ธปท. จับตาเก็งกำไรทองคำกระทบอัตราแลกเปลี่ยน ห่วงค่าเงินบาทผันผวน แนะธุรกิจนำเข้า-ส่งออก ซื้อประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ด้านบอร์ด กนง. ประชุมวันนี้ ส่งสัญญาณคงดอกเบี้ย 3% เพื่อดูแลเศรษฐกิจ
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาท โดยยอมรับว่า ธปท. มีการติดตามความเคลื่อนไหวของราคาทองคำอย่างใกล้ชิด พร้อมเก็บข้อมูลการซื้อขายทองคำอย่างต่อเนื่อง เพราะมีผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนค่อนข้างมาก หลังจากได้มีการหารือร่วมกับสมาคมค้าทองคำ และผู้ค้าทองคำ พบว่า รายย่อยมีการเก็งกำไรในราคาทองคำมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าในช่วงนี้ ธปท.ไม่มีความจำเป็นต้องเข้าไปแทรกแซงตลาดทองคำ หรือออกมาตรการควบคุมการซื้อขายทองคำแน่นอน แต่หากจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไร คงต้องหารือกับทางกระทรวงการคลังก่อน
“ที่ผ่านมา ธปท.ได้หารือกับสมาคมค้าทองคำ และผู้ค้าทองคำ เพื่อเก็บข้อมูล และติดตามว่าปัจจุบัน การซื้อขายทองคำของลูกค้าเป็นลักษณะใด เช่น นำมาเป็นเครื่องประดับ หรือเก็งกำไร ซึ่งสมาคมค้าทองคำชี้แจงว่า ระยะหลังพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่มีแนวโน้มเข้ามาเก็งกำไรในทองคำมากขึ้น เนื่องจากราคาค่อนข้างผันผวนเปลี่ยนแปลงเร็ว โดยเฉพาะในระยะหลัง เงินสกุลหลัก เช่น ดอลลาร์สหรัฐไม่มีเสถียรภาพ ยิ่งกลายเป็นปัจจัยสนับสนุนให้คนหันมาถือสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยอย่างทองคำมากขึ้น เช่นเดียวกับคนไทยก็มีการซื้อขายทองคำค่อนข้างเยอะ”
ด้านนางสุชาดา กิระกุล รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธปท. ยอมรับว่า ขณะนี้มีมุมมองค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐ ในตลาดเป็นไปในทิศทางที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก ส่งผลให้ผู้เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะผู้นำเข้าและส่งออกไม่มีการซื้อประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อลดต้นทุน ถือว่าเป็นความเสี่ยงอย่างมากที่จะสูญเสียรายได้จากการค้าขาย แม้ว่าส่วนหนึ่งธุรกรรมการซื้อประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนจะลดลงจากดุลการค้าที่ลดลงก็ตาม คงเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาว่า อัตราแลกเปลี่ยนจะไปในทางไหน ดังนั้น ผู้เกี่ยวข้องไม่ควรที่จะประมาท แต่ควรปิดความเสี่ยงในทุกทางที่มีอยู่
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธปท. ที่มีนายประสารเป็นประธาน วันนี้ (13 มิ.ย.2555) จะมีกำหนดประชุมเพื่อพิจารณาทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อให้เหมาะกับภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวทรงตัวที่ระดับ 3.00% ต่อปี ตั้งแต่การประชุมวันที่ 21 มี.ค.2555 เพื่อรักษาระดับการเติบโตของเศรษฐกิจที่ซบเซาจากภาวะน้ำท่วมในช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2554 ขณะที่รัฐบาลต้องการให้ ธปท.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
