xs
xsm
sm
md
lg

เขี่ยหู “นายกปู” เร่งอนุมัติย้ายหมู่บ้านแหลมตะลุมพุกก่อนถูกคลื่นกวาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นครศรีธรรมราช - แหลมตะลุมพุกเจอฝนถล่มหนักต่อเนื่อง โดยแนวคลื่นเริ่มปะทะหมู่บ้านเพิ่มขึ้น ทำให้บ้านถูกคลื่นกัดเซาะเสียหายเพิ่มขึ้น วอนรัฐบาล “ปู” เร่งทำตามมติ ครม.รัฐบาลอภิสิทธิ์อนุมัติพื้นที่ย้ายหมู่บ้านไปฝั่งตรงข้าม 150 ไร่

วันนี้ (22 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่าฝนได้ตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืนและทั้งวันของวันนี้ ซึ่งทำให้หลายฝ่ายได้เริ่มที่จะเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ต่อสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากแนวโน้มในปีนี้อาจจะมีสถานการณ์รุนแรงกว่าช่วงต้นปี โดยเฉพาะในเรื่องของดินโคลนถล่มในพื้นที่ใกล้เชิงเขา

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสถานการณ์ในคราวที่แล้วช่วงต้นปี ภัยครั้งนั้นทำให้การยึดเหนี่ยวของดินลดลงอย่างมาก และหากเจอกับปริมาณฝนที่มีปริมาณมากอาจทำให้เกิดภัยร้ายแรงขึ้นอีกครั้งโดยเฉพาะใน อ.นบพิตำ อ.ลานสกา อ.พรหมคีรี อ.สิชล อ.ขนอม อ.ร่อนพิบูลย์และรวมทั้งบางส่วนของ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

ส่วนบรรยากาศของหมู่บ้านชาวประมงใน ม.2 และ 3 ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่แรกของนครศรีธรรมราชที่จะเจอกับผลประทบของร่องมรสุมตะวันออกเฉียงใต้เนื่องจากภูมิประเทศยื่นออกไปในทะเล ปรากฏว่ามีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

นายประยุทธ ฐานะวัฒนา กำนันตำบลแหลมตะลุมพุก เปิดเผยว่า มรสุมได้เริ่มส่งผลกระทบกับชาวแหลมตะลุมพุกแล้ว ฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนแนวคลื่นนั้นได้เริ่มเพิ่มความรุนแรงเข้ามากระแทกและกัดเซาะแนวหมู่บ้านอีกครั้ง ซึ่งมีอยู่กว่า 200 ครัวเรือน ขณะที่ชาวประมงพื้นบ้านต้องเริ่มลากเรือขึ้นมาเก็บยังที่ปลอดภัย และหยุดทำการประมงแล้วทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ซึ่งเป็นการหยุดยาว รายได้ก็ต้องหยุดไปด้วย เพราะแต่ละลำนั้นเป็นการหากินตามชายฝั่งในระยะใกล้ไม่สามารถออกไปได้แล้วเนื่องจากคลื่นแรงมาก

“อย่างไรก็ตาม ผมขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้เร่งดำเนินการในเรื่องที่ดินที่จะย้ายหมู่บ้านของชาวประมงทั้งหมดในส่วนนี้ โดยรัฐบาลที่แล้วได้อนุมัติที่ดินฝั่งตรงข้ามของถนนจำนวน 150 ไร่เรียบร้อยแล้ว แต่มาถึงรัฐบาลนี้เรื่องเงียบอย่างเหลือเชื่อ ชาวบ้านตรงนี้ต้องผจญกับคลื่นกัดเซาะหมู่บ้านต่อไป ซึ่งปีนี้หากมีความรุนแรงเช่นครั้งที่ผ่านๆมา บ้านพังเพิ่มลงไปแน่ที่พังอยู่แล้วก็คงจมหายไปในทะเลแน่นอน และเราจะไม่มีที่อยู่อาศัย” กำนันตำบลแหลมตะลุมพุกกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น