อชุมชน 8.เปิดเผยรายชื่อคณะกรรมการไตรภาคีที่จะทำการตรวจสอบโรงงานทั้งหมดต่อสาธารณะชน

9.ทบทวน ระงับนโยบายการลงทุนอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ทั้งในนิคมฯ และนอกนิคมฯ และ 10.รัฐบาลควรตั้งกลไกเฉพาะกิจแบบบูรณาการ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหามาบตาพุดและจังหวัดระยอง โดยมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย มียานกรัฐมนตรีเป็นประธาน

นอกจากนั้น ยังมีกลุ่มประชาชนมายื่นหนังสือ เช่น 1.โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินโค้ก 2.นิคมอุตสาหกรรมหลักเมืองยาง 3.นิคมอุตสาหกรรม ไออาร์พีซี ที่อำเภอบ้านค่าย โดยตัวแทนชาวบ้านที่ยื่นหนังสือครั้งนี้ ต้องการให้รัฐบาลยกเลิกโครงการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ส่วนด้านกลุ่มประมงเรือเล็ก จ.ระยอง คัดค้านการจดทะเบียนเรืออวนลาก ซึ่งเป็นเรือที่ทำผิดกฎหมาย โดยขอให้รัฐบาลสั่งการให้กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยุติความพยายามที่จะเพิ่มจำนวนเรือดังกล่าว

“ปู” โปรยยาหอมม็อบจะนำไปแก้ไข

ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวหลังจากรับฟังบรรยายสรุปการแก้ไขปัญหาโรงงานบีเอสที อิลาสโตเมอร์ส จำกัด ที่เกิดโรงงานระเบิดขึ้น และโรงงานอดิตยา เบอร์ล่า ซึ่งมีแก๊สรั่ว โดยนายกฯ พอใจกับแผนงานดังกล่าวที่หน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบดำเนินการแก้ไข แต่ขอให้หน่วยงานต่างๆ เพิ่มแผนงานการป้องกันด้านอุบัติภัยเพิ่มเติมในแผนงานด้วย เพราะที่ผ่านมา มีแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกดจากโรงงานอุตสาหกรรมเท่านั้น จึงขอเพิ่มแผนงานด้านอุบัติภัย ที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกๆ เวลาได้

พร้อมทั้งขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งจังหวัดและนิคมอุตาสาหรรม ให้มีการเข้มงวดในการป้องกันผลกระทบสิ่งแวดกับโรงงานอุตสาหกรรมที่จะเกิดขึ้นใหม่ ส่วนของเก่าก็ให้เร่งแก้ไข้ให้ถูกต้อง นอกจากนี้ ขอให้จังหวัดระยองเป็นจังหวัดนำร่องในเรื่องการจัดทำผังเมืองที่มีการแบ่งโซนพื้นที่ให้ชัดเจน

ขีดเส้น 1 สัปดาห์ไม่คีบหน้าก่อนบุกทำเนียบฯ

ด้านนายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก กล่าวถึงการยื่นหนังสือต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในครั้งนี้ ตนให้เวลาหลังจากนี้ 1 สัปดาห์หากข้อเรียกร้องที่ยื่นไปนั้น ไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง กลุ่มประชาชนจะเดินทางไปชุมนุมยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อติดตาม กดดันให้มีการแก้ไขอย่างจริงจังต่อไป

ที่ผ่านมา ได้เรียกร้องต่อหน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบ แต่ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในแนวทางที่ดีขึ้น ดังนั้น เมื่อนายกรัฐมนตรี มารับหนังสือด้วยตัวเอง ก็ควรจะต้องเร่งแก้ไขให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนโดยด่วน เพื่อความถูกต้องและชอบธรรม ดังนั้น ภายใน 1 สัปดาห์นี้ ควรจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงให้ประชาชนได้เห็น






กำลังโหลดความคิดเห็น