นครศรีธรรมราช - ชาวประมงพื้นบ้านชายฝั่งท่าศาลา ยังคงเดือดร้อนอย่างหนักจากปัญหาทะเลตมขยายตัวต่อเนื่อง นักอนุรักษ์นิเวศชายฝั่งแกนนำภาคประชาชน ระบุต้นตอเกิดจากการสร้างเขื่อนกันคลื่นกัดเซาะ และการขุดลอกแม่น้ำปากพนัง ก่อนนำตะกอนเลนมาทิ้งหน้าอ่าวท่าศาลา
วันนี้ (6 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานที่อ่าวท่าศาลา บริเวณบ้านสระบัว บ้านในถุ้ง อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบริเวณที่มีหมู่บ้านชาวประมงพื้นบ้านใช้เป็นที่เข้าออกของเรือประมงขนาดเล็ก ยังคงมีปัญหากับการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศชายฝั่งทะเลอย่างหนัก หลังตะกอนเลนตกทับถมชายหาดเป็นระยะทางยาวยื่นออกไปในทะเลหลายร้อยเมตร และมีแนวกว้างหลายกิโลเมตร ทั้งที่จากเดิมนั้น เป็นหาดทรายขาวสะอาด ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเรือประมงขนาดเล็กของชาวประมงพื้นบ้านหลายร้อยลำที่อาศัยอยู่ในย่านนี้ โดยชาวประมงต้องพยายามนำเรือฝ่าตะกอนเลนตมเข้าออกอย่างยากลำบาก อุปกรณ์เดินเรือเสียหายบ่อยครั้ง
นายสุพร โต๊ะเส็น ชาวประมงพื้นบ้าน ในฐานะนักอนุรักษ์นิเวศชายฝั่งอ่าวท่าศาลา เปิดเผยว่าปัญหาเรื่องเลนนี้มีปัญหาอย่างมากกับการเข้าออก ที่หนักหนาคือ เครื่องมืออุปกรณ์ที่ต้องพาเรือออกทะเล เช่นใบจักรสึกหรอเร็วมาก บางรายเครื่องยนต์ถึงกับพังไปเลย
“สาเหตุที่ทำให้เกิดตมเลนทับถมอย่างมากเช่นนี้เชื่อว่า เกิดจากการทำเขื่อนป้องกันคลื่นของทางการ และการขุดลอกเลนร่องน้ำที่ต้องการให้เรือสินค้าเข้าไปในร่องน้ำของแม่น้ำปากพนัง เมื่อลอกแล้วเขาไม่ได้นำเลนตมที่ลอกไปทิ้งยังจุดที่ควรปล่อยทิ้ง กลับเอามาทิ้งไว้บริเวณหน้าอ่าวท่าศาลา ทำให้กระแสน้ำพัดเข้ามาทับถมหน้าหาดจนขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อยากเรียกร้องให้ทางการช่วยเหลือชาวบ้าน โดยให้ชาวบ้านบริหารจัดการเอง คือ การใช้วิธีการธรรมชาติแก้ไขธรรมชาติจะจัดการได้ แต่หากใช้เครื่องมือกลหนักมาจัดการนั้นคงดำเนินการไม่ได้” นายสุพรกล่าว