5 นร.บดินทรฯ บุกทำเนียบฯอดข้าวประท้วง หลังไม่ได้เข้าเรียน ม.4 จี้แก้ระเบียบ ศธ.ที่ให้เด็กจบ ม. 3 ต้องสอบเข้า ม.4 ใหม่ อ้างขัด รธน. พร้อมเรียกร้องให้ นร.สามารถเข้าเรียนโรงเรียนเดิมได้โดยไม่ต้องเสียแป๊ะเจี๊ยะ ขณะที่ รองเลขาฯ สพฐ.รุดแจง จนท.เข้าตรวจสอบโรงเรียนแล้ว จันทร์นี้รู้เรื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ (19 พ.ค.) ที่บริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ด้านถ.พิษณุโลก มีกลุ่มผู้ปกครอง พร้อมบุตรหลาน ที่เป็นนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชา (สิง สิงหเสนีย์) จำนวนหนึ่งมาประท้วงพร้อมเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เร่งตรวจสอบทุจริตเรื่องการแทรกสิทธินักเรียนชั้น ม.3 ของร.ร.ดังกล่าว เข้าเรียนต่อชั้น ม.4 ในโรงเรียนเดิม โดยมีนักเรียนชาย 5 คนร่วมกันอดข้าวประท้วง ประกอบด้วย ด.ช.เอกมันต์ นิยมราช ด.ช.วิศรุต กุสบุตร ด.ช.อภิวัฒน์ ซอรานานุศักดิ์ ด.ช.กุศลสุก เรืองศรี และด.ช. เกียรติอนัน จันทรา
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นของชาติ(ภตช.)ในฐานะที่ ปรึกษาเครือข่ายผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนีย์) กล่าวว่ากลุ่มผู้ปกครองเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี นำระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการที่กำหนดขึ้นเอง ว่า เมื่อจบม.3 ขึ้นม.4 ต้องสอบกลับเข้ามาใหม่ทุกคนและถ้าไม่ผ่านก็จะไล่ออกนั้นเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) และทำการยกเลิกเป็นมติครม. ซึ่งเรื่องนี้ขัดพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 หมวด 2 สิทธิและหน้าที่การศึกษา มาตรา 10 และขัดรัฐธรรมนูญ 2550 หมวดสิทธิและเสรีภาพในการศึกษา ม.49 บัญญัติว่า บุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับการศึกษาไม่น้อยกว่าสิบสองปีที่รัฐต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ โดยต้องไม่เก็บค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้เห็นว่าเด็กนักเรียนเก่าที่เรียนจบ ม.3 จะต้องได้ต่อ ม.4 ตามอัตโนมัติโดยไม่มีการเรียกเก็บค่าแป๊ะเจี๊ยะ ส่วนผู้ปกครองของนักเรียนทั่วประเทศที่จ่ายเงินค่าแป๊ะเจี๊ยะให้กับโรงเรียนเพื่อให้บุตรเลื่อนชั้นในราคาตั้งแต่ 5 พัน -2 ล้านบาท ก็ ให้เรียกคืนจากผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งถ้าไม่คืนให้ไปแจ้งความข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนได้
โดยกลุ่มผู้ปกครองจะพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งหากไม่มีความชัดเจนภายใน 7 วันก็มีมาตรการกดดันที่รุนแรงขึ้นไปอีก แต่หากนายกรัฐมนตรียกเลิกประกาศดังกล่าว พวกตนก็จะเดินทางกลับบ้านทันที
ด้านนายณงค์ นิยมราช ผู้ปกครองด.ช.เอกมันต์ นิยมราช กล่าวด้วยน้ำเสียสั่นเครือว่า การประกาศของกระทรวงศึกษาธิการที่มีการระบุว่าทำไมไม่มีการคัดค้านตั้งแต่มีการประกาศนั้น ตนก็ต้องขอโทษเพราะไม่รู้ว่ามีการประกาศเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ซึ่งตนเป็นคนทำงานหาเช้ากินค่ำ กฎระเบียบที่ประกาศออกมาเพื่อบังคับใช้กับประชาชนทำให้ขัดกับความรู้สึกและขัดรัฐธรรมนูญ 2550 เมื่อมีปัญหาในการเรียกแป๊ะเจี๊ย ตนก็ขนหัวลุกเพราะไม่มีปัญญาที่จะจ่ายในจำนวน 5-6 หลัก เพราะเป็นเพียงคนทำงานกินเงินเดือน
“การที่ผอ.โรงเรียน บอกว่านักเรียนกลุ่มนี้ไม่มีสิทธิเรียนต่อ เพราะเกรดเฉลี่ยไม่เท่ากับคนอื่นนั้น เห็นว่าในอนาคตเด็กก็จะเป็นคนดีได้ แต่หากในอนาคตยังใช้ระเบียบแบบนี้อยู่ และเด็กรู้สึกผิดหวัง ประชดชีวิต ทำให้เป็นปัญหาของสังคม ผู้บริหารระดับสูงจะใจร้ายต่อนักเรียนหรือไม่ ขอให้เมตตาต่อเด็กด้วย”
ส่วนที่ นายสุวัฒน์ วิวัฒนานนท์ ผอ.ร.ร.บดินทรเดชาฯ ระบุจะมีการฟ้องร้องกลับเครือข่ายผู้ปกครองเพราะทำให้โรงเรียนเสียหาย นายณรงค์ กล่าวว่าตนไม่รู้ว่าขณะนี้ นายสุวัฒน์ ได้ยกให้พวกตนเป็นเครือข่ายแล้วหรือไม่ พวกตนมาเรียกร้องเพื่อความเป็นธรรม ไม่เห็นว่าโรงเรียนจะเสียหายอย่างไร เพราะโรงเรียนก็เป็นแค่ตัวตึกอาคารเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ผู้ปกครองกำลังประท้วงอยู่นั้น นายอนันต์ ระงับทุกข์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ได้เดินทางมาสังเกตการณ์ประท้วงด้วย พร้อมกับกล่าวกับผู้ปกครองว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดหากมีหลักฐานก็ขอให้ยื่นร้องเรียนได้ เพราะหากไม่มีหลักฐาน ตนเกรงว่าก็จะมีการฟ้องร้องกลับได้ โดยในวันนี้(19.พ.ค.) เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบข้อมูลที่โรงเรียนแล้ว และคาดว่าในวันจันทร์จะสามารถรายงานผลการตรวจสอบกลับมาได้ ขณะที่ ผอ.โรงเรียนบดินทรฯ ก็ได้พูดคุยกับนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ และคิดว่าจะมีการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดด้วย
ส่วนข้อเรียกร้องที่ให้ยกเลิกประกาศของกระทรวงนั้น ต้องเข้าใจในหลักการบ้านเมืองด้วย เพราะได้มีการประกาศรับนักเรียนตั้งแต่เดือนม.ค. ทุกคนก็รับทราบว่าจะมีการทำอย่างนี้ไม่เห็นมีใครคัดค้าน ทุกโรงเรียนก็ทำตามประกาศ ซึ่งการขอให้ยกเลิกจะเป็นการทำลายหลักการของบ้านเมืองหรือไม่ ก็ขอให้คิดเรื่องนี้ด้วย ขณะที่การจ่ายเงินแป๊ะเจี๊ยะ หากมีจริงก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย