จันทบุรี-คนร้ายอุกอาจเรียกสาวแม่ลูกอ่อนมานั่งคุยเรื่องเงิน หลังตกลงกันไม่ได้ใช้อาวุธปืนที่เตรียมมายิงเข้าที่ศีรษะด้านหลังทะลุหน้าผากเสียชีวิตต่อหน้าลูก และมารดาหน้าบ้านพักกลางเมืองจันทบุรี ตร.คาดสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องหนี้สิ้น
วันนี้ (28 พ.ค.) ร.ต.ท.อุกฤษณ์ แพงไสง ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันเสียชีวิต ที่หน้าบ้านเลขที่ 30/11 หมู่ที่ 3 หมู่บ้านกานดา 2 ตำบลเกาะขวาง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี หลังรับแจ้ง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี
พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิงทราบชื่อ นางรัตนา แซ่เตียว อายุ 39 ปี ทำงานเป็นแคชเชียร์อยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดตราด สภาพศพนอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่หน้าบ้านข้างโต๊ะม้าหินอ่อน ตรวจสอบพบว่ าถูกยิงเข้าที่ศีรษะด้านหลังทะลุหน้าผาก 1 นัด ในที่เกิดเหตุพบลูกกระสุนปืนขนาด .38 มม.ซูเปอร์ตกอยู่ 1 นัด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
นางจำลอง เทสะ อายุ 60 ปี มารดาของผู้เสียชีวิตกำลังนั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจ ก่อนให้การว่า ได้มีคนร้ายขับรถยนต์มาจอดหน้าบ้าน ก่อนจะลงจากรถยนต์มาเรียกลูกสาวให้ออกมานั่งคุยกันหน้าบ้านบริเวณโต๊ะม้าหินอ่อน สักพักได้ยินเสียงปืน 1 นัด เมื่อออกมาก็พบว่าลูกสาวถูกยิง จากนั้นคนร้ายซึ่งคาดว่าน่าจะมากัน 2 คน หลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์หลบหนี เมื่อตั้งสติได้จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
นางจำลอง ยังให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยว่า ลูกสาวมีหนี้สินอยู่เป็นจำนวนมาก เคยมีคนตามมาทวงหนี้บ่อยครั้ง ส่วนเรื่องลูกสาวไปโกงเงินร้านอาหารมาหลายล้านบาทนั้นตนเองไม่รู้ เพราะลูกสาวไม่เคยพูดให้ฟัง
ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานการเสียชีวิตไว้ 2 ประเด็น คือ 1.เรื่องผู้เสียชีวิตไปโกงเงินร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดตราดมาหลายล้านบาท และถูกคนร้ายตามมาเก็บ หลังจากการเจรจาไม่เป็นผล หรือ 2.อาจจะเป็นประเด็นที่ผู้เสียชีวิตเป็นหนี้เงินนอกระบบ และถูกคนร้ายตามมาทวงหนี้หลายครั้งแล้ว และมีการเจรจากันแต่ตกลงกันไม่ได้จึงถูกยิงเสียชีวิต
ซึ่งทั้ง 2 ประเด็น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการสืบหาพยานแวดล้อม และหลักฐานในที่เกิดเหตุอีกครั้งต่อไป ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างอุกอาจ ทาง พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานเพิ่มเติม และหาข่าวเพื่อติดตามคนร้ายทั้ง 2 คนนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยด่วนแล้ว