คอลัมน์ : ฝ่าเกลียวคลื่น
โดย...บรรจง นะแส
การลุกขึ้นมาตรวจสอบแหล่งพลังงานของชาติ ที่ประกอบด้วยก๊าซและน้ำมันทั้งพื้นที่ในทะเลและบนบกของภาคประชาชน ทำให้สังคมไทยได้ตื่นตัวและตระหนักถึงการเอารัดเอาเปรียบของต่างชาติ ที่เข้ามากอบโกยเอาผลประโยชน์ของชาติไปอย่างซึ่งๆ หน้า ภายใต้การอำนวยการของกลไกรัฐและความล้าหลังของกฎหมาย โดยเฉพาะภายใต้พระราชบัญญัติปิโตรเลียม คำถามนี้จึงควรพุ่งเป้าไปที่พรรคการเมือง ที่มีสมาชิกในรัฐสภาที่มีหน้าที่ในการเสนอกฎหมาย เพื่อสร้างความถูกต้องชอบธรรมและรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเอาไว้
วันนี้รัฐบาลมุ่งเน้นที่จะผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รวมทั้งคาดหวังให้พระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติผ่านการพิจารณา นั่นคือภารกิจของรัฐบาลที่มีเป้าหมายชัดเจนว่าจะต้องทำไปให้บรรลุ เพราะเจ้าของพรรคตัวจริงคืออดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรที่ต้องการให้เป็นอย่างที่เขาต้องการ
จะด้วยความถนัดในการดำเนินงานการเมืองแบบเดิมๆ แบบเอาใจแม่ยก แบบโหนกระแส ทำให้ปัญหาหลักๆ ของชาติไม่เคยถูกหยิบยกขึ้นมาวางแผนแก้ไขอย่างเป็นระบบจากพรรคการเมืองเก่าแก่ที่ชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ การกระแนะกระแหนจากฟากฝั่งรัฐบาลจึงมีส่วนถูกอยู่มาก ที่บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์จงเตรียมตัวเป็นฝ่ายค้านไปตลอดชาติ หรือไม่ก็รักษาเก้าอี้ให้ได้เท่าเดิมในสมัยหน้าก็คงยาก
โอกาสทองของพรรคประชาธิปัตย์ในวันนี้ก็คือปัญหาเรื่องแหล่งพลังงาน และผลตอบแทนจากแหล่งพลังงานของชาติที่ถูกต่างชาติเข้ามาปล้นไปอย่างหน้าด้านๆ ปล้นอย่างถูกกฎหมาย และมีแนวโน้มชัดเจนว่ารัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทยก็จะไม่แตะต้องปัญหานี้แน่นอน ซ้ำร้ายไปกว่านั้นยังมีแนวโน้มที่จะประเคนแหล่งพลังงานของชาติไปหาช่องทางแบ่งปันกันอีกอย่างแน่นอน
ภาคประชาชนได้ตื่นขึ้นมาแล้วมีการศึกษาค้นคว้าข้อมูล ข้อเท็จจริงจนได้ข้อสรุปร่วมกันแล้วว่า จะต้องดำเนินการทุกรูปแบบเพื่อทวงสิทธิ์อันชอบธรรมของชาติกลับมามอบให้กับลูกหลานในอนาคตให้ได้ และพรรคประชาธิปัตย์ก็ควรจะได้ใช้โอกาสนี้ทำการบ้านและร่วมกันทำงานเพื่อให้บรรลุผลในเป้าหมายดัง แต่อยากเรียนว่านี่คือโอกาสของพรรคประชาธิปัตย์ นี่คือการบ้านของพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน ถ้าท่านคาดหวังและคิดจะเป็นพรรคการเมืองที่พอจะสร้างความหวังให้กับประชาชนและประเทศนี้ต่อไปในอนาคต
