คอลัมน์ : ด้ามขวานผ่าซาก
โดย...ปิยะโชติ อินทรนิวาส
มองภาพสังคมไทยที่กำลังผจญมรสุมรุมเร้าจากวิกฤตนานาชนิด ทั้งจากภายใน และนอกประเทศเวลานี้ บอกได้คำเดียวว่า อาการน่าเป็นห่วงเอามากๆ แต่ดูเหมือนว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยจะรู้สึกรู้สากับมรสุมวิกฤตเหล่านี้มากนัก?!
พายุวิกฤตจากนอกประเทศที่พัดพามากระทบไทยมีหลายลูก และหลายระลอกเหลือเกิน ที่คาดการณ์กันว่าจะหนักหนาสาหัสเอาการในอีกไม่นานคือ วิกฤตหนี้ยูโร ความจริงก็ได้ส่งระลอกคลื่นลมมาถึงไทยต่อเนื่องช่วง 2-3 ปีมานี้ แต่ดูเหมือนรัฐบาลเพิ่งจะตื่นเตรียมตัวรับมือเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แถม 10 มาตรการที่ประกาศออกมา ก็ยังดูเลื่อนลอยเอ้อระเหยไม่ต่างจากท่าทีของผู้นำ
ก่อนหน้าไม่นาน มีวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์กระหน่ำมาทีหนึ่งแล้ว ยังดีที่ความเป็นพี่เบิ้มของอเมริกาสามารถไปเบ่ง และแย่งยึดเอาทรัพยากรจากประเทศอื่นๆ มาเกื้อหนุนไว้ไม่ให้กระทบหนัก นี่ไม่นับรวมการที่ไทยถูกกระทำย่ำยีจากนักล่าอาณานิคมยุคใหม่ ซึ่งใช้วิธีการโจมตีทางเศรษฐกิจบ้าง ใช้อำนาจบาตรใหญ่บ้าง หรือไม่ก็รวมหัวกับคนไทยขายชาติเข้าฮุบเอาทั้งแผ่นดิน และทรัพยากร
ส่วนพายุวิกฤตในประเทศก็มีเกลื่อนกลาด แถมกำลังปั่นป่วนสังคมไทยได้อย่างอุกฉกรรจ์เสียด้วย ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ส่งออกมีปัญหา สินค้าแพง ค่าแรงต่ำ วิกฤตทางสังคม ความล่มสลายของระบบการศึกษา และครอบครัว เยาวชนมั่วเซ็กซ์ ติดยา ขายตัว วิกฤตทางศาสนา พุทธพาณิชย์ ขายบุญล้างบาป มีแก๊งพยายามดันพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติที่อาจนำไปสู่ความแตกแยกครั้งใหญ่ จนเวลานี้ ศาสนาถูกทำให้ไม่สามารถเป็นหลักชัยในชีวิตได้เหมือนวันเก่าๆ เกิดวัฒนธรรมมุ่งบริโภค สร้างค่านิยมแปลกแยก
และที่กำลังเป็นที่จับตาของผู้คนในสังคมไทยมากที่สุดก็คือ วิกฤตการเมืองการปกครอง ซึ่งมากมายไปด้วยเล่ห์กล กักขฬะ แอบอ้างว่าเป็นประชาธิปไตย แต่ซื้อสิทธิ-ขายเสียงกันโจ๋งครึ่ม ตั้งแก๊งป่วนบ้านเผาเมือง ตั้งก๊วนข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม แม้กระทั่งศาลสูงในกระบวนการยุติธรรมก็ไม่เว้น สร้างระบอบสานเครือข่ายยึดอำนาจรัฐ แต่ทั้งหมดทั้งปวงนำไปสู่การกินบ้านกินเมือง แถมมีแนวโน้มว่า จะทำให้ไทยเสียดินแดนอีกด้วย ซึ่งความเลวร้ายเหล่านี้ล้วนปรากฏเป็นภาพให้เห็นมาต่อเนื่องยาวนาน จนอาจจะกล่าวได้ว่าเวลานี้ แทบทุกกระเบียดนิ้วในสังคมล้วนต้องผจญมรสุมวิกฤต
นั่นน่าจะเป็นการสะท้อนภาพรวมของสังคมไทย ณ ห้วงปัจจุบันได้พอสมควร!!
แต่เชื่อไหมว่า ที่คนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้สึกรู้สาอะไรนัก อาจเป็นเพราะชอบมองปรากฏการณ์ต่างๆ แบบเรียลิตี จนทำให้พานคิดไปว่า การถอยร่นในกลเกมการเมืองต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎหมายปรองดอง การล้มล้างรัฐธรรมนูญ หรือแม้กระทั่ง ที่จะให้องค์การนาซาของอเมริกามาใช้ฐานทัพในไทย ภาพเหล่านี้ กำลังจะนำไปสู่ความพ่ายแพ้ของนักโทษหนีคุกไทยไปบงการปั่นป่วนบ้านเมืองอยู่ต่างประเทศที่ชื่อ
“ทักษิณ ชินวัตร”
อีกทั้งเครือข่ายที่เขาสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการครอบงำสังคมไทย และยึดอำนาจรัฐคือ
“ระบอบทักษิณ”
รวมถึงขุมข่ายธุรกิจที่ชักใยเป็นร่างแหกัดกิน และกอบโกยเอาจากประเทศชาติ และประชาชนคือ
“ระบอบชินวัตร”
ทว่า ในความเห็นของผมแล้ว กลับคิดว่าเป็นไปได้ยากยิ่งที่คนอย่างทักษิณ ชินวัตร จะพ่ายแพ้ หรือระบอบทักษิณ และระบอบชินวัตรจะล่มสลาย เพราะว่า สิ่งที่ทำให้ทั้งคน และระบอบที่เขาสร้างขึ้นมายิ่งใหญ่ได้ถึงทุกวันนี้ จนมีทรัพย์สินมูลค่าหลายแสนล้านบาทดังที่เห็นๆ กันอยู่ หรืออาจจะนับล้านล้านบาท หากรวมที่หมกเอาไว้ด้วยนั้น พลังอำนาจ และพลังเงินที่อยู่ในมือมีหรือจะทำให้เกิดการแพ้พ่ายกันได้ง่ายๆ
อีกทั้งผมยังเชื่อด้วยว่า การถอยร่นในเกมการเมืองเหล่านี้ ไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไรมากนักต่อความมุ่งมั่นที่จะตั้ง “รัฐไทยใหม่” ที่ทักษิณ ชินวัตร ได้ขึ้นกลับมาเป็นใหญ่ แล้วระบอบทักษิณสามารถยึดครองอำนาจรัฐได้สะดวกขึ้น รวมถึงระบอบชินวัตรก็สามารถหากิน และกอบโกยได้คล่องขึ้น
แน่นอนครับ ผลกระทบอาจจะมีบ้างที่ทำให้นายใหญ่ของพลพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดงต้องเลื่อนเวลากลับมาเหยียบแผ่นดินไทยแบบเท่ๆ ตามที่ประกาศไว้ แต่ในส่วนอื่นๆ แล้วผมยังแทบไม่เห็นว่าจะมีอะไรทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปมากกว่านี้
ทำไมผมจึงคิดเช่นนั้นหรือครับ??
สิ่งที่ยืนยันก็น่าจะเป็นเรื่องที่เรารับรู้กันอยู่แล้ว แม้ทักษิณ ชินวัตร จะพ่นลมปากฝากคำพูดเสนาะหูไว้มากมาย แต่ไม่เคยมีสักวันเดียวที่เขาจะไม่เจ้ากี้เจ้าการบงการให้เครือข่ายยึดและครอบงำสังคมไทย พลังอำนาจ และพลังเงินตราที่เขามีอยู่ทำให้เชื่อกันไปว่า เลือกตั้งเมื่อไหร่พรรคเพื่อไทยก็สามารถเอาชนะได้วันยังค่ำ ไม่ว่าจะประชาธิปัตย์ หรือพรรคการเมืองอื่นๆ แทบจะไม่มีน้ำยาอะไรไปเทียบเทียมได้ แถมการจะให้อำนาจนอกระบบเข้ามาเกื้อหนุน หรือเกิดการรัฐประหาร แล้วขุนทหารสั่งให้สลับขั้วข้างอย่างที่เคยเกิดขึ้น ดูจากภาวะแวดล้อมแล้วเรื่องอย่างนี้ยากที่จะทำได้อีกต่อไป
ไม่เพียงเท่านั้น มีเป็นภาพที่ปรากฏซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้เห็นมาตลอด ในมรสุมวิกฤตที่กระหนำชาติบ้านเมือง ไม่ว่าจะด้วยนำมือของทักษิณ ชินวัตร หรือเครือข่ายของเขามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ก็ตาม แต่ทั้งเขา และระบอบของเขากลับสามารถพลิกให้เกิดประโยชน์ได้กับฝ่ายตนเองเสมอๆ
อย่างวิกฤตอุทกภัยเมื่อปีที่แล้วนั่นไง เวลานี้ ก็กำลังตักตวงกันสนุกสนาน หรือวิกฤตที่ไทยกำลังจะเสียเขาพระวิหาร และดินแดนตามแนวตะเข็บชายแดนให้เขมร เสียอธิปไตยให้แก่นาซา และกองทัพอเมริกา วิกฤตไฟใต้ที่มีแนวโน้มจะยิ่งคุโชน และลุกลามขึ้นเรื่อยๆ ทั้งหมดทั้งปวงก็เห็นกันแล้วไม่ใช่หรือว่า ทักษิณ ชินวัตร ระบอบทักษิณ และระบอบชินวัตรสามารถแปรเป็นโอกาสได้ตลอด
แล้วอย่างนี้จะไปคาดหวังอะไรกับการถอยร่นแบบมีชั้นเชิงทางการเมืองดังที่ว่า!!
ถึงตรงนี้อยากถามผู้อ่านว่า สังคมไทยเราจะหลุดพ้นมรสุมวิกฤตเล่านี้ได้อย่างไร และเมื่อทักษิณ ชินวัตร ระบอบทักษิณ รวมถึงระบอบชินวัตร ไม่มีวันพ่ายแพ้ ไม่ว่าจะในอดีตที่ผ่านมา ห้วงเวลาปัจจุบัน และในอนาคตข้างหน้า แล้วใครกันเล่าที่ได้รับความพ่ายแพ้อย่างแท้จริง?!?!
โดย...ปิยะโชติ อินทรนิวาส
มองภาพสังคมไทยที่กำลังผจญมรสุมรุมเร้าจากวิกฤตนานาชนิด ทั้งจากภายใน และนอกประเทศเวลานี้ บอกได้คำเดียวว่า อาการน่าเป็นห่วงเอามากๆ แต่ดูเหมือนว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยจะรู้สึกรู้สากับมรสุมวิกฤตเหล่านี้มากนัก?!
พายุวิกฤตจากนอกประเทศที่พัดพามากระทบไทยมีหลายลูก และหลายระลอกเหลือเกิน ที่คาดการณ์กันว่าจะหนักหนาสาหัสเอาการในอีกไม่นานคือ วิกฤตหนี้ยูโร ความจริงก็ได้ส่งระลอกคลื่นลมมาถึงไทยต่อเนื่องช่วง 2-3 ปีมานี้ แต่ดูเหมือนรัฐบาลเพิ่งจะตื่นเตรียมตัวรับมือเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แถม 10 มาตรการที่ประกาศออกมา ก็ยังดูเลื่อนลอยเอ้อระเหยไม่ต่างจากท่าทีของผู้นำ
ก่อนหน้าไม่นาน มีวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์กระหน่ำมาทีหนึ่งแล้ว ยังดีที่ความเป็นพี่เบิ้มของอเมริกาสามารถไปเบ่ง และแย่งยึดเอาทรัพยากรจากประเทศอื่นๆ มาเกื้อหนุนไว้ไม่ให้กระทบหนัก นี่ไม่นับรวมการที่ไทยถูกกระทำย่ำยีจากนักล่าอาณานิคมยุคใหม่ ซึ่งใช้วิธีการโจมตีทางเศรษฐกิจบ้าง ใช้อำนาจบาตรใหญ่บ้าง หรือไม่ก็รวมหัวกับคนไทยขายชาติเข้าฮุบเอาทั้งแผ่นดิน และทรัพยากร
