ASTVผู้จัดการรายวัน-"ยิ่งลักษณ์" ทัวร์ภาคตะวันออก รับเรื่องร้องเรียนจากหลายกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาสิ่งแวดล้อม ถูกขีดเส้น 1 สัปดาห์ไม่คืบหน้า เจอบุกทำเนียบฯ ด้านความพร้อมประชุม ครม.สัญจรชลบุรี เน้นท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้าทำรายได้ 2 ล้านล้านใน 5 ปี
วานนี้ (17 มิ.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อการประชุมครม.นอกสถานที่ ที่ จ.ชลบุรี ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 มิ.ย. โดยได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ไปยังศาลากลางจังหวัดระยอง แล้วเดินทางโดยรถยนต์ ไปพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองฯ จ.ระยอง เพื่อติดตาม ความคืบหน้าการดำเนินงาน หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ บริษัท บีเอสที อิลาสโตเมอร์ จำกัด เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา เกี่ยวกับแผนปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน อาทิ การสำรวจประเมินความเสี่ยงของโรงงาน การจัดการอบรมผู้ปฏิบัติงานในโรงงาน การแจกจ่ายเอกสารให้ความ รู้แก่ประชาชน การซักซ้อมแผนการเตือนภัยฉุกเฉินอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการชดเชย เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ปลูกต้นมะฮอกกานี ที่หน้าสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เพื่อเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสฉลองวันคล้ายวันเกิดล่วงหน้าครบ 45 ปี ในวันที่ 21 มิ.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังปลูกต้นมะฮอกกานี นายกรัฐมนตรี ได้ออกมารับหนังสือเรียกร้องจากสมาคมสิ่งแวดล้อมภาคตะวันออก และเครือข่ายชุมชนรักษ์สิ่งแวดล้อม เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก ซึ่งมายื่นหนังสือให้ดำเนินการกับโรงงานบีเอสที อิลาส โตเมอร์ส จำกัด ที่เกิดโรงงานระเบิดขึ้น และโรงงานอดิตยา เบอร์ล่า ที่มีแก๊สรั่ว ทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
นอกจากนั้น ยังมีกลุ่มประชาชนมายื่นหนังสือ เช่น 1.โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินโค้ก 2.นิคมอุตสาหกรรมหลักเมืองยาง 3.นิคมอุตสาหกรรม ไออาร์พีซี ที่อำเภอบ้านค่าย โดยตัวแทนชาวบ้านที่ยื่นหนังสือครั้งนี้ ต้องการให้รัฐบาลยกเลิกโครงการก่อสร้างโครงการดังกล่าว
ส่วนด้านกลุ่มประมงเรือเล็ก จ.ระยอง คัดค้านการจดทะเบียนเรืออวนลาก ซึ่งเป็นเรือที่ทำผิดกฎหมาย โดยขอให้รัฐบาลสั่งการให้กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยุติความพยายามที่จะเพิ่มจำนวนเรือ
***ขีดเส้น 1 สัปดาห์ไม่คืบบุกทำเนียบฯ
นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก กล่าวถึงการยื่นหนังสือต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในครั้งนี้ ตนให้เวลาหลังจากนี้ 1 สัปดาห์หากข้อเรียกร้องที่ยื่นไปนั้น ไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง กลุ่มประชาชนจะเดินทางไปชุมนุมยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อติดตาม กดดันให้มีการแก้ไขอย่างจริงจังต่อไป
"ที่ผ่านมา ได้เรียกร้องต่อหน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบ แต่ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในแนวทางที่ดีขึ้น ดังนั้น เมื่อนายกรัฐมนตรี มารับหนังสือด้วยตัวเอง ก็ควรจะต้องเร่งแก้ไขให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนโดยด่วน เพื่อความถูกต้องและชอบธรรม ดังนั้น ภายใน 1 สัปดาห์นี้ ควรจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงให้ประชาชนได้เห็น" นายสุทธิกล่าว
**ตั้งเป้ารายได้ท่องเที่ยว 2 ล้านล้าน
ต่อมาเวลา 15.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางไปที่ โรงแรมรอยัล คลิฟ โฮเต็ล กรุ๊ป จ.ชลบุรี เพื่อเป็นประธานในการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการท่องเที่ยว เพื่อขับเคลื่อนนโยบายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 2 ล้านล้านบาท ภายในปี 2558 โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า ยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะสำเร็จภายใน 5 ปี คือตั้งแต่ปี2554-2558 โดยเน้นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และธรรมชาติ
