xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” ไปเขมรตามคำเชิญสหรัฐฯ-เชฟรอน แสตมป์ธุรกิจพลังงาน!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ผ่าประเด็นร้อน

จู่ๆนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็บินด่วนไปกัมพูชาในวันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคมตามคำเชิญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ฮิลลารี คลินตัน เพื่อเข้าร่วมประชุมและกล่าวสุนทรพจน์ในงานฟอรัมธุรกิจอาเซียน ซึ่งมีนักธุรกิจของสหรัฐฯ เข้าร่วม โดยเฉพาะผู้บริหารจากบริษัท เชฟรอน ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เข้าร่วมด้วย

ทั้งที่ตามความเป็นจริง นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์น่าจะอยู่ในประเทศไทย เพราะในวันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคมดังกล่าวเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำพิพากษาคดีล้มล้างการปกครองหรือไม่จากการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อนำไปสู่การยกร่างฉบับใหม่ เธอน่าจะติดตามอย่างใกล้ชิด

สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะเห็นว่าตัวเองลอยตัว เพราะไม่ว่าคำพิพากษาจะออกมาทางลบเลวร้ายแค่ไหนก็มั่นใจว่าไม่กระทบต่อตัวเอง เนื่องจากไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย อีกทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ยืนยันมาตลอดแล้วว่าเป็นเรื่องของสภา ตัวเองไม่เกี่ยว

ดังนั้น ในประเด็นเรื่องคดีล้มล้างการปกครอง เฉพาะตัวเองคงไม่มีผลกระทบมาถึงการดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่เป็นอยู่

ทีนี้ก็ยังเหลือแต่เรื่องประเด็นการเดินทางไปเขมรในช่วงที่น่าหวาดเสียว แสดงว่าต้องเป็นเรื่องเร่งด่วน จำเป็น ที่สำคัญต้องใช้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไป “แสตมป์” ด้วยหรือไม่ มันก็เป็นเรื่องที่ต้องตั้งคำถาม เพราะถ้าปะติดปะต่อกันรับรองว่ามันเชื่อมโยงกันแบบมีพิรุธให้เห็นอย่างชัดเจน

เริ่มมาจากความสัมพันธ์เรื่องที่สหรัฐอเมริกาในนามของนาซาจะขอมาใช้สนามบินอู่ตะเภาอ้างว่ามาขอใช้สถานที่ขนอุปกรณ์ดูลมฟ้าอากาศในภูมิภาคนี้ แต่เมื่อความแตกถูกต่อต้านหนักข้อก็ถอยกลับไปชั่วคราว แต่ขณะเดียวกันน่าจับตาก็คือความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับ ทักษิณ ชินวัตร กลับดีเกินคาด และเป็นช่วงเวลาที่สัมพันธ์กันพอดี นั่นคือ เมื่อไม่กี่วันก่อน นพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาทักษิณก็มาเปิดเผยว่าเจ้านายของเขาได้รับวีซ่าให้เข้าประเทศสหรัฐฯ แล้ว และได้มา “สองสามเดือน” แล้ว

ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านั้นในราวกลางสัปดาห์บริษัท ปตท.ก็ได้แถลงความพร้อมที่จะลงทุนสำรวจน้ำมันในพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทยโดยเร่งรัดให้รัฐบาลเร่งเจรจากับรัฐบาลกัมพูชา

น่าสังเกตอีกอย่างหนึ่งก็คือเวลานี้ที่กัมพูชาเป็นช่วงของการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเท่านั้น ไม่ใช่ระดับผู้นำ อย่างมากก็มีแค่นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน เท่านั้นในฐานะเจ้าภาพเปิดการประชุม ส่วนประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ จีน ก็ล้วนแล้วแต่ส่งรัฐมนตรีต่างประเทศไปร่วม มีเพียงไทยที่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษที่ นายกรัฐมนตรีต้องเดินทางไปด้วยตัวเอง และร่วมวงนักธุรกิจดังกล่าว

หากจะบอกว่าเป็นการโรดโชว์ดึงดูดการลงทุน แต่ดูแล้วมันไม่ถูกกาลเทศะเท่าใดนัก ไม่สมศักดิ์ศรีพิกล นอกเหนือจากมี “วาระซ่อนเร้น” อะไรบางอย่าง โดยเฉพาะเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนที่เชื่อมโยงไปถึงพี่ชายคือ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งแทบทุกคนที่ติดตามมานานย่อมเข้าใจดีว่ามีความสนใจร่วมลงทุนในธุรกิจพลังงานในพื้นที่ดังกล่าว และที่ผ่านมาก็ได้มีการเจรจาปูทางกัน มาอย่างต่อเนื่อง

แม้ว่าจะมีขาดช่วง ไม่ต่อเนื่อง แต่ในที่สุดเมื่อรัฐบาลที่เป็นตัวแทนของ ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นมามีอำนาจข่าวการเจรจาก็เดินหน้าไปเรื่อยๆ ทั้งในเรื่องแหล่งพลังงานในพม่า จนมาถึงพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทย และแน่นอนว่าทุกครั้งจะมีความเคลื่อนไหวของบริษัทพลังงานอย่างเชฟรอนของสหรัฐฯ และ ปตท.เข้ามาเกี่ยวข้องทุกครั้ง คราวนี้ก็เช่นเดียวกัน

เพราะจู่ๆ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถึงกับเดินทางไปกัมพูชาโดยกระทันหันเพื่อเข้าร่วมประชุมกับนักธุรกิจของสหรัฐฯ ที่มีบริษัทเชฟรอนรวมอยู่ด้วย และในท่ามกลางความสัมพันธ์กับ ทักษิณ ชินวัตรที่ถูกระดับดีเยี่ยมมีการออกวีซ่าให้เข้าประเทศ เมื่อปะติดปะต่อกันแล้วมันก็มองได้ว่าเป็นการเดินทางไปแสตมป์ในฐานะนายกรัฐมนตรีเหมือนกับก่อนหน้านี้เมื่อครั้งไปเยือนพม่าไม่มีผิด

คราวนี้ก็เช่นเดียวกันรับรองว่าจะต้องมีเรื่องธุรกิจพลังงานเข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอน ส่วนจะเกี่ยวข้องแบบไหน และเข้ากระเป๋าใคร ห้ามกะพริบตาเป็นอันขาด!!
ทักษิณ ชินวัตร
กำลังโหลดความคิดเห็น