นครศรีธรรมราช - ทะเลนครศรีธรรมราชยังบ้าคลั่ง คลื่นโหมซัดชายฝั่งหนักกัดเซาะพังทลายต่อเนื่องหลายจุด โดยเฉพาะที่แหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง บ้านเรือนถูกน้ำซัดลงทะเลไปแล้ว 6 หลัง ชาวบ้านวอนรัฐเร่งติดตามเรื่องการย้ายหมู่บ้านเพื่อหนีภัยจากคลื่นที่กัดเซาะอย่างต่อเนื่อง
วานนี้ (12 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.นครศรีธรรมราช รายงานความคืบหน้าหลังจากที่มรสุมได้พัดกระหน่ำอย่างหนักในบริเวณพื้นที่ชายฝั่งนครศรีธรรมราช โดยพบว่ากระแสคลื่นได้สร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ เช่น บ้านบางใบไม้ ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา, บ้านแหลม หมู่บ้านชาวประมงแหลมตะลุมพุก ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง และบริเวณถนนสายปากพนัง-หัวไทร ช่วง ต.ขนาบนาค อ.ปากพนัง ไปจนถึง ต.เกาะเพชร อ.ปากพนัง โดยคลื่นซัดข้ามแนวกันคลื่นเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และมีน้ำทะเลหนุนท่วมในบางจุดด้วย
ส่วนความเดือดร้อนของชาวแหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นจุดที่ประชาชนใน 2 หมู่บ้าน เดือดร้อนกว่า 250 ครัวเรือน ทั้งนี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงชายฝั่งขนาดเล็ก โดยคลื่นได้ทวีความรุนแรงมาตั้งแต่เวลาประมาณ 07.00 น. หลังจากนั้นจะเพิ่มความแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วค่อยๆ เบาบางลงในช่วงเย็น และจะเริ่มใหม่ในวันรุ่งขึ้น
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน นางวณี จิวะรังสรรค์ นายกเหล่ากาชาดนครสรีธรรมราช พร้อมด้วยคณะ ได้นำเอาเครื่องอุปโภคบริโภคเข้าแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นในช่วงที่ประสบภัยที่ไม่สามารถหารายได้เข้ามาจุนเจือครอบครัว
หลังจากนั้นได้สำรวจความเสียหายโดยทั่วไป พบว่าบ้านเรือที่เหลืออยู่ในฝั่งตะวันออกของถนนที่พาดผ่านกลางหมู่บ้านนั้นได้พังหายลงไปในทะเลอย่างสิ้นเชิงถึง 6 หลัง ซากต้นมะพร้าวถูกซัดกระจายเกลื่อนทั้งหมู่บ้าน ส่วนชั้นในของหมู่บ้านนั้นน้ำทะเลได้พัดเข้าท่วม ประชาชนที่บ้านเรือนพังเสียหายได้อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติที่อยู่ในเขตปลอดภัย
นอกจากนี้ ยังมีบางส่วนยังอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแม้ว่าน้ำทะเลจะทะลักเข้าท่วม โดยประชาชนที่อยู่ในหมู่บ้านดังกล่าวต่างร้องขอให้เร่งรัดในเรื่องของการย้ายหมู่บ้าน เพื่อหนีภัยจากแนวคลื่นที่กัดเซาะอย่างหนักหน่วงและทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นในทุกปี
วานนี้ (12 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.นครศรีธรรมราช รายงานความคืบหน้าหลังจากที่มรสุมได้พัดกระหน่ำอย่างหนักในบริเวณพื้นที่ชายฝั่งนครศรีธรรมราช โดยพบว่ากระแสคลื่นได้สร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ เช่น บ้านบางใบไม้ ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา, บ้านแหลม หมู่บ้านชาวประมงแหลมตะลุมพุก ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง และบริเวณถนนสายปากพนัง-หัวไทร ช่วง ต.ขนาบนาค อ.ปากพนัง ไปจนถึง ต.เกาะเพชร อ.ปากพนัง โดยคลื่นซัดข้ามแนวกันคลื่นเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และมีน้ำทะเลหนุนท่วมในบางจุดด้วย
ส่วนความเดือดร้อนของชาวแหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นจุดที่ประชาชนใน 2 หมู่บ้าน เดือดร้อนกว่า 250 ครัวเรือน ทั้งนี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงชายฝั่งขนาดเล็ก โดยคลื่นได้ทวีความรุนแรงมาตั้งแต่เวลาประมาณ 07.00 น. หลังจากนั้นจะเพิ่มความแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วค่อยๆ เบาบางลงในช่วงเย็น และจะเริ่มใหม่ในวันรุ่งขึ้น
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน นางวณี จิวะรังสรรค์ นายกเหล่ากาชาดนครสรีธรรมราช พร้อมด้วยคณะ ได้นำเอาเครื่องอุปโภคบริโภคเข้าแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นในช่วงที่ประสบภัยที่ไม่สามารถหารายได้เข้ามาจุนเจือครอบครัว
หลังจากนั้นได้สำรวจความเสียหายโดยทั่วไป พบว่าบ้านเรือที่เหลืออยู่ในฝั่งตะวันออกของถนนที่พาดผ่านกลางหมู่บ้านนั้นได้พังหายลงไปในทะเลอย่างสิ้นเชิงถึง 6 หลัง ซากต้นมะพร้าวถูกซัดกระจายเกลื่อนทั้งหมู่บ้าน ส่วนชั้นในของหมู่บ้านนั้นน้ำทะเลได้พัดเข้าท่วม ประชาชนที่บ้านเรือนพังเสียหายได้อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติที่อยู่ในเขตปลอดภัย
นอกจากนี้ ยังมีบางส่วนยังอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแม้ว่าน้ำทะเลจะทะลักเข้าท่วม โดยประชาชนที่อยู่ในหมู่บ้านดังกล่าวต่างร้องขอให้เร่งรัดในเรื่องของการย้ายหมู่บ้าน เพื่อหนีภัยจากแนวคลื่นที่กัดเซาะอย่างหนักหน่วงและทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นในทุกปี