ส่วนพายุวิกฤตในประเทศก็มีเกลื่อนกลาด แถมกำลังปั่นป่วนสังคมไทยได้อย่างอุกฉกรรจ์เสียด้วย ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ส่งออกมีปัญหา สินค้าแพง ค่าแรงต่ำ วิกฤตทางสังคม ความล่มสลายของระบบการศึกษา และครอบครัว เยาวชนมั่วเซ็กซ์ ติดยา ขายตัว วิกฤตทางศาสนา พุทธพาณิชย์ ขายบุญล้างบาป มีแก๊งพยายามดันพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติที่อาจนำไปสู่ความแตกแยกครั้งใหญ่ จนเวลานี้ ศาสนาถูกทำให้ไม่สามารถเป็นหลักชัยในชีวิตได้เหมือนวันเก่าๆ เกิดวัฒนธรรมมุ่งบริโภค สร้างค่านิยมแปลกแยก
และที่กำลังเป็นที่จับตาของผู้คนในสังคมไทยมากที่สุดก็คือ วิกฤตการเมืองการปกครอง ซึ่งมากมายไปด้วยเล่ห์กล กักขฬะ แอบอ้างว่าเป็นประชาธิปไตย แต่ซื้อสิทธิ-ขายเสียงกันโจ๋งครึ่ม ตั้งแก๊งป่วนบ้านเผาเมือง ตั้งก๊วนข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม แม้กระทั่งศาลสูงในกระบวนการยุติธรรมก็ไม่เว้น สร้างระบอบสานเครือข่ายยึดอำนาจรัฐ แต่ทั้งหมดทั้งปวงนำไปสู่การกินบ้านกินเมือง แถมมีแนวโน้มว่า จะทำให้ไทยเสียดินแดนอีกด้วย ซึ่งความเลวร้ายเหล่านี้ล้วนปรากฏเป็นภาพให้เห็นมาต่อเนื่องยาวนาน จนอาจจะกล่าวได้ว่าเวลานี้ แทบทุกกระเบียดนิ้วในสังคมล้วนต้องผจญมรสุมวิกฤต
นั่นน่าจะเป็นการสะท้อนภาพรวมของสังคมไทย ณ ห้วงปัจจุบันได้พอสมควร!!
แต่เชื่อไหมว่า ที่คนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้สึกรู้สาอะไรนัก อาจเป็นเพราะชอบมองปรากฏการณ์ต่างๆ แบบเรียลิตี จนทำให้พานคิดไปว่า การถอยร่นในกลเกมการเมืองต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎหมายปรองดอง การล้มล้างรัฐธรรมนูญ หรือแม้กระทั่ง ที่จะให้องค์การนาซาของอเมริกามาใช้ฐานทัพในไทย ภาพเหล่านี้ กำลังจะนำไปสู่ความพ่ายแพ้ของนักโทษหนีคุกไทยไปบงการปั่นป่วนบ้านเมืองอยู่ต่างประเทศที่ชื่อ
“ทักษิณ ชินวัตร”
อีกทั้งเครือข่ายที่เขาสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการครอบงำสังคมไทย และยึดอำนาจรัฐคือ
“ระบอบทักษิณ”
รวมถึงขุมข่ายธุรกิจที่ชักใยเป็นร่างแหกัดกิน และกอบโกยเอาจากประเทศชาติ และประชาชนคือ
“ระบอบชินวัตร”
ทว่า ในความเห็นของผมแล้ว กลับคิดว่าเป็นไปได้ยากยิ่งที่คนอย่างทักษิณ ชินวัตร จะพ่ายแพ้ หรือระบอบทักษิณ และระบอบชินวัตรจะล่มสลาย เพราะว่า สิ่งที่ทำให้ทั้งคน และระบอบที่เขาสร้างขึ้นมายิ่งใหญ่ได้ถึงทุกวันนี้ จนมีทรัพย์สินมูลค่าหลายแสนล้านบาทดังที่เห็นๆ กันอยู่ หรืออาจจะนับล้านล้านบาท หากรวมที่หมกเอาไว้ด้วยนั้น พลังอำนาจ และพลังเงินที่อยู่ในมือมีหรือจะทำให้เกิดการแพ้พ่ายกันได้ง่ายๆ
อีกทั้งผมยังเชื่อด้วยว่า การถอยร่นในเกมการเมืองเหล่านี้ ไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไรมากนักต่อความมุ่งมั่นที่จะตั้ง “รัฐไทยใหม่” ที่ทักษิณ ชินวัตร ได้ขึ้นกลับมาเป็นใหญ่ แล้วระบอบทักษิณสามารถยึดครองอำนาจรัฐได้สะดวกขึ้น รวมถึงระบอบชินวัตรก็สามารถหากิน และกอบโกยได้คล่องขึ้น
แน่นอนครับ ผลกระทบอาจจะมีบ้างที่ทำให้นายใหญ่ของพลพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดงต้องเลื่อนเวลากลับมาเหยียบแผ่นดินไทยแบบเท่ๆ ตามที่ประกาศไว้ แต่ในส่วนอื่นๆ แล้วผมยังแทบไม่เห็นว่าจะมีอะไรทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปมากกว่านี้
ทำไมผมจึงคิดเช่นนั้นหรือครับ??
