xs
xsm
sm
md
lg

GBX มองราคาทองไตรมาสแรก 1,450-1,850 ดอลล์ เล็งปั๊มยอดขายเท่าตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน - "โกลเบล็ก โฮลดิ้งฯ"ประเมินทองคำปีหน้าผันผวนตามเศรษฐกิจโลกที่ยังย่ำแย่ ให้กรอบลงทุนไตรมาสแรก 1,500-1,700 ดอลลาร์/ออนซ์ แนะนำถือเงินสดเพิ่มขึ้นปลอดภัยกว่า พร้อมวางแผนปี 2555 ปั๊มยอดขายทองคำเท่าตัวจากปีนี้ และเตรียมขยับยอดบัญชีเพิ่มอีก 35% เชื่อช่วยบัญชีเคลื่อนไหวเพิ่มเป็น 45% จาก 30% เล็งดันรายได้เป็น 1 ใน 3 ของรายได้รวมทั้งหมด

นายดลยา ชินะโปดก ผู้อำนวยการฝ่ายค้าทอง บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์(GBX) ประเมินแนวโน้มราคาทองในปี 2555 ว่า ราคาทองคำยังมีโอกาสกลับขึ้นเป็นขาขึ้นต่อแต่จะค่อนข้างผันผวน โดยปัจจัยสำคัญยังมาจากความกังวลในเรื่องของเศรษฐกิจในแถบประเทศยุโรป และสหรัฐอเมริกาที่ยังไม่คลี่คลายลง และส่งผลต่อเศรษฐกิจทั่วโลกในปีหน้า ขณะที่จากเดิมทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากที่สุด (Safe Heaven Asset) ในปัจจุบันจนถึงปีหน้าทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเพียงบางช่วงเวลาเท่านั้น ด้วยเหตุผลการที่นักลงทุนต้องการถือเงินสดมากกว่าการเก็บทองคำเป็นสินทรัพย์ แต่ทั้งนี้ทองคำยังคงเป็นที่ต้องการของนักลงทุน จากการที่เป็นสินทรัพย์ที่มูลค่าอยู่เสมอและมีสถานะเทียบเท่าเงินสด

อย่างไรก็ตาม จากความผันผวนของราคาที่คาดการณ์ มีความเป็นไปได้ว่าราคาทองคำในปี 2555 จะสามารถปรับตัวขึ้นไปสูงสุด และลงมาต่ำสุดได้ในเวลาสั้นๆ จากปัจจัยตามเศรษฐกิจโลกที่เป็นไปในแนวทางบวกหรือลบ ซึ่งประเมินว่าราคาทองคำช่วงไตรมาสแรกจะอยู่ในกรอบ 1,450-1,850 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยความผันผวนของราคาทองคำจะเป็นช่องทาง และโอกาสให้นักลงทุนเก็งกำไรเข้ามาซื้อขายในตลาดทองคำมากขึ้น แม้ความเสี่ยงจะสูงมากก็ตาม

ขณะที่ราคาทองคำในสิ้นปีนี้น่าจะอยู่ในระดับ 1,500-1,700 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยปัจจัยหลักยังมาจากปัญหาหนี้สินในยุโรป และเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนทั้งระยะสั้น และระยะยาวให้นักลงทุนลดความเสี่ยง และอย่าเพิ่มความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น ถือเงินสดให้มากขึ้น รวมถึงติดตามข่าวสารราคาทองคำในตลาดโลก ข่าวสารด้านเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อราคาทองคำให้มากขึ้นเพื่อประเมินสถานการณ์ลงทุน และศึกษาการลงทุนในทองคำแบบไม่มีความเสี่ยงโดยวิธี Arbitrage

นายทรงวุฒิ อภิรักษ์ขิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด(มหาชน) หรือ GBX กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปี 2555 ว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายทองคำ เพิ่มขึ้นจากปีนี้อย่างน้อยเท่าตัว โดยการเติบโตดังกล่าวมาจากแผนการดำเนินงานที่บริษัทฯจะเพิ่มจำนวนบัญชีการซื้อขายทองคำอีก 35% จากปัจจุบัน นอกเหนือจากแนวโน้มความต้องการของประชาชน และนักลงทุนที่สูงขึ้นที่ต้องการลงทุนในทองคำแท่ง

ทั้งนี้ เชื่อว่าหากบริษัทฯสามารถเพิ่มจำนวนบัญชีได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ จะทำให้บัญชีการซื้อขายที่เคลื่อนไหวที่มีอยู่ 30% เพิ่มเป็น 45% นอกจากนี้ จะส่งผลให้บริษัทฯสามารถเพิ่มสัดส่วนรายได้การค้าทองคำเป็น 1 ใน 3 ของรายได้รวม จากปัจจุบันที่มีสัดส่วน 1 ใน 10 โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ แต่ในปี 2560 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจค้าทองคำแท่งจะเพิ่มเป็น 50% ของรายได้รวมทั้งหมด

“ในช่วงต้นปี 2554 บริษัทฯ อยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายผู้บริหารทำให้ยอดขายลดงลงไปบ้าง แต่ตั้งแต่เดือน ก.ค.54 เป็นต้นมา ทางบริษัทฯได้มีการทำตลาดมากขึ้น ประกอบกับภาวะตลาดในช่วงดังกล่าวถือว่าเป็นจังหวะที่ดีส่งผลให้สามารถมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละหลายพันล้านบาทต่อเดือน ซึ่งยอดขายนี้จะต่อเนื่องไปถึงปีหน้า เนื่องจากบริษัทฯมีการหาลูกค้าใหม่ๆ จากทีมมาร์เก็ตติ้ง และฐานนักลงทุนเดิมที่มีความต้องการซื้อเพิ่ม รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลนักลงทุนจาก บล.โกลเบล็ก น่าจะส่งผลให้ยอดขายรวมของปีหน้าเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว และจะผลักดันให้รายได้จากการขายทองคำมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 3 ของรายได้รวมทั้งหมด“นายทรงวุฒิ กล่าว

สำหรับการแข่งขันในธุรกิจค้าทองคำในปี 2555 นายทรงวุฒิ กล่าวว่า ผู้ค้าทองคำขนาดใหญ่จะลงมาทำตลาดระดับกลางถึงระดับล่างมากขึ้นเพื่อขยายช่องทางการเพิ่มรายได้ จากเดิมที่เน้นการค้าส่งทองคำให้กับรายใหญ่เป็นหลัก แต่ด้วยประสบการณ์การค้าขายทองคำมาเป็นเวลานานของโกลเบล็ก และความหลากหลายของลูกค้า รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลจากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก จำกัด ในเรื่องของนักลงทุน ตลอดจนการที่ผู้ถือหุ้นใหญ่มีโรงหล่อทองคำที่ทำให้สามารถบริหารต้นทุนสินค้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจะช่วยให้โกลเบล็กสามารถแข่งขันกับผู้ค้ารายอื่นๆในตลาดได้
กำลังโหลดความคิดเห็น