นครศรีธรรมราช - ปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง ทำให้แหลมตะลุมพุกอยู่ในภาวะวิกฤตแล้ว เมื่อคลื่นได้กวาดสวนมะพร้าวราบลงทะเลเสียหายเป็นจำนวนมาก ด้านกำนันร้องหน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยด่วน
วันนี้ (17 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ฝนได้ตกกระหน่ำลงมาอย่างต่อเนื่องทั่วพื้นที่ และในบริเวณชายฝั่งทะเลด้านอ่าวไทย ได้เกิดคลื่นลมแรงพัดกระหน่ำเข้าชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง ระดับความสูง 2-3 เมตร ทำให้เรือประมงพื้นบ้านต้องงดออกจากฝั่งอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากเกรงอันตราย และพบว่า มีจุดวิกฤต เนื่องมาจากคลื่นขนาดใหญ่ได้ม้วนตัวเข้ากัดเซาะหมู่บ้านชาวประมงแหลมตะลุมพุกสร้างความเสียหายอย่างหนัก
นายประยุทธ ฐานะวัฒนา กำนันตำบลแหลมตะลุมพุก เปิดเผยว่า ชาวบ้านในหมู่บ้านประมงพื้นบ้าน ม.2 และ ม.3 ที่อาศัยอยู่ในชุมชนที่ติดกับทะเลกำลังประสบภาวะวิกฤตเดือดร้อนอย่างหนัก ขณะนี้คลื่นได้พัดถล่มกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรงกินเนื้อที่ของชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง ต้นมะพร้าวจำนวนมากที่อยู่บริเวณบ้านของชาวบ้านถูกกัดเซาะล้มกวาดลงทะเลไปเป็นจำนวนมาก บางจุดคลื่นกัดเซาะมาถึงถนนคอนกรีตในหมู่บ้านจนเป็นโพรงกำลังจะหายลงทะเลได้ตลอดเวลา
ฝ่ายองค์การบริหารส่วนตำบลได้จัดกระสอบทรายจำนวนมากมาปิดป้อง เพื่อไม่ให้ถนนคอนกรีตทลายลงไปในทะเล แต่ไม่ทราบว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน บ้านอีก 2 หลังที่อยู่ในแนวม้วนตัวของคลื่นกำลังเดือดร้อน อีกไม่นานทะเลจะกลืนลงไปด้วย
ทั้งนี้ หากไม่มีถนนเส้นนี้อยู่ในชุมชนหมู่บ้านทั้ง ม.2 และ ม.3 คงถูกคลื่นกัดเซาะหายไปทั้งหมู่บ้านแล้ว และหากถนนเส้นนี้พังไปจะไม่มีแนวอะไรมาขวาง ดังนั้น หมู่ 2 และ ม.3 กำลังวิกฤต ไม่รู้จะอพยพไปอยู่ที่ไหน และระยะนี้ต้องหยุดออกเรือมาตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม ไม่มีรายได้เข้ามาเลี้ยงชีพเลย เดือดร้อนกันอย่างหนัก อยากร้องขอที่ดินจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่อยู่ฝั่งตะวันตกของถนนแหลมตะลุมพุก เพื่อให้ชาวบ้านเป็นที่อยู่อาศัย เนื่องจากหากยังเป็นอยู่เช่นนี้แน่นอนว่า อีกไม่นานชาวบ้านทั้งหมดจะหมดทั้งที่อยู่อาศัยแบบสิ้นเนื้อประดาตัว และไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน
วันนี้ (17 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ฝนได้ตกกระหน่ำลงมาอย่างต่อเนื่องทั่วพื้นที่ และในบริเวณชายฝั่งทะเลด้านอ่าวไทย ได้เกิดคลื่นลมแรงพัดกระหน่ำเข้าชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง ระดับความสูง 2-3 เมตร ทำให้เรือประมงพื้นบ้านต้องงดออกจากฝั่งอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากเกรงอันตราย และพบว่า มีจุดวิกฤต เนื่องมาจากคลื่นขนาดใหญ่ได้ม้วนตัวเข้ากัดเซาะหมู่บ้านชาวประมงแหลมตะลุมพุกสร้างความเสียหายอย่างหนัก
นายประยุทธ ฐานะวัฒนา กำนันตำบลแหลมตะลุมพุก เปิดเผยว่า ชาวบ้านในหมู่บ้านประมงพื้นบ้าน ม.2 และ ม.3 ที่อาศัยอยู่ในชุมชนที่ติดกับทะเลกำลังประสบภาวะวิกฤตเดือดร้อนอย่างหนัก ขณะนี้คลื่นได้พัดถล่มกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรงกินเนื้อที่ของชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง ต้นมะพร้าวจำนวนมากที่อยู่บริเวณบ้านของชาวบ้านถูกกัดเซาะล้มกวาดลงทะเลไปเป็นจำนวนมาก บางจุดคลื่นกัดเซาะมาถึงถนนคอนกรีตในหมู่บ้านจนเป็นโพรงกำลังจะหายลงทะเลได้ตลอดเวลา
ฝ่ายองค์การบริหารส่วนตำบลได้จัดกระสอบทรายจำนวนมากมาปิดป้อง เพื่อไม่ให้ถนนคอนกรีตทลายลงไปในทะเล แต่ไม่ทราบว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน บ้านอีก 2 หลังที่อยู่ในแนวม้วนตัวของคลื่นกำลังเดือดร้อน อีกไม่นานทะเลจะกลืนลงไปด้วย
ทั้งนี้ หากไม่มีถนนเส้นนี้อยู่ในชุมชนหมู่บ้านทั้ง ม.2 และ ม.3 คงถูกคลื่นกัดเซาะหายไปทั้งหมู่บ้านแล้ว และหากถนนเส้นนี้พังไปจะไม่มีแนวอะไรมาขวาง ดังนั้น หมู่ 2 และ ม.3 กำลังวิกฤต ไม่รู้จะอพยพไปอยู่ที่ไหน และระยะนี้ต้องหยุดออกเรือมาตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม ไม่มีรายได้เข้ามาเลี้ยงชีพเลย เดือดร้อนกันอย่างหนัก อยากร้องขอที่ดินจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่อยู่ฝั่งตะวันตกของถนนแหลมตะลุมพุก เพื่อให้ชาวบ้านเป็นที่อยู่อาศัย เนื่องจากหากยังเป็นอยู่เช่นนี้แน่นอนว่า อีกไม่นานชาวบ้านทั้งหมดจะหมดทั้งที่อยู่อาศัยแบบสิ้นเนื้อประดาตัว และไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน