นครศรีธรรมราช - เจ้าหน้าที่โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริเร่งทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ เพื่อเตรียมเข้าสู่พระราชพิธีอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้
วันนี้ (6 ก.ค.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนที่จะมีพระราชพิธีเปิดโครงการบริหารจัดการน้ำในพระราชดำริ 5 แหล่งทั่วประเทศ โดยที่ จ.นครศรีธรรมราช จะถือเป็นครั้งแรกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงประกอบพระราชพิธีที่มีการเปิดใช้โครงการประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ ที่ตั้งอยู่ในโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางความปลาบปลื้มยินดีของเจ้าหน้าที่โครงการ รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบ หลังจากมีการเปิดใช้มาตั้งแต่ปี 2542
โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ต่างเร่งมือปรับปรุงจุดที่จะมีการประกอบพระราชพิธีบริเวณหัวงานหน้าประตูระบายน้ำ ซึ่งมีการเตรียมการตกแต่งเป็นครั้งสุดท้าย ด้วยการเติมสีสันเพิ่มความสวยงามในจุดต่างๆ การทำความสะอาดพื้นหินอ่อนที่ป้ายโครงการ การตกแต่งบริเวณประตูน้ำ และจะมีการตรวจสอบความเรียบร้อยในช่วงเย็นอีกครั้ง พร้อมทั้งการตรวจสอบติดตั้งเครื่องเสียง และการจัดวางเก้าอี้ เพื่อบริการประชาชนที่เข้ามาเที่ยวชมโครงการในวันพรุ่งนี้
นอกจากนี้ โครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริได้จัดนิทรรศการ เพื่อแสดงลำดับความเป็นมาของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริตั้งแต่เริ่มต้นจนมาถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะความเป็นมาของประตูระบายน้ำ "อุทกวิภาชประสิทธิ" ที่เป็นนามพระราชทานที่เป็นมงคลยิ่ง มีความหมายถึง ความสามารถแบ่งแยกน้ำจืด น้ำเค็ม ได้สำเร็จ นั่นคือ มีการบริหารจัดการอย่างสมดุล ปิดกั้นน้ำเค็มไม่ให้รุกเข้าไปในลำน้ำกักเก็บน้ำจืด เพื่อไว้ใช้ดำรงชีพ ซึ่งจะเป็นบทเริ่มต้นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน และเอื้ออำนวยให้การใช้ทรัพยากรธรรมชาติในลุ่มน้ำปากพนังเป็นไปอย่างยั่งยืน
ซึ่งประตูระบายน้ำอันเป็นปฐมบทของโครงการโครงการการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้เริ่มทำหน้าที่ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2542 มีความสามารถเก็บกักน้ำจืดเหนือประตระบายน้ำได้ 72 ล้านลูกบาศก์เมตร มี 10 ช่องบานระบาย และมีประสิทธิภาพในการระบายน้ำในอัตรา 1,246 ลูกบาศก์เมตร/วินาที โดยมีการบริหารจัดการ อย่างผสมผสานทั้งหลักวิชาการและเทคโนโลยี การจัดการน้ำของกรมชลประทาน ผนวกกับการมีส่วนร่วมขององค์กรท้องถิ่นในรูปของคณะกรรมการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่คนและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอย่างสมบูรณ์