ตรัง - ยอดจำหน่ายทองคำตามร้านต่างๆ ใน จ.ตรัง ในช่วงต้นเทศกาลถือศีลอดของพี่น้องมุสลิมยังคงซบเซา เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจย่ำแย่ลง และยางพารามีราคาตกต่ำ ขณะเดียวกันมีการคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะร่วงลงอีกในระยะนี้
วันนี้ (21 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ตรัง ว่า จากการสำรวจสถานการณ์การซื้อขายทองคำ ในช่วงต้นเดือนรอมฎอน หรือเทศกาลถือศีลอดของชาวมุสลิมทั่วโลก ตามร้านจำหน่ายทองคำต่างๆ ในเขตเทศบาลนครตรัง ปรากฏว่าบรรยากาศยังคงซบเซา ทั้งนี้ คาดว่าอาจเป็นผลพวงมาจากพิษเศรษฐกิจที่ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้นเรื่อยๆ แม้กระทั่งในต่างจังหวัด
นายบุญชู ศัยศักดิ์พงษ์ เจ้าของร้านทองตุ้นเฮงหลี และรองประธานชมรมร้านทองจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ผลพวงจากสภาพเศรษฐกิจโลกที่ย่ำแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในประเทศทั้งกลุ่มยุโรป และสหรัฐอเมริกา จนลุกลามเข้ามาสู่ประเทศยักษ์ใหญ่ในทวีปเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น ส่งผลให้กำลังซื้อสินค้ากับประเทศไทยลดต่ำลง โดยเฉพาะยางพาราและกุ้งอันเป็นสินค้าสำคัญของภาคใต้ จนทำให้ราคาตกต่ำลงอย่างมาก และเดือดร้อนมาถึงกลุ่มเกษตรกร ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักของจังหวัดตรัง
ดังนั้น ในช่วงต้นเดือนรอมฎอน หรือเทศกาลถือศีลอดของพี่น้องมุสลิมในปีนี้ จึงแทบจะไม่เห็นพี่น้องชาวมุสลิมออกมาซื้อหาทองคำไปสวมใส่กันเหมือนอย่างเช่นปีก่อนๆ เนื่องจากมีรายได้ลดลงและไม่มีเงินออมเหลือ ยกเว้นกลุ่มลูกค้าที่มีงานมงคล เช่น งานแต่งงาน เท่านั้น แต่ส่วนใหญ่จะนิยมนำทองคำมาขายกับทางร้าน ขณะที่ลูกค้าที่เคยนำทองคำมาจำนำไว้ก็ไม่ค่อยจะมาไถ่ถอนคืน ส่งผลกระทบมาถึงร้านจำหน่ายทองคำต่างๆ จนเกิดสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาอย่างมาก นับเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
“ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าสภาพแบบนี้จะต่อเนื่องไปจนถึงปลายปี 2555 และคงต้องรอดูกันว่าการแก้ปัญหาของกลุ่มยุโรป และสหรัฐอเมริกา จะเป็นในแนวทางใด ทำให้ร้านจำหน่ายทองคำต่างๆ ในจังหวัดตรังต้องระมัดระวังตนเองในการทำธุรกิจช่วงนี้มากขึ้น และหลีกเลี่ยงการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ส่วนราคาทองคำซึ่งขณะนี้อยู่ที่ประมาณบาทละ 23,500-23,800 บาทนั้น ยังอาจจะร่วงลงไปอยู่ที่ประมาณบาทละ 23,000 บาท แต่โอกาสที่จะขยับตัวสูงขึ้น คงเป็นไปได้ยากแล้วในช่วงระยะนี้” รองประธานชมรมร้านทองจังหวัดตรัง กล่าว