สิ่งที่ยืนยันก็น่าจะเป็นเรื่องที่เรารับรู้กันอยู่แล้ว แม้ทักษิณ ชินวัตร จะพ่นลมปากฝากคำพูดเสนาะหูไว้มากมาย แต่ไม่เคยมีสักวันเดียวที่เขาจะไม่เจ้ากี้เจ้าการบงการให้เครือข่ายยึดและครอบงำสังคมไทย พลังอำนาจ และพลังเงินตราที่เขามีอยู่ทำให้เชื่อกันไปว่า เลือกตั้งเมื่อไหร่พรรคเพื่อไทยก็สามารถเอาชนะได้วันยังค่ำ ไม่ว่าจะประชาธิปัตย์ หรือพรรคการเมืองอื่นๆ แทบจะไม่มีน้ำยาอะไรไปเทียบเทียมได้ แถมการจะให้อำนาจนอกระบบเข้ามาเกื้อหนุน หรือเกิดการรัฐประหาร แล้วขุนทหารสั่งให้สลับขั้วข้างอย่างที่เคยเกิดขึ้น ดูจากภาวะแวดล้อมแล้วเรื่องอย่างนี้ยากที่จะทำได้อีกต่อไป
ไม่เพียงเท่านั้น มีเป็นภาพที่ปรากฏซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้เห็นมาตลอด ในมรสุมวิกฤตที่กระหนำชาติบ้านเมือง ไม่ว่าจะด้วยนำมือของทักษิณ ชินวัตร หรือเครือข่ายของเขามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ก็ตาม แต่ทั้งเขา และระบอบของเขากลับสามารถพลิกให้เกิดประโยชน์ได้กับฝ่ายตนเองเสมอๆ
อย่างวิกฤตอุทกภัยเมื่อปีที่แล้วนั่นไง เวลานี้ ก็กำลังตักตวงกันสนุกสนาน หรือวิกฤตที่ไทยกำลังจะเสียเขาพระวิหาร และดินแดนตามแนวตะเข็บชายแดนให้เขมร เสียอธิปไตยให้แก่นาซา และกองทัพอเมริกา วิกฤตไฟใต้ที่มีแนวโน้มจะยิ่งคุโชน และลุกลามขึ้นเรื่อยๆ ทั้งหมดทั้งปวงก็เห็นกันแล้วไม่ใช่หรือว่า ทักษิณ ชินวัตร ระบอบทักษิณ และระบอบชินวัตรสามารถแปรเป็นโอกาสได้ตลอด
แล้วอย่างนี้จะไปคาดหวังอะไรกับการถอยร่นแบบมีชั้นเชิงทางการเมืองดังที่ว่า!!
ถึงตรงนี้อยากถามผู้อ่านว่า สังคมไทยเราจะหลุดพ้นมรสุมวิกฤตเล่านี้ได้อย่างไร และเมื่อทักษิณ ชินวัตร ระบอบทักษิณ รวมถึงระบอบชินวัตร ไม่มีวันพ่ายแพ้ ไม่ว่าจะในอดีตที่ผ่านมา ห้วงเวลาปัจจุบัน และในอนาคตข้างหน้า แล้วใครกันเล่าที่ได้รับความพ่ายแพ้อย่างแท้จริง?!?!