**ตั้งคณะทำงานดู 5 ยุทธศาสตร์หลัก
น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการท่องเที่ยว ว่า นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในที่ประชุมว่า ในปีนี้ไม่ได้คาดหวังเพียงจำนวนเงินรายได้ แต่หมายถึงชื่อเสียงของประเทศ จากการดำเนินการเรื่องการท่องเที่ยว จนกระทั่งบรรลุวัตถุประสงค์ เพราะการที่นักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศนั้น เรามีรายได้ และสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยว ผลสัมฤทธิ์ที่จะได้ตามมาคือ สร้างความผูกพันกับนักท่องเที่ยว โดยจะนำมาซึ่งการลงทุน และโอกาสทางด้านอื่นๆของประเทศ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี อยากเห็นการบูรณาการในจุดแข็งต่างๆ ของประเทศไทย เข้ามาด้วยกันในอุตสาหกรรมด้านท่องเที่ยว รวมถึงวัฒนธรรม เอกลักษณ์ และอยากให้เน้นการท่องเที่ยวเชิงสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ ความปลอดภัย และการท่องเที่ยวในเชิงสุขภาพ เพื่อเป็นการต่อยอดเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมของการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจะมีส่วนในการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาภูมิปัญญาของท้องถิ่น โดยเชื่อว่าจะบรรลุผลหากทุกส่วนร่วมมือกันขับเคลื่อน
พร้อมกันนี้ ได้มีการตั้งคณะทำงาน เพื่อรับผิดชอบในยุทธศาสตร์ทั้ง 5 ข้อ ได้แก่ การส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยว การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การพัฒนาโครงข่ายโลจิสติกส์เพื่อรองรับการท่องเที่ยว การสร้างความเชื่อมั่นในด้านความปลอดภัย สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว และการบริหารจัดการให้สำเร็จต่อไป
**เสนอทำ 84 เส้นทางท่องเที่ยว
นางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กล่าวถึง การประชุมครม.นอกสถานที่ครั้งนี้ ว่า ทางภาคตะวันออกรวมถึงจ.ชลบุรี ได้มีการเสนอโครงการต่างๆ ในเรื่องสาธารณูปโภคเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเรื่องน้ำ เพื่อเอื้อในเรื่องของการท่องเที่ยว และด้านเศรษฐกิจ อาทิ โครงการอ่างเก็บน้ำมาบประชัน เพื่อศักยภาพการผลิตและปริมาณน้ำ ให้มากขึ้น
นอกจากนี้ ในการประชุมเวิร์กชอปการท่องเที่ยวนั้น ก็จะมีการหาแนวทางในการสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ มากขึ้น โดยกระทรวงวัฒนธรรม ได้เตรียมทำเส้นทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม 84 เส้นทางทั่วประเทศ เพื่อเป็นการส่งเสริมในเรื่องนี้.
วานนี้ (17 มิ.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อการประชุมครม.นอกสถานที่ ที่ จ.ชลบุรี ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 มิ.ย. โดยได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ไปยังศาลากลางจังหวัดระยอง แล้วเดินทางโดยรถยนต์ ไปพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองฯ จ.ระยอง เพื่อติดตาม ความคืบหน้าการดำเนินงาน หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ บริษัท บีเอสที อิลาสโตเมอร์ จำกัด เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา เกี่ยวกับแผนปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน อาทิ การสำรวจประเมินความเสี่ยงของโรงงาน การจัดการอบรมผู้ปฏิบัติงานในโรงงาน การแจกจ่ายเอกสารให้ความ รู้แก่ประชาชน การซักซ้อมแผนการเตือนภัยฉุกเฉินอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการชดเชย เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ปลูกต้นมะฮอกกานี ที่หน้าสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เพื่อเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสฉลองวันคล้ายวันเกิดล่วงหน้าครบ 45 ปี ในวันที่ 21 มิ.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังปลูกต้นมะฮอกกานี นายกรัฐมนตรี ได้ออกมารับหนังสือเรียกร้องจากสมาคมสิ่งแวดล้อมภาคตะวันออก และเครือข่ายชุมชนรักษ์สิ่งแวดล้อม เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก ซึ่งมายื่นหนังสือให้ดำเนินการกับโรงงานบีเอสที อิลาส โตเมอร์ส จำกัด ที่เกิดโรงงานระเบิดขึ้น และโรงงานอดิตยา เบอร์ล่า ที่มีแก๊สรั่ว ทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
นอกจากนั้น ยังมีกลุ่มประชาชนมายื่นหนังสือ เช่น 1.โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินโค้ก 2.นิคมอุตสาหกรรมหลักเมืองยาง 3.นิคมอุตสาหกรรม ไออาร์พีซี ที่อำเภอบ้านค่าย โดยตัวแทนชาวบ้านที่ยื่นหนังสือครั้งนี้ ต้องการให้รัฐบาลยกเลิกโครงการก่อสร้างโครงการดังกล่าว