ข้อมูลของภาคประชาชนซึ่งพบว่า สัดส่วนรายได้ที่รัฐบาลได้รับจากแหล่งพลังงานต่างๆ ของชาติตกอยู่ที่ประมาณ 29-30% เท่านั้น (มูลค่าปี 2553 ประมาณ 1.06 แสนล้านบาท) ที่เหลือบริษัทผู้ลงทุนสำรวจและขุดเจาะได้ไป 70-71% ข้อมูลเพียงแค่นี้ก็ควรแล้วที่พรรคการเมืองควรจะได้ให้ความสนใจ เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงและนำเสนอหนทางในการแก้ไข ในพื้นที่ภาคใต้โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสงขลา อันถือเป็นเขตครอบครองของพรรคประชาธิปัตย์มาอย่างยาวนาน นอกฝั่งสงขลาออกไปไม่เกิน 20 กิโลเมตรก็พบว่ามีบริษัทต่างชาติเข้ามาทำการขุดเจาะปิโตรเลียมในน่านน้ำทะเลสงขลา มีปริมาณน้ำมันถึงปีละ 1,260 ล้านลิตร หรือคิดเป็นมูลค่า 25,000 ล้านบาท แต่ผลประโยชน์ที่คนสงขลาและประเทศชาติได้รับกลับไม่เป็นธรรม เมื่อมีการศึกษาเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆ ที่มีแหล่งพลังงาน
พ.ร.บ.ปิโตรเลียมเป็นกลไกที่สำคัญที่จะสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้น ในการดูแลผลประโยชน์จากแหล่งพลังงานของชาติ พรรคการเมืองควรที่จะต้องเข้ามามีหน้าที่ในการผลักดันให้เกิดความเป็นธรรมดังกล่าวขึ้นในประเทศชาติ ทำอย่างไรที่จะทำให้ปิโตรเลียมเป็นของประชาชน ไม่ใช่ของรัฐ เราควรจะแก้ไขกฎหมายอย่างไรที่จะไม่ให้ข้าราชการกระทรวงพลังงานเข้าไปดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในบริษัทพลังงาน และให้ประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สัมปทาน เข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจในทรัพยากรปิโตรเลียม ซึ่งเป็นสมบัติของชาติ
วันนี้เรามีขั้นตอนในการเก็บรายได้เข้ารัฐ จากกิจการพลังงาน 3 ส่วนคือ ค่าภาคหลวง ซึ่งเราสามารถจัดเก็บได้เพียง 12.5% ของมูลค่าปิโตรเลียมที่ขายได้จากปากหลุม สองการเก็บภาษีเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายทุกอย่าง รวมทั้งค่าภาคหลวงในอัตราร้อยละ 50% ของกำไรสุทธิ และสามโบนัสพิเศษซึ่งไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของจำนวนและวิธีการจ่าย สิ่งต่างๆ เหล่านี้คือต้นตอของความไม่เป็นธรรม ปล่อยให้มีช่องว่างของผลประโยชน์ทับซ้อน และอาศัยความล้าหลังของพ.ร.บ.ปิโตรเลียมที่มีอยู่แล่เนื้อเถือหนังสังคมไทยโดยรวมอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
นายสุเทพ เทือกสุบรรณหัวเรือใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ว่ากันว่าคือหัวหน้าพรรคตัวจริง และอดีตนายกฯ ตัวจริงของพรรคประชาธิปัตย์ที่ยึดครองอำนาจในสมัยที่ผ่านมา ข่าวการไปฮั้วทางการเมืองเรื่องผลประโยชน์ในเรื่องแหล่งพลังงานกับนายกฯ ฮุนเซนครั้งที่แล้ว ได้สร้างความกังขาให้เกิดขึ้นว่าจริงๆ แล้วพรรคประชาธิปัตย์ก็หากินกับบริษัทต่างชาติด้านพลังงาน ที่รวมหัวกันปล้นพลังงานของชาติไปแบ่งปันกัน การรีบประกาศจุดยืนยึดเอาแหล่งพลังงานของชาติกลับมา แล้วยกร่างเสนอ พ.ร.บ.ปิโตรเลียมเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาโดยเร็ว นี่คือการบ้านของพรรคประชาธิปัตย์ในวันนี้.