ASTV ผู้จัดการรายวัน - “แม่ทองสุก” คาดทองคำปีหน้าขยับตัวขึ้นต่อ แต่ยังผันผวน จากเศรษบกิจสหรัฐฯและยุโรปที่ยังแย่ ชี้มีโอกาสทุบสถิติเก่า และทะลุ 2,000 เหรียญต่อออนซ์ ตั้งเป้ายอดขายทองคำโตเพิ่ม20%จากปีนี้ ที่คาดถึง3.8 แสนล้านบาท พร้อมครองมาร์เกตแชร์สูงสุดในกลุ่มโบรกฯทองคำ
นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัญศิริ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก กล่าวว่า ในปี 2555แนวโน้มราคาทองคำในปี 2555ว่า ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น และยังถือเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย (Save Heaven) ทำให้มีโอกาสขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดเดิมที่ 1,920 เหรียญ/ออนซ์ หรืออาจจะถึง 2,000 เหรียญ/ออนซ์ เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากปัญหาหนี้ยุโรป และปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ และอยู่ในช่วงขาลง เพราะฉะนั้นจึงเป็นผลดีต่อการลงทุนในทองคำ เนื่องจากราคามีโอกาสทะลุ 2,000 เหรียญ แต่การเคลื่อนไหวของราคาทองคำจะมีความผันผวนเหมือนกับปีนี้
“กลยุทธ์การลงทุนในทองคำคงต้องปรับเปลี่ยนไป จากเดิมที่คุ้นเคยกับการซื้อมาขายไปในช่วงที่ราคาปรับตัวสูง หรือถือในระยะยาว คงต้องเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนใหม่ให้รับการขึ้นลงของราคาที่คาดว่าจะมีอย่างต่อเนื่อง”
ประธานกรรมการกลุ่มเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีหน้าภาพรวมเชื่อว่าเงินดอลลาร์ไม่อยู่ในสถานะที่มีเสถียรภาพ และมีแนวโน้มอ่อนค่า เพราะสหรัฐฯยังมีปัญหาหนี้สาธารณะสูงถึง 99% แต่อาจดูดีกว่าเมื่อเทียบกับยูโรโซนซึ่งมีหนี้สาธารณะอยู่ที่ 120-140% แต่ความจริงทั้งสองยังแย่ และที่ผ่านมาความต้องการทองคำในเอเซียสูงขึ้นมาก มาจากจีนและอินเดียที่ขยายตัวมากถึง 7% ขณะที่ธนาคารกลางทั่วโลกก็หันมาถือครองทองคำเพิ่มเพื่อป้องกันความเสี่ยง
นอกจากนี้ การที่แนวโน้มดอกเบี้ยยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ และอยู่ในช่วงขาลง ขณะที่เงินเฟ้อยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงตามราคาสินค้าเกษตรและน้ำมันที่ปรับตัวสูงนั้น ทำให้เห็นว่าแนวโน้มราคาทองคำในปี 2555 น่าจะอยู่ในช่วงขาขึ้น เช่นเดียวกับหลายปีที่ผ่านมา
นายณัฐพงศ์ หิรัณยสิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอสโกลด์ แม่ทองสุก กล่าวว่า ในปีนี้มั่นใจว่ารายได้รวมของบริษัทในปีนี้จะทำได้มากกว่า 3.8 แสนล้านบาท หรือเติบโต 130 % จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1.7 แสนล้านบาท และในปี 2555 คาดว่ารายได้จะเติบโตประมาณ 20% ขณะเดียวกันบริษัทจะเริ่มมองหาพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเข้าสู่การเป็นผู้นำในอาเซียน
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะลงทุนเพิ่มอีก 20 ล้านบาทเพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ ด้านไอทีมาให้บริการกับลูกค้า และนำไปใช้ในการทำธุรกรรมโกลด์ ออนไลน์ พลัส ซึ่งเป็นการซื้อขายทองคำ 24 ชม.รองรับความต้องการในการลงทุนที่เพิ่มขึ้น
สำหรับการซื้อขายทองคำแท่งในปีนี้ ทางกลุ่มแม่ทองสุก มียอดซื้อขายเฉลี่ยประมาณ 20 ตัน/เดือน มีบัญชีลูกค้า 10,000 บัญชี เพิ่มขึ้น 100% จากปีก่อน เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมันในการซื้อขายทองคำแบบเรียลไทม์ ส่วนการลงทุนในโกลด์ ฟิวเจอร์ส มียอดสัญญาการซื้อขายเฉลี่ย 9 หมื่นสัญญา/เดือน และมียอดการเปิดบัญชีใหม่ 3,000บัญชี/เดือน หลังมีการขยายเวลาเทรดในตอนกลางคืน ส่งผลให้ส่วนแบ่งทางการตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ในโกลด์ฟิวเจอส์สูง15-20% ซึ่งเป็นอับดับ 1 ในโบรกเกอร์ทองคำด้วย
นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัญศิริ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก กล่าวว่า ในปี 2555แนวโน้มราคาทองคำในปี 2555ว่า ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น และยังถือเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย (Save Heaven) ทำให้มีโอกาสขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดเดิมที่ 1,920 เหรียญ/ออนซ์ หรืออาจจะถึง 2,000 เหรียญ/ออนซ์ เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากปัญหาหนี้ยุโรป และปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ และอยู่ในช่วงขาลง เพราะฉะนั้นจึงเป็นผลดีต่อการลงทุนในทองคำ เนื่องจากราคามีโอกาสทะลุ 2,000 เหรียญ แต่การเคลื่อนไหวของราคาทองคำจะมีความผันผวนเหมือนกับปีนี้
“กลยุทธ์การลงทุนในทองคำคงต้องปรับเปลี่ยนไป จากเดิมที่คุ้นเคยกับการซื้อมาขายไปในช่วงที่ราคาปรับตัวสูง หรือถือในระยะยาว คงต้องเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนใหม่ให้รับการขึ้นลงของราคาที่คาดว่าจะมีอย่างต่อเนื่อง”
ประธานกรรมการกลุ่มเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีหน้าภาพรวมเชื่อว่าเงินดอลลาร์ไม่อยู่ในสถานะที่มีเสถียรภาพ และมีแนวโน้มอ่อนค่า เพราะสหรัฐฯยังมีปัญหาหนี้สาธารณะสูงถึง 99% แต่อาจดูดีกว่าเมื่อเทียบกับยูโรโซนซึ่งมีหนี้สาธารณะอยู่ที่ 120-140% แต่ความจริงทั้งสองยังแย่ และที่ผ่านมาความต้องการทองคำในเอเซียสูงขึ้นมาก มาจากจีนและอินเดียที่ขยายตัวมากถึง 7% ขณะที่ธนาคารกลางทั่วโลกก็หันมาถือครองทองคำเพิ่มเพื่อป้องกันความเสี่ยง
นอกจากนี้ การที่แนวโน้มดอกเบี้ยยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ และอยู่ในช่วงขาลง ขณะที่เงินเฟ้อยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงตามราคาสินค้าเกษตรและน้ำมันที่ปรับตัวสูงนั้น ทำให้เห็นว่าแนวโน้มราคาทองคำในปี 2555 น่าจะอยู่ในช่วงขาขึ้น เช่นเดียวกับหลายปีที่ผ่านมา
นายณัฐพงศ์ หิรัณยสิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอสโกลด์ แม่ทองสุก กล่าวว่า ในปีนี้มั่นใจว่ารายได้รวมของบริษัทในปีนี้จะทำได้มากกว่า 3.8 แสนล้านบาท หรือเติบโต 130 % จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1.7 แสนล้านบาท และในปี 2555 คาดว่ารายได้จะเติบโตประมาณ 20% ขณะเดียวกันบริษัทจะเริ่มมองหาพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเข้าสู่การเป็นผู้นำในอาเซียน
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะลงทุนเพิ่มอีก 20 ล้านบาทเพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ ด้านไอทีมาให้บริการกับลูกค้า และนำไปใช้ในการทำธุรกรรมโกลด์ ออนไลน์ พลัส ซึ่งเป็นการซื้อขายทองคำ 24 ชม.รองรับความต้องการในการลงทุนที่เพิ่มขึ้น
สำหรับการซื้อขายทองคำแท่งในปีนี้ ทางกลุ่มแม่ทองสุก มียอดซื้อขายเฉลี่ยประมาณ 20 ตัน/เดือน มีบัญชีลูกค้า 10,000 บัญชี เพิ่มขึ้น 100% จากปีก่อน เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมันในการซื้อขายทองคำแบบเรียลไทม์ ส่วนการลงทุนในโกลด์ ฟิวเจอร์ส มียอดสัญญาการซื้อขายเฉลี่ย 9 หมื่นสัญญา/เดือน และมียอดการเปิดบัญชีใหม่ 3,000บัญชี/เดือน หลังมีการขยายเวลาเทรดในตอนกลางคืน ส่งผลให้ส่วนแบ่งทางการตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ในโกลด์ฟิวเจอส์สูง15-20% ซึ่งเป็นอับดับ 1 ในโบรกเกอร์ทองคำด้วย