นครศรีฯ เตรียมความพร้อมเปิดประตูระบายน้ำ “อุทกวิภาชประสิทธิ์”

นครศรีธรรมราช - เจ้าหน้าที่โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เร่งปรับปรุงทัศนียภาพ และความสะอาดของประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ์ เตรียมรับพระราชพิธีวันเสาร์นี้

นายปริญญา สัคคะนายก ผอ.ศูนย์อำนวยการ และประสานการพัฒนาพื้นลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้เตรียมความพร้อมสำหรับพระราชพิธีเปิดประตูระบายน้ำ “อุทกวิภาชประสิทธิ์” ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2555 นี้ว่า ทางสำนักงานได้มีการปรับปรุงสถานที่ภูมิทัศน์รอบๆ ประตูน้ำฯ และรวมถึงการทาสีตัวอาคารประตูระบายน้ำใหม่ สำหรับชื่อประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ์นั้น หมายถึง ประตูที่ประสบความสำเร็จเรื่องน้ำซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ชาวนครศรีฯ เป็นอย่างมาก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงเปิดโครงการประตูระบายน้ำ มีการปรับปรุงอาคารสถานที่เพื่อความสวยงามรองรับแขกจำนวน 2,500 คน

ส่วนพิธีการในส่วนของจังหวัด ได้มีการเตรียมเวทีกลางการแสดงในส่วนของจังหวัด เพื่อให้ประชาชนได้ชื่นชมพระบารมี มีการแสดงนิทรรศการในส่วนของพิธีเปิด ส่วนกลางก็จะมีการเชื่อมโยงกับภูมิภาค โดยจะมีการแปรอักษรทรงพระเจริญ โดยแต่ละภูมิภาคทั้ง 5 แห่ง ก็จะมีการแบ่งตัวอักษรกันไป ซึ่งในวันนั้น คาดว่า ที่บริเวณประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ์ จะสวยงามด้วยวิวทิวทัศน์ และการตกแต่ง คนทั้งประเทศจะได้ชื่นชมด้วย ซึ่งทางโครงการจะมีการเตรียมตั้งเต็นท์ขนาดใหญ่ในการรองรับ

โดยที่โครงการลุ่มน้ำปากพนังนั้น ในแต่ละปี จะมีประชาชนเข้ามาเยี่ยมชมจำนวนไม่ต่ำกว่า 70,000 คน เพราะที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ มีพระตำหนักประทับแรมที่สวยงาม ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของ จ.นครศรีธรรมราช ด้วย

สำหรับโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีพื้นที่มากกว่า 2 ล้านไร่ ปัญหาที่ผ่านมาของที่นี่คือ 4 น้ำ 3 รส คือปัญหาน้ำท่วม, น้ำแล้ง, น้ำเค็มรุกตัว และน้ำเปรี้ยว หลังจากมีโครงการพระราชดำริแล้ว ปัญหาต่างๆ ได้ลดน้อยถอยลงไปตามลำดับ ได้มีน้ำจืดที่อุดมสมบูรณ์ ในพื้นที่น้ำท่วมก็บรรเทาเบาบางลงไปมาก น้ำเปรี้ยวที่เคยไหลออกมาก็ลดตัวลง น้ำเค็มแทบจะไม่มีเลย

“ซึ่งถือเป็นโครงการหลักที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงวางแบบไว้ครบถ้วนทั้งเรื่องของการพัฒนาอาชีพ และการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม ขณะนี้ นาข้าวที่เป็นนาปีสามารถได้ถึง 400,000 กว่าไร่ นาปรัง 200,000 กว่าไร่ ซึ่งผลผลิตข้าวจะได้ค่อนข้างมาก และยังมีไร่นาสวนผสม กับเรื่องของปศุสัตว์ เรื่องของการประมง เพราะมีแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งสามารถเพิ่มพูนรายได้แก่เกษตรกร การเพาะเลี้ยงชายฝั่งก็เพิ่มขึ้นในส่วนของผลผลิต และสิ่งสำคัญ การปลูกฝังการอนุรักษ์ลุ่มน้ำปากพนังก็มีความคืบหน้าไปพอสมควร แม้จะมีปัญหาการบุกรุกพื้นที่พรุบ้างก็ตาม” นายปริญญากล่าว