ส่วนด้านกลุ่มประมงเรือเล็ก จ.ระยอง คัดค้านการจดทะเบียนเรืออวนลาก ซึ่งเป็นเรือที่ทำผิดกฎหมาย โดยขอให้รัฐบาลสั่งการให้กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยุติความพยายามที่จะเพิ่มจำนวนเรือ
***ขีดเส้น 1 สัปดาห์ไม่คืบบุกทำเนียบฯ
นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก กล่าวถึงการยื่นหนังสือต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในครั้งนี้ ตนให้เวลาหลังจากนี้ 1 สัปดาห์หากข้อเรียกร้องที่ยื่นไปนั้น ไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง กลุ่มประชาชนจะเดินทางไปชุมนุมยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อติดตาม กดดันให้มีการแก้ไขอย่างจริงจังต่อไป
"ที่ผ่านมา ได้เรียกร้องต่อหน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบ แต่ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในแนวทางที่ดีขึ้น ดังนั้น เมื่อนายกรัฐมนตรี มารับหนังสือด้วยตัวเอง ก็ควรจะต้องเร่งแก้ไขให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนโดยด่วน เพื่อความถูกต้องและชอบธรรม ดังนั้น ภายใน 1 สัปดาห์นี้ ควรจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงให้ประชาชนได้เห็น" นายสุทธิกล่าว
**ตั้งเป้ารายได้ท่องเที่ยว 2 ล้านล้าน
ต่อมาเวลา 15.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางไปที่ โรงแรมรอยัล คลิฟ โฮเต็ล กรุ๊ป จ.ชลบุรี เพื่อเป็นประธานในการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการท่องเที่ยว เพื่อขับเคลื่อนนโยบายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 2 ล้านล้านบาท ภายในปี 2558 โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า ยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะสำเร็จภายใน 5 ปี คือตั้งแต่ปี2554-2558 โดยเน้นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และธรรมชาติ
**ตั้งคณะทำงานดู 5 ยุทธศาสตร์หลัก
น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการท่องเที่ยว ว่า นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในที่ประชุมว่า ในปีนี้ไม่ได้คาดหวังเพียงจำนวนเงินรายได้ แต่หมายถึงชื่อเสียงของประเทศ จากการดำเนินการเรื่องการท่องเที่ยว จนกระทั่งบรรลุวัตถุประสงค์ เพราะการที่นักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศนั้น เรามีรายได้ และสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยว ผลสัมฤทธิ์ที่จะได้ตามมาคือ สร้างความผูกพันกับนักท่องเที่ยว โดยจะนำมาซึ่งการลงทุน และโอกาสทางด้านอื่นๆของประเทศ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี อยากเห็นการบูรณาการในจุดแข็งต่างๆ ของประเทศไทย เข้ามาด้วยกันในอุตสาหกรรมด้านท่องเที่ยว รวมถึงวัฒนธรรม เอกลักษณ์ และอยากให้เน้นการท่องเที่ยวเชิงสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ ความปลอดภัย และการท่องเที่ยวในเชิงสุขภาพ เพื่อเป็นการต่อยอดเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมของการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจะมีส่วนในการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาภูมิปัญญาของท้องถิ่น โดยเชื่อว่าจะบรรลุผลหากทุกส่วนร่วมมือกันขับเคลื่อน
พร้อมกันนี้ ได้มีการตั้งคณะทำงาน เพื่อรับผิดชอบในยุทธศาสตร์ทั้ง 5 ข้อ ได้แก่ การส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยว การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การพัฒนาโครงข่ายโลจิสติกส์เพื่อรองรับการท่องเที่ยว การสร้างความเชื่อมั่นในด้านความปลอดภัย สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว และการบริหารจัดการให้สำเร็จต่อไป
**เสนอทำ 84 เส้นทางท่องเที่ยว
นางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กล่าวถึง การประชุมครม.นอกสถานที่ครั้งนี้ ว่า ทางภาคตะวันออกรวมถึงจ.ชลบุรี ได้มีการเสนอโครงการต่างๆ ในเรื่องสาธารณูปโภคเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเรื่องน้ำ เพื่อเอื้อในเรื่องของการท่องเที่ยว และด้านเศรษฐกิจ อาทิ โครงการอ่างเก็บน้ำมาบประชัน เพื่อศักยภาพการผลิตและปริมาณน้ำ ให้มากขึ้น
นอกจากนี้ ในการประชุมเวิร์กชอปการท่องเที่ยวนั้น ก็จะมีการหาแนวทางในการสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ มากขึ้น โดยกระทรวงวัฒนธรรม ได้เตรียมทำเส้นทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม 84 เส้นทางทั่วประเทศ เพื่อเป็นการส่งเสริมในเรื่องนี้.